18 ม.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กลุ่มเกษตรกรจากทั้ง 23 อำเภอ ที่จังหวัดบุรีรัมย์ กว่า 1,000 คน ที่มาชุมนุมประท้วงหน้าศูนย์ราชการจังหวัด เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินจำนำข้าว หลังเกษตรกรได้นำข้าวเปลือกไปเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลปี 2556/57 มาเป็นเวลา 4 เดือนแล้ว  แต่ยังไม่ได้รับเงิน ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนไม่มีเงินจ่ายค่าจ้างแรงงาน ใช้จ่ายในครอบครัว  ค่าเล่าเรียนบุตรหลาน รวมถึงชำระหนี้ทั้งในและนอกระบบที่กู้ยืมมาลงทุนทำนา โดยมีการชุมนุมตั้งเวที ปิดถนนสายเลี่ยงเมือง หมายเลข 226 บุรีรัมย์ –สุรินทร์ ด้านหน้าศูนย์ราชการจังหวัด  ต.เสม็ด  อ.เมืองบุรีรัมย์ 2 ช่องจราจร พร้อมทั้งมีการกางเต็นท์ นำเสบียงอาหาร น้ำดื่มมาปักหลักชุมนุม ตั้งแต่ช่วงเช้าที่วันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา

               

ทั้งนี้ ตัวแทนเกษตรกรได้ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีโครงการการรับจำนำของรัฐบาล   และนายกรัฐมนตรี  ที่ไม่ใส่ใจความทุกข์ร้อนของชาวนา พร้อมทั้งเรียกร้องขอพบผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อมารับแถลงการณ์และข้อเรียกร้องของตัวแทนเกษตรกรที่มาชุมนุม

 

               

นายบุญมี ม่วงพาชี ตัวแทนเกษตรกรเครือข่ายชาวนาบุรีรัมย์ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายรับจำนำข้าวของชาวนา และมีชาวนาจำนวนมากที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ตั้งแต่เดือน พ.ย.56 จนถึงขณะนี้ข้าวที่นำไปจำนำกับโรงสีต่างๆ ในจังหวัดบุรีรัมย์ ปรากฏว่าชาวนายังไม่ได้รับเงินจาก ธกส.เป็นจำนวนเงิน 4,173 ล้านบาท

                

นายบุญมี กล่าวต่อว่า พวกเราชาวนามีความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสจึงได้มาทวงถามกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ธกส. นายอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ได้รับคำตอบผลัดวันมาเรื่อยๆ จากก่อนว่าจะได้รับก่อนปีใหม่ ก็เลื่อนมาเป็นวันที่ 5 ม.ค.57 และเลื่อนมาเป็นวันที่ 15 ม.ค.57 จนถึงบัดนี้ ก็ยังไม่ได้รับเงินอยู่ดี พวกเราจึงได้ออกมาชุมนุมเรียกร้องครั้งแรกที่ศาลากลางจังหวัด เมื่อวันที่ 9 ม.คง57  เมื่อถึงวันครบกำหนดก็ได้มาทวงถาม ปรากฏว่าก็ยังไม่มีความชัดเจนในการจ่ายเงินแต่อย่างใด ชาวนาต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบมาเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่ารถเกี่ยวข้าวก็ถูกทวงถามทุกวัน ดอกเบี้ยเงินกู้ก็เพิ่มขึ้น จึงขอยื่นข้อเรียกร้องผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดไปยังรัฐบาล

                

ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ นายธงชัย  ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการ จ.บุรีรัมย์ ได้ลงมารับแถลงการณ์ข้อเรียกร้องของเครือข่ายชาวนาบุรีรัมย์ โดยนายบุญมี ม่วงพาชี ตัวแทนเกษตรกรเครือข่ายชาวนาบุรีรัมย์ ได้ยื่นข้อเรียกร้องผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดไปยังรัฐบาล 5 ข้อ คือ 1.เราได้ตั้งเครือข่ายชาวนาบุรีรัมย์ขึ้นเพื่อเป็นองค์กรประสานงานในการต่อสู้เรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อไป 2.ยื่นข้อเรียกร้องผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด กำหนดเส้นตายการจ่ายเงินที่ค้างแก่ชาวนาภายในวันที่ 25 ม.ค.57 ให้จงได้ 3.รัฐบาลต้องพิจารณาดอกเบี้ยจากเงินค้างชำระให้แก่ชาวนา โดยนำไปหักดอกเบี้ยเงินกู้ ธกส. 4.ถ้าไม่สามารถชำระได้ตามเงื่อนไขเวลาที่กำหนด ทางเครือข่ายชาวนาบุรีรัมย์ จะยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ให้รับผิดชอบค่าเสียหายในทางแพ่งและทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานปล่อยปละละเว้นการทำให้เกิดความเสียหายแก่ชาวนาอย่างใหญ่หลวง และ 5.เมื่อครบกำหนดทางเครือข่ายชาวนาบุรีรัมย์จะร่วมกับองค์กรต่างๆ ในการเรียกร้องทุกแนวทางต่อไป

 

 

ผู้ว่าราชการ จ.บุรีรัมย์ พร้อมรับปากจะนำเรื่องเสนอรัฐบาล  และกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเร่งหาแนวทางช่วยเหลือคลายความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร เนื่องจากการจ่ายเงินในโครงการรับจำนำข้าวไม่ได้อยู่ในอำนาจของทางจังหวัด แต่ต้องรอการจัดสรรงบจากรัฐบาล จึงสร้างความพอใจให้กับเกษตรกร และได้พากันสลายตัวกลับไปในเวลาต่อมา

             

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลพบว่า ขณะนี้องค์การคลังสินค้า และองค์การตลาดเพื่อการเกษตร  ได้รับจำนำข้าวจากเกษตรกร จ.บุรีรัมย์ และออกใบประทวนไปแล้วรวม 291,118 ตัน ในจำนวนนี้เกษตรกรได้นำใบประทวน ไปขึ้นเงินที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรทุกสาขาในเขตพื้นที่จังหวัดแล้ว 60,546 ราย ปริมาณข้าว 272,979 ตัน คิดเป็นยอดเงินกว่า 5,157 ล้านบาท แต่ขณะนี้ ธ.ก.ส.ได้รับการจัดสรรเงินมาเพียง 1,051.49 ล้านบาท และได้จ่ายเงินให้เกษตรกรไปแล้วรวม 10,233 ราย วงเงินกว่า 984.43 ล้านบาท ส่วนเกษตรกรที่เหลืออีก 50,313 ราย วงเงินกว่า 4,173 ล้านบาท อยู่ระหว่างรอการจัดสรรงบจากรัฐบาล