“บิ๊กตู่”โยกย้าย 98 ผู้พัน
รัฐบาลผวา
หวั่นซ้ำรอย 19 กันยาฯ
มือกระชับพื้นที่เข้ากรุงฯ
มาร์คฟันธงรัฐบาลไม่รอด
ปัญหารุมยุบสภาก่อนสิ้นปี
เมื่อวันที่ 17 พฤาภาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ลงนามในคำสั่งโยกย้ายนายทหารระดับผู้บังคับกองพันทั้งหมด 98 ตำแหน่ง ท่ามกลางกระแสข่าวสะพัดจากทำเนียบรัฐบาลว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเหมือนการปรับกำลังทหารช่วงก่อนการปฏิวัติรัฐประหาร 2549 หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวลือเรื่องการปลด ผบ.ทบ. ออกจากตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม คำสั่งดังกล่าว เป็นการปรับย้ายตามวงรอบ และไม่ได้มีการปรับย้ายในตำแหน่งคุมกำลังปฏิวัติ เพราะได้มีการปรับย้ายในโผผู้พันครั้งที่แล้ว
สำหรับตำแหน่งสำคัญ ประกอบด้วย พ.อ.ชินสรณ์ เรืองศุข นายทหารการข่าว ทภ.1 ลูกน้องเก่าของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ.เป็น เสธ.ม.1 รอ. พ.ท.ปฏิเวธ ไม้สนธิ์ หน.ฝกพ.พล.1 รอ. เป็น รอง เสธ.ร.1 รอ. พ.ต.ชาตรี วงศ์สายตา รอง ผบ.ร.1 พัน 3 รอ. เป็นหน.ฝยก.ทภ.1 พ.อ.สุรพล จันทราสา รอง เสธ.พล.ร.9 เป็นรองผบ.ร.19 พ.อ.กานต์นาท นิกรยานนท์ เสธ.ร.19 เป็นรองเสธ.พล.ร.9 พ.ท.ฐนิตพันธ์ อุหะนุตนันท์ ผบ.ร.29 พัน 3 เป็น เสธ. ร.19 พ.ท.เฉลิมพล จันทร์ต้อง หน.ฝกพ.พล.ร.9 เป็น ผบ.ร.29พัน 3 พ.ท.ทนงศักดิ์ มหาวงศ์ ผบ.กรม สน.พล.ร.9 เป็น รองผบ.ร.9 พ.อ.พนม ฉายาวัฒน์ เสธ.ร.29 เป็นรอง ผบ.ร.9พ.ท.พิเชษฐ์ หัสดีผง ผบ.ร.29 พัน 2 เป็น เสธ.ร.29 พ.ต.ศตายุ จันดาศาลา รองเสธ.ร.9เป็นผบ.ร.29 พัน 1 พ.ต.ภาสกร ภานยะกามิน รองผบ.ร.9 พัน 3 เป็นรองเสธ.ร.9
โยกผู้พันกระชัพพื้นที่เข้ากรุงฯ
ที่น่าสนใจ คือ มีการปรับย้าย พ.ท.วีระชัย ศิระสากร ผบ.ม.พัน 30 พล.ร.2รอ. เป็น ฝสธ.ประจำผู้บังคับบัญชา และ ส่ง พ.ท.มหิธร บุญครอง ฝสธ.ประจำผู้บังคับบัญชา ลูกน้องใกล้ชิด พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพน้อยที่1 ขึ้นเป็น ผบ.ม.พัน 30 พล.ร.2รอ. คุมกำลังทหารม้ารถถังของบูรพาพยัคฆ์ พ.ท.ปรีชา จันทณางกูร ผบ.ป.พัน 5เป็นนายทหารฝ่ายกำลังพล ทภ.4 พ.ท.ธนวัฒน์ จันทนะ ผช.ผู้ประสานงานยิงสนับสนุน ป.5เป็นผบ.ป.พัน5 พ.อ.จิระศักดิ์ พรรังสฤษดิ์ รองผบ.ม.4 รอ. เป็น รอง ผบ.ม.1 รอ. พ.อ.อุดม แก้วมหา เสธ.ม.5 รอ. เป็นรองผบ.ม.4 รอ. พ.ท.โกษจนาท ธูปเทียนรัตน์ หน.ฝขว. พล.ม.2 รอ.เป็น เสธ.ม.5 รอ.
นอกจากนั้นยังมีชื่อ“ผู้พันอรัญ” พ.อ.นพสิทธิ์ สิทธิพงศ์โสภณ รอง ผบ.ม.5รอ. จ.สระบุรี ผู้บังคับกองพันฯ ที่นำรถสายพานลำเลียงพล ที-85 เข้ากระชับพื้นที่บริเวณหน้า รร.สตรีวิทย์ กลับเข้ากรุงเทพฯ มาเป็น รอง ผบ.ม.1 รอ. ด้วย
เหลิมยันไม่ได้คืนเงินทักษิณ
ทางด้านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ได้พูดคุยเรื่อง ร่างพรบ. ปรองดองแห่งชาติ กับนายกรัฐมนตรี เพราะการเสนอกฎหมายเป็นเรื่องของส.ส. และถ้าพรรคเพื่อไทย จะนำร่างพรบ.ที่ตนคิดขึ้นมาไปเป็นร่างพรบ.ปรองดองของพรรคก็ยินดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากร่างพรบ.ปรองดอง ซึ่งเกี่ยวกับการเงิน จำเป็นต้องให้นายกฯรับรองหรือไม่ รตอ.เฉลิม อธิบายว่า เป็นการยกเลิกโทษทางอาญาเพื่อช่วยเหลือผู้เดือดร้อนไม่ใช่ทางแพ่งก็ไม่เห็นมีในเรื่องของเงิน 4.6 หมื่นล้าน ของ พ.ต.ท.ทัษิณ ชินวัตร ที่ถูกศาลสั่งยึด
เชื่อไม่รัฐบาลยุบสภาง่ายๆ
เมื่อถามว่า กรณีที่ฝ่ายค้านออกมาระบุว่าหากพ.ร.บ.ปรองดองผ่าน อาจส่งผลให้เกิดการยุบสภาได้ ร.ต.อ.เฉลิมย้อนถามว่า สภาประเทศไหน จะไปยุบทำไม ถ้ายุบแล้วก็ได้เป็นรัฐบาลอีก ไม่มีฟันธง ประชาธิปัตย์ค้านยาว
เมื่อซักต่อว่า เมื่อมีการบัญญัติไว้ว่าให้ยกเลิกคดีที่คตส.เคยสืบสวนสอบสวนมาให้มีผลครอบ คลุม เรื่องนี้จะส่งผลไปยังการคืนเงินให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คนละเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดองฉบับนี้เขียนเฉพาะคดีอาญา ไม่ใช่คดีแพ่ง ส่วนคนที่ออกมาพูดในเรื่องนี้เป็นพวกเพ้อฝัน ยังมีอีกหลายเรื่องที่คตส.พิจารณาคดีในทางอาญาไม่เกี่ยวกับทางแพ่ง ตนดูทรงแล้วพวกที่ออกมาค้านแสดงว่าไม่ได้อ่านกฎหมาย
เฉไฉปัดพา”ทักษิณ”กลับบ้าน
เมื่อถามว่าจะพา พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านได้เมื่อไหร่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “ท่านกลับเมื่อไหร่ ผมไม่รู้ ตอนนี้อาจจะเที่ยวสนุก เพลินแล้วก็ได้ นั่งเครื่องบินตลอด แต่ร่างพ.ร.บ.ปรองดอง ไม่ได้เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณจะกลับหรือไม่กลับ อย่าเอาเรื่องนี้ไปพัวพันตัวบุคคล เพราะผมเขียนในหลักการ ไม่ได้ระบุตัวบุคคล”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการวางแนวความคิดที่จะเปลี่ยนตัวนายกฯหรือไม่ หลังจากที่นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาวนส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็นสส.ทางรตอ.เฉลิม กล่าวว่า อันนั้นเป็นเรื่องของครอบครัวที่เขาคุยกัน
สั่งตร.จัด18กองร้อยรับม็อบแดง
รตอ.เฉลิม ยังกล่าวถึงการการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่ 19 พ.ค.นี้ เพื่อรำลึก 3 ปีเหตุการณ์การชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตำรวจดูแลเรียบร้อย ้ ตนเชื่อว่าไม่มีอะไร และคนเสื้อแดงเป็นคนน่ารัก ในยุคตนรับผิดชอบ ไม่ว่าสีไหนมาชุมนุมประท้วงทำได้เลย ไม่ยุ่งยาก
“ผมสั่งตำรวจว่าถ้าเทศกิจไปจับ ขอให้ตำรวจอยู่ห่าง 1 กิโลเมตร อย่าเข้าใกล้ และถ้าเจอ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ หรือกลุ่มพันธมิตรฯ ต้องแสดงความเคารพ ห้ามยุ่ง เดี๋ยวจะกล่าวหาว่าตำรวจหายใจดัง”รตอ.เฉลิม กล่าว
ในเรื่องดังกล่าว ทาง พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยว่า ได้เตรียมกำลังไว้ 18 กองร้อย เข้าดูแลพื้นที่ตามสถานการณ์
ม็อบไชยวัฒน์ยกระดับชุมนุม
วันเดียวกันที่สนามหลวง นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดิน แถลงว่า จากกรณีที่ส.ส. ส.ว. กว่า 300 คนได้แสดงความไม่เคารพ และปฏิเสธศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีประชาชนกลุ่มหนึ่งได้เคลื่อนไหวข่มขู่ต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงแสดงออก ถึงเจตนารมณ์โค่นล้มศาลรัฐธรรมนูญนั้น นอกจากนี้ล่าสุดนิตยสารเรดพาวเวอร์ ได้ตีพิมพ์หน้าปกที่แสดงออกถึงความต้องการให้ส่งผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงเห็นว่าเป็นการกระทำของขบวนการเดียวกันทำให้มีความเห็นจะต้องยกระดับการเคลื่อนไหวจะชุมนุมใหญ่วันที่ 18 เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป คาดว่าจะมีผู้ชุมนุมเพิ่มเป็น 50,000 คนจากเดิม 35,000 คน
นายไชยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีการคุกคามเสรีภาพคือถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบติดตามถ่ายภาพในเวลากลางคืน อีกทั้งกทม.ก็ใช้กฎหมายหลายฉบับเพื่อให้ผู้ชุมนุมออกนอกพื้นที่ แต่ตนยืนยันขออยู่ที่สนามหลวงต่อไป ตนเป็นรองผู้ว่าฯกทม.มาก่อน รู้ดีว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้
คุณชายสั่งแจ้งจับม็อบสนามหลวง
ข่าว แจ้งว่าขณะนี้ฝ่ายบริหารมีความกังวลกับท่าทีของการชุมนุมที่ไม่ยอมย้ายออกจากพื้นที่ จึงอยู่ระหว่างการหารือถึงแนวทางดำเนินการ ซึ่งอาจจะใช้แนวทางกดดันการชุมนุมโดยอาจจะนำรถสุขา ที่นำไปจอดไว้บริการออกจากพื้นที่
ขณะที่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. มอบหมายให้ผอ.เขตพระนครไปแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย และยืนยันว่ากทม.ไม่ได้มีสองมาตรฐานซึ่งเราจะต้องใช้วิธีเจรจาต่อไปเพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาในภายหลัง
ซัด”วสิษฐ-แก้วสรร”ปลุกปฏิวัติ
ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำและอดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ พร้อมด้วยนายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคตส. ร่วมกันแถลงข่าวปรากฏการณ์ไทยสปริง (Thaispring) หรือ “ดอกบัวแห่งการตื่นรู้” ปฏิเสธการบริหารงานรัฐบาลว่า ยังมีคนบางกลุ่มในสังคมไทย ที่มีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย หลงใหลการปฏิวัติรัฐประหาร หากไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลก็วิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่อย่าถึงกับวางแผนปลุกปั่นให้บ้านเมืองวุ่นวาย เพื่อเปิดทางให้มีการปฏิวัติ เพราะจะทำให้ประเทศถอยหลังลงคลอง
“รัฐบาลมีความชอบธรรมบริหารประเทศ ไม่เคยมีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักและเทิดทูนของคนไทยแต่อย่างใด ขอให้หยุดนำประเด็นเกี่ยวกับสถาบันเบื้องสูงมาใช้โจมตีรัฐบาลได้แล้ว เพราะมันไม่จริง”รท.หญิงสุณิสา ระบุ
ปชป. จี้สส.เสื้อแดงประกาศจุดยืน
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเสนอ ร่างพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ เป็นบทสรุปละครการเมืองที่ ทำมาตั้งแต่หลังรัฐประหารปี 2549 โดยเป้าหมายสุดท้ายคือการช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่จะต้องเดินให้สุดทาง จึงขอถามไปยังแกนนำคนเสื้อแดงทั้งหลายว่ามีความเห็นอย่างไรกับร่างพรบ.ฉบับนี้ แต่ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์คัดค้านกฎหมายนี้เต็มที่
มท.1รับปากเยียวยาญาติวีรชน35
ที่สวนสันติพร นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย เป็นตัวแทนของนายกรัฐมนตรีวางพวงมาลาสดุดีวีรชนที่เสียชีวิตระหว่างเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี 2535 และร่วมงานรำลึกปีที่ 21 ของเหตุการณ์ดังกล่าว โดยก่อนที่นายจารุพงศ์จะวางพวงมาลา ได้ตำหนิ อ.ส.ที่ทำหน้าที่ยกพวงมาลา ที่ได้นำพวงมาลาไปวางที่โต๊ะก่อนที่จะดำเนินการตามพิธี และบอกขั้นตอนปฏิบัติให้ อ.ส. ฟัง พร้อมกล่าวตอนท้ายว่า "มันคือละคร แต่ก็ต้องทำ"
รมว.มหาดไทย ยังได้รับข้อเสนอของญาติวีรชน ที่ต้องการให้รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาให้กับญาติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี 35 ให้เท่าเทียมกับการจ่ายเงินเยียวยากลุ่มคนเสื้อแดง
“ผมจะนำเข้าที่ประชุมกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ป.คอป.) และจะพิจารณาฟื้นมติ ครม. ปี 2546 ว่าด้วยการจ่ายเงินเยียวยาให้กับบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬให้”รมว.มหาดไทยระบุ
เสียฟอร์มโดน“จำลอง”เมินหน้าหนี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายจารุพงศ์ได้ใช้เวลาพูดคุยกับญาติวีรชนกว่า 20 นาที และก่อนที่จะเดินทางกลับ ได้เดินสวนกับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยนายจารุงพงศ์ได้ยกมือไหว้พล.ต.จำลอง และชวนคุยถึงเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ว่าเคยอยู่ร่วมในเหตุการณ์ดังกล่าวบริเวณสี่แยกคอกวัว แต่พล.ต.จำลองได้เดินเลี่ยงเข้างานไป ทำให้นายจารุงพงศ์ถึงกับหน้าเสีย ก่อนที่จะเดินทางออกจากงานดังกล่าวไป ก่อนที่พิธีบุญจะเริ่มขึ้น
อภิสิทธิ์ซัดกม.ปรองดองเพิ่มขัดแย้ง
ในวันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เข้าสภาฯ จะเป็นเผือกร้อนหรือไม่ว่า ได้เตือนแล้ว ประเด็นเหล่านี้เป็นความขัดแย้งทางสังคม ไม่มีประโยชน์อะไรต่อส่วนรวม รัฐบาลควรไปสนใจเรื่องค่าครองชีพประชาชน ราคาพืชผลทางการเกษตร และปัญหาการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก รัฐบาลควรเอาเวลาไปสะสางเรื่องเหล่านี้ดีกว่า เพื่อทำให้ภาคการเมืองทำประโยชน์เพื่อประชาชนจริงๆ ส่วนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 19 พ.ค.นี้ รัฐบาลต้องดูแลไม่ให้เกิดปัญหา ต้องเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาพูดคุย
ฟันธงรบ.ไม่รอดยุบสภาก่อนสิ้นปี
เมื่อถามว่าที่วิเคราะห์ว่ารัฐบาลอาจยุบสภาก่อนหมดวาระจะมีการเลือกตั้งภายในปีนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีการพูดกันมานาน ส.ส.ในพื้นที่สังเกตการเคลื่อนไหวของส.ส.รัฐบาล รวมถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯก็พูดหลายครั้งเรื่องการยุบสภา เราประเมินจากปัจจัยอื่นด้วย รัฐบาลเผชิญกับปัญหาตามนโยบาย พยายามผลักดันเรื่องร้อนๆรวมทั้งเปิดประเด็นความขัดแย้งในการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมแทนที่จะแก้ไขปัญหาค่าครองชีพ ราคาสินค้าเกษตรและเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและปลายปียังมีคนของรัฐบาลพ้นการถูกตัดสิทธิทางการเมืองกว่า 200คน มีหลายปัจจัยที่กดดันรัฐบาลอยู่ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะยุบสภา ภายหลังพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงินวงเงิน2 ล้านล้านบาท เราก็จะต้องเตรียมตัวให้พร้อม
พร้อมแจงศาลรธน.ปมหนีทหาร
นายอภิสิทธิ์ กล่าวยืนยันพร้อมไปชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญกรณีรับวินิจฉัยสถานภาพการเป็นสส. ของตนว่าสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106 (5) ประกอบมาตรา 102(6) หรือไม่หลังกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งปลดออกจากทหาร โดยตนพร้อมไปภายใน 15วัน และยังมั่นใจว่าคำสั่งของพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กระทรวงกลาโหมไม่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งจะนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญด้วย
ขณะที่ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ควรต้องตอบคำถามกับสังคม ในสิ่งที่สังคมสงสัย 9ประเด็นคำถาม อาทิ ใช้เอกสารเท็จสมัครเข้าเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร.จริงหรือไม่ .ไม่ได้เกณฑ์ทหารและไม่ได้รับการผ่อนผันจริงหรือไม่ .หาเอกสารผ่อนผันการไม่เข้ารับการเกณฑ์ทหาร สด.41ตัวจริง เจอหรือไม่ เป็นต้น
รบ.โต้ไม่ยุบสภาตามโหร”มาร์ค”
นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบโต้กรณีที่นายอภิสิทธ์ ออกมาระบุอาจมีการเลือกตั้งใหม่ในปีนี้โดยอ้างว่าโครงการ ประชานิยมของรัฐบาลล้มเหลว และพรรคเพื่อไทยต้องการยึดกุมอำนาจ ว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะยุบสภา ขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินงานตามนโยบายที่ให้ไว้กับประชาชน และหลายโครงการของรัฐบาลก็เริ่มประสบผลสำเร็จบ้างแล้ว ไม่ได้ล้มเหลวตามที่นายอภิสิทธิ์ทำนาย แล้วจะไปยุบเพื่อนับหนึ่งทำไม
สัญญานปรับครม.ตั้งขรก.การเมือง
ที่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาลและที่ทำการพรรคเพื่อไทยได้มีบรรดาข้าราชการเมืองในส่วนของเลขานุการรัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีอาทิกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมฯ กระทรวงอุตสาหกรรม รวมถึงสมาชิกพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดง เข้ามากรอกรายละเอียดซึ่งรายชื่อทั้งหมด นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แต่งตั้งวันที่ 21พ.ค.นี้ โดยแกนนำพรรคเพื่อไทยอ้างเป็นการเปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคสลับเปลี่ยนการทำงานและเพื่อความเหมาะสม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี