“บิ๊กตู่” ลั่นสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 แพร่ระบาดรัฐต้องคุมการนำเข้าวัคซีนช่วงแรก ย้ำต้องฉีดโดยรัฐบาล เหตุต้องรับผิดชอบคนทั้งประเทศ ระบุไม่รีบร้อนต้องตรวจสอบคุณภาพให้ปลอดภัยก่อน คาด พ.ค.-มิ.ย.เริ่มฉีด ยอมรับปีนี้วัคซีนตัวเลือกน้อย เชื่อปีหน้าช้อปปิ้งเลือกได้ ยังมั่นใจ แอสตร้าเซนเนก้า เหน็บวันนี้ขยะพิษเยอะแล้วขออย่ามีขยะสังคมเพิ่ม ห่วงสื่อทำเนียบฯจัดทีมตรวจ Swab test  

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 เวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบ Video Conference โดยก่อนการประชุมนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นำคณะเข้าพบนายกฯ เพื่อนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อรองรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ผลงานวิจัยที่ได้การสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และได้รับรางวัลการวิจัยแห่งชาติ: รางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น ประจำปีงบประมาณ 2564 โดยมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและรมว.พลังงาน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะผู้บริหาร 

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เชื้อที่แพร่ระบาดในขณะนี้มาจากพม่าแน่นอน ไม่ใช่สายพันธุ์ที่มาจากอังกฤษที่ตรวจพบในสถานกักตัว ซึ่งโชคดีที่เราสามารถควบคุมไว้ได้ โดยเฉพาะที่มาจากต่างประเทศ โชคดีเราควบคุม ตรวจสอบคัดกรองได้และหาตัวได้เจอ  

ขณะที่ นพ.ยง กล่าวว่า เชื้อต่างๆที่มาจากต่างประเทศ เป็นการติดเชื้อเร็วขึ้นแต่ความรุนแรงเท่าเดิม วัคซีนในขณะนี้ใช้ได้ เพราะระบบภูมิต้านทานอยู่ในกลุ่มเดียวกัน 

พล.อ.ประยุทธ์ จึงกล่าวว่า แค่สองเชื้อก็วุ่นพออยู่แล้ว ต้องไม่ให้มีเชื้อสายอื่นเข้ามาในประเทศ ซึ่งพื้นฐานของเชื้อเหล่านี้ใกล้เคียงกัน แต่สายพันธุ์ใหม่เผยแพร่ได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะต้องดูที่มาจากไกลๆ รอบบ้าน เพราะเราไม่รู้ว่าเขาดำเนินการได้ดีแค่ไหนอย่างไร จึงต้องไม่ประมาท เพราะอยากให้เพื่อนบ้านทุกประเทศปลอดภัย หากเขาปลอดภัยเราก็ปลอดภัย  

นายกฯ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยสั่งนำเข้าวัคซีนจากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า เนื่องจากบริษัทดังกล่าวขอเข้ามา และเราก็มีความพร้อมของ บริษัท สยามไบโอ ไซเอนซ์ ซึ่งบริษัทอื่นเรายังไม่พร้อม ทุกวัคซีนขอขึ้นทะเบียนได้เราไม่ได้ปิดกั้น ไม่ใช่เฉพาะแอสต้าเซนเนก้า โดยเขาต้องมีการรับรองมาตรฐาน จากต้นทางมาก่อนด้วย และมารับรองมาตรฐานจากเราด้วย สำหรับการฉีดเมื่อได้มาไม่ได้หมายความว่าคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะอนุญาตได้ในวันนี้พรุ่งนี้และจะฉีดได้ทันที และวัคซีนก็มาตามการจองประมาณเดือนพ.ค.-มิ.ย. ฉะนั้นจะเร่งฉีดก็ไม่มีวัคซีน ระหว่างนี้ก็ศึกษาดูว่าที่เขาฉีดกันไปนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อเตรียมมาตรการป้องกัน แต่ก็ถือว่าดีที่สุดในขณะนี้ และเราก็น่าจะตัดสินใจได้ถูก ถ้าของคนอื่นเขาได้ผลเราก็ซื้ออีก เราไม่ผูกขาดใครอยู่แล้ว ปีหน้าการผลิตวัคซีนจะมีการแข่งและผลิตกันได้เยอะ จะเป็นการแข่งกันทางการค้า ดังนั้นต้องมีคุณภาพ ราคาถูก ยอมรับอะไรทำนองนี้ และวัคซีนก็ต้องฉีดหลายครั้งหลายปีต่อๆไป ถ้ายังแพร่ระบาดอยู่คงเหมือนวัคซีนไข้หวัดธรรมดามั้ง เป็นไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สินค้าที่นำเข้ามาจะต้องมีการควบคุมดูแลก่อนในระยะแรก ใช้ในสถานการณ์แพร่ระบาดเรียกว่าฉุกเฉิน ไม่ใช่ใครก็ได้จะนำเข้าในเวลานี้ ซึ่งเป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะต้องมีความรับผิดชอบตรงนี้ จะนำเข้ามาจำนวนเท่าไหร่ วันหน้าดีขึ้นแล้วในทางพาณิชย์ค่อยว่ากันอีกที ใครจะมาฉีดเองไม่ได้ทั้งนั้นมันต้องมาจากเรา เพราะเราต้องรับผิดชอบตรงนี้ในการดูแล ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นความรับผิดชอบก็ต้องอยู่ที่บริษัทผู้ผลิตด้วยในฐานนะผู้ผลิตยา ตอนนี้ขอให้เข้าใจคำว่าฉุกเฉิน จำเป็นต้องใช้ แม้จะมีผลค้างเคียงบ้างอะไรบ้างซึ่งก็แล้วแต่กลุ่ม สื่อเวลาเสนอข่าวกรุณาดูรายละเอียดกันหน่อย ไม่เช่นนั้นจะสบสนอลหม่านกันไปหมด เรื่องที่ใครจะมีงบประมาณมาฉีดอะไรต่างๆ วันนี้มีงบประมาณก็ฉีดไม่ได้เพราะไม่มีวัคซีน เพราะรัฐบาลต้องดูแลตรงนี้ให้เพียงพอ รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลคนทั้งประเทศ มีใครสงสัยอะไรเรื่องวัคซีนหรือไม่จะได้เลิกถามกันเสียที กรุณาลงข่าวให้ดีด้วย ตนอ่านข่าวแล้วงงไปหมด 

ด้าน นพ.ยง ชี้แจงว่าปีนี้เรื่องของวัคซีนมันเป็นของผู้ขายและวัคซีนมันขาด แต่ตนเชื่อว่าปีหน้าจะเป็นของผู้ซื้อ โดยผู้ซื้อสามารถที่จะช้อปปิ้งเอาตัวดีที่สุดได้ แต่ปีนี้เราเลือกไม่ได้

จากนั้นนายกฯกล่าวว่า สำหรับเครื่องวัดการใส่หน้ากากอนามัยนั้นขอแนะนำให้ไปติดตั้งในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งคนเราต้องมีวินัย สื่อต้องสอนให้คนมีวินัย อย่าสอนให้คนไม่มีวินัย ตนขอแค่นั้น วันนี้มีผลงานวิจัยปัญญาประดิษฐ์มาให้ดูก็ต้องศึกษา ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นแบบเดิมคุยกันคนละภาษา ส่วนเครื่องผลิตละอองฆ่าเชื้อในอากาศที่ผลิตมาอยากให้ไปคิดต่อยอดว่าจะสามารถนำละอองนี้ไปเติมในระบบแอร์ได้หรือไม่ วันนี้รัฐริเริ่มการผลิตส่วนภาคราชการต้องนำไปใช้ นั่นคือสิ่งที่รัฐบาลมุ่งหวังนวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งนี้นายกฯได้ขอบคุณบรรดาแพทย์ นักวิจัย ที่มีผลงานวิจัยและนวัตกรรมต่างๆออกมา  

จากนั้นนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะผู้บริหาร เข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ “ฮาวทูแยก - แยกอย่างไรไม่ให้ติดเชื้อ” เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ “ฮาวทูแยก - แยกอย่างไรไม่ให้ติดเชื้อ”และเพื่อส่งมอบอุปกรณ์ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ ประกอบด้วย ถังขยะสีแดง แบบลดการสัมผัส ด้วยการใช้เท้าเหยียบในการเปิดตัวถัง ความจุ 120 ลิตร สำหรับคัดแยกขยะมูลฝอยติดเชื้อ จำนวน 300 ใบ และถุงขยะสีแดงสำหรับใส่ขยะมูลฝอยติดเชื้อ จำนวน 35,000 ใบ ซึ่งผลิตจากเม็ดพลาสติกคุณภาพสูง InnoPlus มีความทนทาน แข็งแรง เหนียว ป้องกันความชื้น ลดการแพร่กระจายเชื้อ ปลอดภัยต่อการจัดเก็บขยะ และได้รับการรับรอง Carbon Footprint ซึ่งการส่งมอบอุปกรณ์ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อครั้งนี้ เป็นโครงการนำร่องเพื่อนำไปแจกจ่ายในพื้นที่เสี่ยง อาทิ สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง เป็นต้น โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC และคณะ

โดยนายกฯได้นำร่องทิ้งหน้ากากอนามัยในถังขยะสีแดงสำหรับคัดแยกขยะติดเชื้อ  พร้อมกล่าวว่า ทิ้งขยะให้ถูกที่ ขยะมีพิษตนได้ให้ประสานงานไปที่ GC ให้ช่วยกัน โดยต้องพยายามสร้างการรับรู้ให้ได้ เพราะวันนี้ขยะติดเชื้อไม่ใช่มีเฉพาะหน้ากากอนามัยอย่างเดียวแต่มีจากโรงพยาบาลและสถานที่อื่นๆอีก ดังนั้นต้องมีการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งเราเคยมีแผนอยู่แล้วในการสร้างโรงงานขยะ แต่บางพื้นที่ยังมีปัญหาอยู่ หาพื้นที่ไม่ได้ ประชาชนไม่ยอม อะไรทำนองนี้ ตรงนี้จะแก้ปัญหากันอย่างไรต้องขอความร่วมมือก็แล้วกัน เพื่อความปลอดภัย หากโรงงานกำจัดขยะไม่กระจายไปบางพื้นที่ก็จะต้องมีการขนย้ายขยะไปทิ้งหรือไปทำลายข้ามจังหวัด ซึ่งมันอันตรายเหมือนกัน หากทุกจังหวัดหรือทุกภาคมีโรงกำจัดขยะการขนส่งก็จะถูกขึ้น ดังนั้นท้องถิ่นต้องร่วมมือกันตรงนี้ ต้องคิดให้ครบ ถ้าพูดชั้นเดียวมันก็คือชั้นเดียว ต้องพูดถึงเหตุผลคืออะไร และจะร่วมมือกันได้อย่างไร

“เรามีอะไรดีๆอยู่เยอะ อย่าว่ากันนักเลย สาระสำคัญในการทำงานมันมีสาระมีข้อปลีกย่อยเยอะ ฉะนั้นกรุณาช่วยกันคิดศึกษาจะได้สร้างความเข้าใจไปพร้อมเพียงกัน ไม่อย่างนั้นเวลาประชาชนอ่านสื่อจะไม่เข้าใจ ผมไม่โทษสื่อแต่สื่อต้องพัฒนาให้ตรงกับที่เราคิดว่าใช่หรือไม่ถูกหรือไม่ ถ้าเสนอไปแบบถูกต้องไม่ว่า แต่ถ้าเสนอแล้วไม่ตรงเลยมันก็ลำบาก แต่นายกฯไม่โทษสื่อหรอก วันนี้ขยะพิษ หน้ากาก โคโรนาเยอะแล้ว อย่าสร้างขยะอย่างอื่นก็แล้วกัน พวกขยะสังคมอะไรพวกนี้อย่ามีอีก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯยังดูชุดอุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรค พร้อมกล่าวว่า สิ่งนี้เกิดจากรัฐบาลชุดนี้ จากการที่ตนไปเยี่ยมสมาคมสิ่งทอทราบว่าเขามีขีดความสามารถในการผลิตชุดอุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรค ตนจึงให้ลองผลิตโดยให้ผ่านมาตรฐานการรับรอง ปรากฏว่าใช้ได้หลายครั้งอายุยาวกว่าที่สั่งมาจากเมืองนอก ราคาก็ถูกว่า และชุดที่นำมาโชว์นี้สามารถซักและนำมาใช้ได้ถึง 20 ครั้ง ราคาเพียง 400 บาท แต่ถ้าคุณภาพดีกว่านี้ก็ราคา 1,000 กว่าบาท ชุดนี้ปลอดภัยสำหรับแพทย์ หมอ พยาบาล เขาอยู่หน้างานมีความเสี่ยงสูง ฉะนั้นการฉีดวัคซีนต้องดูตรงนี้ด้วย เขาเสี่ยงการติดเชื้อ ถ้าเชื้อเราสามารถควบคุมได้รู้ว่าเกิดจากที่ไหนมันก็จบ ให้ทุกคนปลอดภัยและไม่แพร่ไปตรงอื่น จะไปบอกว่าแพร่ตรงนั้นตรงนี้โดยที่คนไม่เข้าใจมันไม่ได้ มันไม่ได้แก้ง่ายเพราะคนมันเยอะ คนอยู่หน้างานมีโอกาสติดเชื้อได้เพราะเชื้อแฝงมีอยู่แล้ว ตนเป็นห่วงพวกเขาและนี่คือสิ่งที่รัฐบาลนี้ทำ และยังทำให้สมาคมสิ่งทอมีรายได้ ขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนทำงานด้วยกัน

อย่างไรก็ตามวันนี้นายกฯเป็นห่วง แม้แต่สื่อในทำเนียบรัฐบาลด้วยจึงสั่งให้ตรวจโควิด-19 และนายกฯก็ตรวจเป็นระยะอยู่แล้ว ที่ตรวจเมื่อวันที่ 18 ม.ค.คือ Swab test มีผลแม่นยำ 100เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ Rapid test

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีข่าวดีในการผ่อนปรนมาตรการต่างๆในสิ้นเดือนนี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ก็มีการพิจารณาอยู่ โดยต้องดูสถานการณ์เป็นวันๆ