ร้าวหนัก!‘สามารถ’ข้องใจทำไม‘พปชร.’เดือดร้อนแทน‘รัฐบาล-นายกฯ’ สงสัยเป็น‘ลูกไล่’หรือ‘พรรคร่วม’กันแน่ ยันวิจารณ์ในนามส่วนตัว ไม่ทำพรรคเสียหาย ชี้ทำไม่ได้ก็เขียนในข้อบังคับกำกับไว้ ระอุลาม‘อรรถกร’เดินสวนมาพอดี ทำท่าแบะปาก-ส่ายหน้า-โบกมือกวน
เมื่อเวลา 11.10 น.วันที่ 31 ก.ค.2567 ที่รัฐสภา นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ แสดงความไม่พอใจต่อการเคลื่อนไหว โดยเตือนหากยังไม่จบ ไม่หยุดการกระทำ จะใช้มติกรรมการบริหารพรรค ขับไล่ออกไป ว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรมาก เพราะตนไม่ได้ทำอะไรให้พรรคเสียหาย สิ่งที่ตนทำไม่ว่าจะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ก็ทำในนามส่วนตัว ตามเสรีภาพ บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ไม่เคยใส่เสื้อพรรคพลังประชารัฐไปด่านายกรัฐมนตรี ตนแค่ออกมาพูดแทนประชาชนที่วันนี้กำลังเดือดร้อนเรื่องปากท้อง
“ถ้าท่านนายกรัฐมนตรี คุณเศรษฐา ทวีสิน พูดว่าเสียหาย คุณเศรษฐาก็ฟ้องผมได้ แต่ปรากฏว่าตั้งแต่พูดมาจนถึงปัจจุบัน คุณเศรษฐาไม่เคยฟ้องผมแม้แต่คดีเดียว ไม่เคยมี สส.หรือสมาชิกพรรคเพื่อไทย ออกมาโต้ตอบผมแม้แต่คนเดียว กลับกันพรรคพลังประชารัฐเดือดร้อนแทนนายกรัฐมนตรี ผมเลยงงว่าพรรคเป็นพรรคลูกไล่ หรือพรรคร่วมรัฐบาล คำว่าพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ใช่พรรคลูกไล่ หรือพรรคสาขา พรรคพลังประชารัฐเรามีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถ้าผมจะเชียร์ให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วผมผิดหรือ ผมจะต้องถูกขับออกจากพรรคหรือ” นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ยกตัวอย่าง พรรคประชาธิปัตย์ที่สมาชิกพรรคสามารถด่าหัวหน้าพรรค แต่เมื่อกรรมการบริหารพรรคเปิดข้อบังคับ เพื่อหาวิธีขับสมาชิกพรรคคนนั้นออกจากพรรค จนทุกวันนี้ก็ยังหาไม่ได้ แถมสมาชิกพรรคคนนั้นยังขู่ว่าขับเลยจะได้ฟ้องศาล ตนจึงสงสัยว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองใช้คนละฉบับหรือไม่
“ผมเชียร์ ผมชม หัวหน้าพรรค เอาคนมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค กลับจะถูกให้ขับออกจากพรรค ผมเลยตอบไปว่าไม่ต้องขับผมหรอกครับ ถ้าขับผมแล้วสมาชิก 60,000 คน จะเดือดร้อน เพราะถ้าพูดไม่ได้ ต่อไปด่ารัฐบาลไม่ได้ ก็ต้องเขียนข้อบังคับพรรคมาว่า ห้ามพูดถึงรัฐบาล ห้ามโจมตีรัฐบาล ถ้าเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล” นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ กล่าวอีกว่า ตนไม่เคยด่ารัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐเลยสักคนเดียว ทั้งๆ ที่เห็นความเดือดร้อนของประชาชน สุดทน สุดกลั้น แต่เราเข้าใจความเป็นพรรคการเมือง เราต้องให้เกียรติกัน
นายสามารถ ยังกล่าวยกตัวอย่าง นายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี หรือนายภูมิธรรม เวชชัย ซึ่งมีตำแหน่งแห่งหนในรัฐบาล ก็ออกมาว่านายเศรษฐา แต่ไม่เคยเห็นนายเศรษฐาออกมาตำหนินายภูมิธรรม ไม่เห็นนายภูมิธรรมตำหนินายวรชัย
นายสามารถ กล่าวด้วยว่า ตนไม่เคยถูกขับพ้นพรรค แต่ขอถามกลับว่า คนที่พูดเคยถูกขับหรือเปล่า สื่อมวลชนคงรู้ คราวที่แล้วก็ทำตนเสียหายมาทีหนึ่งแล้ว แต่ตอนนั้นตนอ่อนทางการเมือง ไม่ได้ออกมาพูด ทุกคนจึงเข้าใจว่า ตนเป็นคนเลว เป็นคนชั่ว ซึ่งเมื่อผลออกมาแล้วว่า ตนไม่ผิด ท่านไม่คิดจะขอโทษตนหน่อยหรือ ไม่คิดจะทำหนังสือแถลงออกมาหน่อยหรือ คราวที่แล้วก็งุบงิบกันทำเอกสารหลุด คราวนี้มาบอกไลน์หลุด แล้วมาเบลอชื่อแบบนี้หรือ หรือกลัวว่าเปิดชื่อออกมาแล้ว จะไม่ใช่ 40 สส.จริง แบบนี้มันยุติธรรมกับตนหรือ หากวันนี้จะตั้งกรรมการสอบตน ก็ไม่ต้องสอบหรอก ตนเป็นเพียงสมาชิกพรรคตัวเล็กๆ เพราะถ้าทำแบบนั้น 60,000 คน จะออกหมด ไม่เช่นนั้น พล.อ.ประวิตรคงบอกให้ตนลาออกไปนานแล้ว
“วันที่ 14 ส.ค.ไม่มีใครรู้ว่านายเศรษฐาจะรอดหรือจะโดน แต่การเตรียมความพร้อมในฐานะพรรคการเมืองเราต้องทำ เราจะเป็นพรรครวมอย่างเดียวหรอไม่คิดจะเป็นพรรคแกนนำเลยหรรอถามว่า 40 สส.ที่แอบอ้างว่า อยากจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ไม่เคยคิดจะชูพล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ บ้างหรอ ไม่คิดจะให้พล.อ.ประวิตร มามีตำแหน่งแห่งหนในรัฐบาล เพื่อจะแก้ปัญหาให้ประชาชนเลยหรือ วันนี้ที่ท่านนั่งอยู่มันเพียงพอแล้ว ท่าน สส.ผู้ทรงเกียรติทั้งหลายไม่มีใครอยากเป็นรัฐมนตรีกันบ้างหรอ หรือท่านบอกว่าที่เขานั่งมันดีอยู่แล้ว เพียงพอแล้ว ถ้าท่านคิดอย่างนั้น ท่านก็เดินต่อไป ซึ่งมันสวนทางกับผม ในฐานะสมาชิกพรรค รักพล.อ.ประวิตรยิ่งกว่าพ่อ ยิ่งกว่าเจ้านาย ท่านเป็นคนให้โอกาสทางการเมืองผม ผมจะทำจนสุดทาง หากไม่ไหวแล้วชีวิตผมต้องเดินต่อ ทางการเมืองไม่มีใครกลัวใครทั้งนั้น คนเก่งอยู่ที่ไหนก็ได้” นายสามารถ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีการคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส ทางนายสามารถ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการคุยกัน เพราะเรื่องไม่ได้เกิดจากตน แม้จะปรับความเข้าใจกันยากขึ้นก็ไม่เป็นไร เพราะหาก ร.อ.ธรรมนัสไม่ด่าตนและตนไม่ด่า ร.อ.ธรรมนัสก็ไม่มีปัญหาอะไร การที่มาชี้แจงในวันนี้ เพราะร.อ.ธรรมนัสให้เกียรติตนมาก จึงรู้ว่ากระบวนการที่ผ่านมา รู้ตัวผู้กระทำแต่ขอไม่พูดถึง พร้อมอโหสิกรรมให้ แต่วันนี้มาขอโทษตนหน่อยก็ดี อีกทั้งยังไม่เคยเห็นกระบวนการสอบสวนว่าตนมีความผิดแต่อย่างใด ที่ผ่านมาเรื่องดังกล่าวไม่เคยเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค แต่มีเพียงกระแสข่าวออกไปว่าตนเป็นคนชั่ว คนเลว คนต่ำช้า แล้วมันยุติธรรมหรือไม่ คราวที่แล้วตนนั้นใหม่ทางการเมือง แต่วันนี้ไม่ใหม่แล้วจะไม่ยอมตายคนเดียว และไม่ยอมให้ถูกกระทำฝ่ายเดียว
เมื่อถามว่าเหตุการณ์นี้รู้สึกน้อยใจหรือไม่ นายสามารถ ย้อนถามผู้สื่อข่าวกลับมาว่า ถ้าเป็นคุณ คุณจะน้อยใจหรือไม่ ขอให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา
เมื่อถามว่าเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐได้มีการหารือเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำรอย นายสามารถ กล่าวว่า ให้เขียนข้อบังคับพรรค อย่างสถาบันทางการเมืองต้องเป็นพื้นที่พูดคุย นำปัญหาของประชาชนมาพูดคุยกัน และกำหนดเป็นนโยบาย หากไม่กล้าวิจารณ์นายกรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินได้ ใครจะเป็นที่พึ่งของประชาชน
“ขนาดคนในพรรคเพื่อไทยยังวิจารณ์นายกได้ แล้วผมเป็นใคร เป็นแค่สมาชิกพรรคตัวแค่นี้ และเวลาผมวิจารณ์นายกรัฐมนตรีผมก็วิจารณ์ในนามส่วนตัว ดังนั้นจะมาลงโทษผมเรื่องไร” นายสามารถ กล่าวทิ้งท้าย
ระหว่างที่นายสามารถให้สัมภาษณ์ ปรากฏว่านายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในสัดส่วนพรรคพลังประชารัฐ และคณะได้ลงมาชั้นล่างพอดี นายอรรถกรได้ทำท่าแบะปาก และเอามือวนที่หู ก่อนจะสายหน้าและโบกมือในอาการกวน และช่วงที่นายอรรถกร เดินผ่านวงสัมภาษณ์ไปนั้น ได้กระแอมใส่ด้วย ก่อนจะเดินออกไปทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี