นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ บรรณาธิการข่าวการเมืองและความมั่นคง สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Sermsuk Kasitipradit ถึงการเกาะติดการแถลงคดีด้วยวาจารอบแรกต่อศาลโลก ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอแลนด์ เพื่อต่อสู้คดีในคดีที่ ประเทศกัมพูชายื่นคำร้องต่อศาลโลกเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2554 ขอให้ตีความคำพิพากษาของศาลเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2505 กรณีพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่มีใจเป็นเขมร เกาะกระแสผลงานทีมทนายไทย ซึ่งเคยออกตัวว่า หากแพ้คดี รัฐบาลชุดนี้ ไม่เกี่ยว และไม่จำเป็นต้องไปศาลโลก โดยอ้างว่าจะได้ไม่เปลืองงบประมาณ แต่พอมาถึงกลับขนคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดี รวมถึงสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม ที่นั่งคู่ในรถเบนซ์คันหรูตลอดเวลา

นายเสริมสุข ระบุว่า

ผลงานการทำงานของทีมทนายความไทยคดีปราสาทพระวิหาร เข้าตาอย่างนี้ไม่เกาะกระแสไว้ก็ไม่ใช่เพื่อไทยแล้ว...ยังจำได้วันแรกที่รมต.กต. แถลงข่าวหลังการแถลงของกพช. รมต.กต.ยังทำหน้าที่รมต.กต.กพช. ย้ำในส่งที่กพช. ฮอร์นำฮง กล่าวหาในบัลลังค์ศาลว่า สถานการณ์รุนแรงชายแดนเกิดเพราะความขัดแย้งทางการเมืองในไทย ในยุคที่มีนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี เอาคำแถลงของกพช.มาชี้แจงระหว่างแถลงข่าวที่โรงแรม หากใครตามสถานการณ์ขัดแย้งต้นปี 54 ชัดเจนว่า กพช.สร้างสถานการณ์เพื่ออ้างเหตุขอตีความในศาล..ช่วงที่ทูตไทยประจำกรุงเฮก ชี้แจงตอบโต้ อธิบายชัดเจนว่า สาเหตุขัดแย้งมาจากนโยบายที่ก้าวร้าวของรัฐบาล กพช. ต้องการครอบครองแผ่นดินไทยเพื่อใช้บริหารจัดการพท.รอบปราสาท หลังขึ้นทะเบียนมรดกโลก ไม่ได้ยินว่า รมต.กต.ใจเขมร มาชี้แจงในสิ่งที่ท่านทูตได้ชี้แจง อย่างนี้ไม่ให้เรียกว่าใจเขมรได้เยี่ยงไร....คงไม่ลืมกันนะครับ รัฐบาลุดนี้แหละที่ปลดท่านทุตออกจากรรมการ joint bounday commision JBC พิจารณาเรื่องเขตแดนระหว่างสองประเทศ คิดได้ไง เอาคนที่มีความรู้ความเข้าใจในเขตแดนมากที่สุดของไทยออกจากกรรมการเขตแดนร่วมไทย กพช....ก่อนหน้านี้ก็ออกตัวหากแพ้ในคดีก็เตรียมหาแพะ รับผิดชอบบอกรัฐบาลนี้ไม่เกี่ยว แถม รต.กต.ท่านนี้ประกาศไม่มีความจำเป็นต้องไปศาลโลก ให้คณะทำงานทำงานไป จะได้ไม่เปลืองงบประมาณ แล้วพอมาโคดเปลืองงบเจงๆ ขนใครมาเยอะแยะที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดี...รวมถึงสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม ที่นั่งคู่ในรถเบนซ์คันหรูตลอดเวลา ...