นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ในเฟซบุ๊คส่วนตัว Korn Chatikavanij โต้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กรณีการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ของรัฐบาล ซึ่งจะนำมาลงทุนระบบขนส่ง ซึ่งรวมถึงระบบรถไฟความเร็วสูง โดย นายกิตติรัตน์ ระบุว่า นายกรณ์ อ้างว่า เป็นผลงานของพรรคประชาธิปัตย์ สมัยเป็นรัฐบาล ว่า ไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ นายกรณ์ แนะนำให้ นายกิตติรัตน์ เข้าไปหาข้อมูลใน google ก่อนพูด
พูดความจริงกันดีกว่า
เช้านี้คุณกิตติรัตน์ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน เกี่ยวกับการกู้เงิน 2 ล้านล้าน ช่วงหนึ่งพาดพิงมาทางผมว่า..
"เรียนชี้แจงว่ามีท่านอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมาชมนิทรรศการ และท่านบอกว่าโครงการต่างๆ ที่จะลงทุนดูเหมือนไม่เป็นเรื่องใหม่อะไร เพราะว่าเป็นเรื่องที่ท่านริเริ่มไว้ ขออนุญาตใช้รายการนี้ถกเถียง ผมไม่พบว่ามีการพูดถึงระบบรถไฟความเร็วสูงขณะที่ท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผมไม่พบว่ามีการผลักดันในเรื่องรถไฟรางคู่ในช่วงที่ท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง" คุณกิตติรัตน์กล่าว
ผมอยากบอกว่าอย่ามาถกเถียงกับผมเลยครับ มีงานต้องทำก็ทำไป แต่ถ้าจะใช้สื่อของรัฐโจมตีฝั่งตรงข้าม ก็กรุณาทำการบ้านมาก่อนครับ แค่ถามข้าราชการกระทรวงคลังที่เคยทำงานกับผมก็น่าจะได้คำตอบแล้ว หรือดีกว่านั้นคือ อย่าไปรบกวนเขา แลัวกด google เอาเอง ใส่ว่า 'รถไฟความเร็วสูง กรณ์' ก็จะเห็นว่าผมได้เป็นตัวแทนของกระทรวงการคลัง ร่วมงานกับกระทรวงคมนาคม ในการเปิดตัวเส้นทางรถไฟความเร็วสูง
โครงการนี้ไม่ใช่พูดขึ้นมาลอยๆ แต่มีการเริ่มต้นโดยอดีตนายกฯอภิสิทธิ์ และอดีตรองนายกฯกอร์ปศักดิ์ ได้เดินทางไปเปิดประเด็นกับรัฐมนตรีกระทรวงรถไฟของจีนช่วงปี 2552 จากนั้นรองนายกฯสุเทพก็ได้เดินทางไปจีนเพื่อเจรจาอย่างเป็นทางการ และได้เอาหลักการมาเข้าครม. และมีการมอบหมายให้คุณกอร์ปศักดิ์เป็นประธานคณะกรรมการเจรจา เมื่อมีมติครม.ดังนี้ ทางจีนก็ส่งคณะลงมาเจรจาทันที และเราก็เอาแนวทางการร่วมลงทุนทั้งหมดเข้าสภาฯเพื่อขออนุญาตสภาฯไปเจรจาลงนาม MoU ต่อไป
หลักการคือจะมีการตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมาโดยไทยถือหุ้น 51% จีน 49% พูดง่ายๆก็คือจีนต้องใส่เงินเข้ามาด้วย ไม่ได้ใช้เงินกู้อย่างเดียวเหมือนแผนรัฐบาลปัจจุบัน
ส่วนเส้นทางคือเชื่อมรถไฟที่วิ่งจากคุนหมิง-เวียงจันทน์ กับหนองคาย-อุดรฯ-ขอนแก่น-โคราช-กรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์ สู่สิงค์โปร์
ไทยเราได้ประโยชน์มากที่สุดเพราะวิ่งอยู่ในพื้นที่เราถึง 1,600 กิโล
ถึงกับผ่านสภาฯมาแล้ว เพียงแต่เมื่อยุบสภาฯและเปลี่ยนรัฐบาล แนวทางนี้ก็ไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเพื่อไทย ก็ทำให้เสียเวลาไปอีกอย่างน้อยสองปี
ส่วนเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่นั้น กระทรวงการคลังได้นำไปเจรจากับทางญี่ปุ่นว่ามีความสนใจหรือไม่อย่างไร
ที่ผมหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาชี้แจง ก็เพราะการที่คนระดับรองนายกฯได้พูดไม่ตรงกับข้อเท็จจริงนั้น มีความน่าเป็นห่วงอยู่ 2 ประการ คือ ท่านดูเหมือนทำงานโดยไม่มีข้อมูล หรือไม่ ท่านก็โกหกสีอะไรอยู่ผมไม่ทราบ
ทางใดทางหนึ่งทำให้ผมอดเป็นห่วงประเทศชาติไม่ได้ ก็ฝากให้ท่านนายกรัฐมนตรีพิจารณาเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี