18 ธ.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจักรภพ เพ็ญแข ผู้ต้องคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงและคดีลักลอบดักฟังโทรศัพท์ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ควิพากษ์วิจารณ์การดำเนินการของพรรคเพื่อไทย เมื่อเปรียบเทียบกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่าผู้บริหารพรรคเพื่อไทยจะต้องเรียนรู้เรื่องการดำเนินการขยาย บริหารฐาน และบริหารสาขาพรรคและสมาชิกพรรคอย่างจริงจัง ใช้เงินให้น้อยลงในระบบรองรับการระดมมวลชน แต่กดดันให้ ส.ส. และผู้สมัครฯ แสดงฝีมือในการจัดการจัดตั้งให้มากขึ้น
นอกจากนี้ยึดพรรคเป็นเวทีกลางระหว่างคนของพรรคโดยตรง และแนวร่วม เพื่อแสวงหานโยบายและท่าทีที่ดีมาผลักดันเป็นเรื่องสาธารณะต่อไป และอย่าหมกมุ่นเฉพาะเรื่องการเลือกตั้งเท่านั้น แต่ควรตั้งเป้าหมายที่การจัดตั้งรัฐทั้งรัฐทีเดียว
“เป็นปัญหาของเราเองโดยแท้จริง คือ ผู้มีอำนาจในพรรคมองพรรคว่า เป็นแค่นั่งร้านที่นำไปสู่ความเป็นรัฐบาล เมื่อสร้างบ้านเสร็จ นั่นคือได้เป็นรัฐบาลสมใจแล้ว ก็รื้อนั่งร้านนั้นออกไปเลยทีเดียว ความจริงพรรคไม่ใช่นั่งร้าน แต่เป็นฐานรากของความเป็นรัฐบาล ... ต้องทำพรรคให้มีความเข้มแข็งมั่นคงขนาดที่จะช่วยในการระดมมวลชน ประสานความร่วมมือในปฏิบัติการต่างๆ ทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม สร้างความเข้าใจทางการเมือง และขยายอุดมการณ์ของเรา ไปจนถึงหน่วยที่เล็กที่สุดคือหมู่บ้านและลูกบ้านแต่ละคน”
นายจักรภพ ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ทำงานมวลชนมาตลอด และยังทำอย่างเต็มที่อยู่ ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่าพรรคเพื่อไทย ความเป็นพรรคเพื่อไทยลดลงในเชิงคุณภาพและประสิทธิภาพลงเรื่อยๆ ระบบพรรคประชาธิปัตย์มีคุณภาพและประสิทธิภาพ ถึงขนาดแบ่งบทเล่นได้ โดยเอาพรรคเป็นกลไกกลางผสมผสานกิจกรรมต่างๆ เข้าด้วยกัน แถมยังสร้างความภักดีจากสมาชิกพรรคจนถึงขั้นต้องเลือกพรรคของตนเท่านั้น นี่คือความแข็งแกร่งของระบบพรรค
อ่านข้อความที่นายจักรภพโพสต์ลงเฟซบุ๊ค คลิกที่นี่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี