ศรส.อ้าง2กพ.ปะทะแน่
คุม10จุดเสี่ยง
กองทัพเฝ้าระวังพิเศษ
จัดทีมคุ้มกันปู-ครม.ใช้สิทธิ์
สมชัยชี้8จว.ใต้หย่อนบัตรไม่ได้
ประธานกกต.แง้มส่อ'โมฆะ'
เมื่อวันที่ 31 มกราคม นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงปัญหาบัตรเลือกตั้ง สส.บัญชีรายชื่อ ในภาคใต้ ที่ไม่สามารถกระจายไปยังจังหวัดต่างๆ ได้เนื่องจากมีมวลชนคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ไปปิดล้อม ว่า คืนวันที่ 30มกราคมที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากว่า แม่ทัพภาคที่4 ส่งคนไปเจรจา แต่ กปปส.สงขลา ไม่ให้นำบัตรเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อออกมา ก็ต้องเจรจาต่อไป ถ้าเลือกตั้งไม่ได้วันนี้ วันข้างหน้าก็จัดใหม่ ตอนนี้ทั่วประเทศ 66จังหวัด ไม่มีปัญหา แต่ทราบว่า บางจังหวัดภาคตะวันออกจะไปปิดหน่วยเลือกตั้งเช่นกัน
ปธ.กกต.เล็งหาทางออกเลือกตั้ง
ประธาน กกต.กล่าต่อว่า 28เขตเลือกตั้งใน 8จังหวัดภาคใต้ที่ไม่มีผู้สมัคร ส.ส.ตรงนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายอยู่ เพราะบางคนบอกว่า เลือกตั้งทั่วไปต้องเป็นวันเดียวทั่วราชอาณาจักร หากเปิดรับสมัครใหม่จะไม่เป็นวันเดียวกัน แต่ตนคิดว่าการตีความกฎหมายต้องตีความให้เดินไปได้ ปฏิบัติได้ ไม่ใช่ตีความให้เกิดทางตัน ดังนั้นวันที่ 1กุมภาพันธ์ จะคุยกับคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายในเรื่องนี้เพราะยังมีความเห็นต่างกันอยู่ว่า จะออกเป็นพระราชกฤษฎีกา (พรฎ.) หรือประกาศ กกต.ถ้าต้องออกเป็น พรฎ.จะต้องปรึกษาหารือกับนายกฯ เพราะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ
แง้มปัญหาอื้อส่อเป็น”โมฆะ”
“ต้องหารือว่าหากมีเลือกตั้งใน 28เขตใหม่อีกครั้งจะทำให้การเลือกตั้งทั่วไปไม่เป็นวันเดียวกันตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดหรือไม่ รวมทั้งคะแนนที่กฎหมายล็อกไว้ว่า หลังปิดหีบแล้วต้องนับคะแนนที่หน่วยทันที แต่ครั้งนี้ปิดหีบแล้วและมีการนับคะแนนที่หน่วยเสร็จสิ้น คะแนนจะต้องมารอรวมกับคะแนนนอกราชอาณาจักรและคะแนนที่จะได้จากวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในและนอกเขตที่ กกต.จะจัดให้ลงคะแนนแทนลงคะแนนวันที่ 26มกราคม ในวันที่ 23กุมภาพันธ์ ซึ่งผลคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งที่ได้จะเป็นมูลเหตุจูงใจให้พรรคการเมืองที่รู้ผลคะแนนส่วนหนึ่งเตรียมทุจริตในเขตที่ยังไม่ลงคะแนน อันส่งผลให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมหรือไม่และถือว่าขัดต่อหลักการเลือกตั้งทั่วไปตามกฎหมายหรือไม่ มีหลายปัจจัยที่อาจมีเหตุให้เลือกตั้ง 2กุมภาพันธ์ เป็นโมฆะ แต่ กกต.ไม่มีอำนาจวินิจฉัย เป็นอำนาจหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญเมื่อมีผู้ไปฟ้องร้อง”
ครวญภัยร้ายแรงเท่า”สึนามิ”
ด้าน นายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวว่า กกต.ให้ความสำคัญว่าจะต้องไม่มีการปะทะ เผชิญหน้ากันจนถึงขั้นเลือดตกยางออก ดังนั้นต้องเจรจาพูดคุยกันทั้งฝ่ายที่ปิดล้อมและฝ่ายที่ต้องการใช้สิทธิ ต้องทำให้เกิดการใช้สิทธิอย่างสุจริต ซึ่ง กกต.จะพยายามหาช่องทางให้คนไปใช้สิทธิได้ตามที่กฎหมายจะอำนวย ส่วนการปฏิรูปเลือกตั้งหลังการเลือกตั้งครั้งนี้นั้น หลังเลือกตั้งต้องนำประเด็นที่เป็นปัญหามาพิจารณา เช่น การรับสมัครหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้จะทำอย่างไร เพราะกฎหมายไม่ได้ออกแบบมารองรับ เราต้องมาประมวลว่า ถ้าติดขัดแบบนี้จะแก้ไขอย่างไร เพราะกฎหมายปัจจุบันออกแบบมาให้รับมือพายุ แต่ที่เราเจออยู่ขณะนี้เป็นสึนามิ
“สมชัย”โพสต์ถาม-ตอบ5คำถาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวและได้ตั้งคำถาม 5ข้อเกี่ยวกับคำถามที่น่าสงสัยที่อาจเกิดขึ้นในวันที่ 2กุมภาพัน์ โดยสรุปว่า 1.บัตรเลือกตั้งทำไมบางหน่วยมีตราประทับ บางหน่วยไม่มีตราประทับ เพราะมีการปิดล้อมสถานที่เก็บบัตร กกต.จึงมีมติยกเว้นการใช้ประทับในบัตรเลือกตั้ง แต่เรามีเลขระหัสตรวจว่า เป็นบัตรจริงหรือบัตรปลอม 2.ทำไมบางหน่วยมีบัตรเลือกตั้งใบเดียว ก็เพราะบางจังหวัดภาคใต้ไม่มีผู้สมัคร สส.เขต ขณะที่บัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ 14จังหวัดภาคใต้ ไม่สามารถนำบัตรออกจากจุดถูกปิดล้อมได้ 3.ทำไมบางหน่วยมีเหตุไม่สงบจนต้องยุติลงคะแนน ก็เพราะมีเหตุไม่สงบ ซึ่งเมื่อปิดแล้ว ไม่มีอำนาจสั่งเปิดใหม่ เพราะจะผิดกฎหมาย 4.ทำไมตำรวจและกกต.ไม่เอาผิดคนทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เพราะยึดหลักต้องรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง 5.หน่วยเลือกตั้งที่ไปใช้สิทธิ์ไม่ได้ จะได้ใช้สิทธิ์วันไหน 1.หากเขาเปิดอยู่ แต่เราเข้าไปไม่ได้ ถือว่าการเลือกตั้งสมบูรณ์ ไม่มีจัดใหม่ กรณีที่สอง หากยุติลงคะแนนด้วยเหตุ เช่น กรรมการประจำหน่วยไม่ครบ บัตรเลือกตั้งไม่มี มีแนวโน้มวุ่นวาย จะจัดเลือกตั้งใหม่ คาดว่าน่าจะเป็นต้นเดือนมีนาคม
“มีชัย”ไขปมเลือกตั้ง2กพ.โมฆะ
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานวุฒิสภา ตอบคำถามเว็บไซต์www.meechaithailand.com เมื่อวันที่ 30มกราคม ในคำถามของปกรณ์ว่า การเลือกตั้งจะเป็นโมฆะด้วยเหตุปัจจัยอะไรบ้าง หากไม่จัดวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร โดย นายมีชัย ตอบว่า การที่รัฐธรรมนูญ มาตรา108 กำหนดให้ต้องกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร เพราะต้องการให้เกิดความสุจริตและเที่ยงธรรม ไม่เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างพรรคการเมือง ผู้สมัครและเสียหายต่อการใช้สิทธิลงคะแนนของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้งที่ทำกระปริบกระปรอย ส่งผลต่อการลงคะแนนอย่างมาก เพราะธรรมชาติของมนุษย์ถ้ารู้ว่าใครแพ้ หรือชนะ ก็มักจะถูกครอบงำโดยผลแพ้ชนะนั้น สุดแต่ว่าจะชอบเข้าข้างคนชนะ หรือขี้สงสารคนแพ้ ยิ่งถ้าได้คะแนนใกล้เคียงกัน ก็หมิ่นเหม่ต่อการทุจริตเพื่อเอาชนะกันได้ง่าย ขณะที่ปรากฏชัดเจนว่า มีเขตเลือกตั้ง 27เขต ที่สมัครรับเลือกตั้งไม่ได้ (ไม่ใช่ไม่มีคนสมัคร) การเลือกตั้งจึงไม่อาจทำได้ในวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร
ชี้กกต.รู้ปัญหา-แต่ไม่รู้ทางออก
ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า การที่ไม่อาจจัดเลือกตั้งได้ใน 27เขต ถ้าไปจัดเลือกตั้งภายหลัง (หลังจากที่มีการเลือกตั้งเขตอื่นๆไปแล้ว) จะถือว่าเป็นการค่อยๆเลือกไป หรือเป็นการเลือกซ่อม ถ้าศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า เป็นการค่อยๆ เลือกไปก็เข้าข่ายต้องห้ามคือ ไม่ได้ทำในวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร แต่ถ้าถือว่าเป็นการเลือกซ่อม ทำนองเดียวกับการเลือกซ่อมเมื่อมีการให้ใบเหลืองใบแดง ก็อาจไม่เข้าข่ายต้องห้าม จึงขึ้นอยู่กับการนำเสนอข้อเท็จจริงและข้อโต้แย้งต่อศาล เรื่องนี้ดูเหมือน กกต.ก็ไม่แน่ใจ เพราะมีข่าวว่า กกต.เกรงจะถูกฟ้องให้เป็นโมฆะ เพราะไม่ได้จัดให้มีขึ้นในวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร กกต.ควรพิจารณาประเด็นนี้ให้เป็นที่ยุติในหมู่ กกต.ก่อน ถ้าเห็นว่าถูกต้องตามรัฐธรรมนูญจะเดินหน้าต่อไปตามใจรัฐบาลก็เดินหน้าได้ แต่ถ้า กกต.เห็นว่าการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ถูกต้องตามรัธฐธรรมนูญ กกต.ก็จัดเลือกตั้งต่อไปไม่ได้ ไม่ว่ารัฐบาลจะว่าอย่างไร ต้องการอย่างไร ก็ไม่มีอำนาจที่จะบังคับให้ กกต.ทำในสิ่งที่ กกต.เห็นว่าเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ศาลรธน.ตัดสินได้-แต่สายไปแล้ว
“ถ้ารัฐบาลยืนยันให้ กกต.เดินหน้าและกกต.ไม่อาจเดินหน้าได้ อาจถือเป็นกรณีขัดแย้งกันที่จะสามารถส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ ถ้าทำได้เช่นนี้ กกต.ก็จะปลอดภัย แต่น่าเสียดายที่ กกต.ไม่ได้ทำ ดังนั้น ถ้าภายหลังศาลวินิจฉัยว่า การเลือกตั้งเป็นโมฆะ กกต.ก็อาจพลอยต้องไปรับผิดชอบในผลนั้น ส่วนรัฐบาลถึงตอนนั้นท่านก็คงปฏิเสธว่า ท่านมิได้เป็นคนจัดการเลือกตั้ง ท่านมีแต่ความอยากให้มีการเลือกตั้งตามที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา” นายมีชัย ระบุ
“เฉลิม”คาด2กุมภาฯมีปะทะแน่
ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) กล่าวว่า ขอเตือนประชาชนอย่าไปปิดหน่วยเลือกตั้งตามคำยุยงของ เลขาธิการ กปปส.ซึ่งวันที่ 2กุมภาพันธ์ ตำรวจเตรียมพร้อมเต็มอัตราศึก พร้อมถ่ายรูปและออกหมายจับ แต่ถ้า กปปส.บ้าระห่ำเหมือนเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 26มกราคมที่ผ่านมา มีปะทะแน่ ทั้งนี้ ตนจะประสานไปยังกรมประชาสัมพันธ์ให้ทำความเข้าใจกับประชาชนเรื่องการเลือกตั้งจะโมฆะหรือไม่ เพราะเรื่องนี้อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสิน ไม่ใช่อยู่ที่นักวิการ โดยเฉพาะ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานวุฒิสภา หรือนายสมชัย ศรีสุทธิยากร จะเป็นผู้ตัดสิน
‘ปึ้ง’จัดทีมรปภ.”ปู-ครม.”ไปใช้สิทธิ์
ด้าน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานที่ปรึกษา ศรส.ให้สัมภาษณ์กรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ท้าดีเบตบนเวที กปปส.ว่า ขอให้ นายสุเทพ มอบตัวก่อนข้อหากบฏ เมื่อมอบตัวและอยู่ในห้องขัง ตนจะไปดีเบตหน้าห้องขัง ส่วนวันเลือกตั้งนั้น ได้สั่งการเป็นการภายในให้ผบ.ตร.จัดชุดดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นหน่วยพิเศษอำนวยความสะดวกให้นายกฯและครม.ที่จะไปเลือกตั้ง พร้อมประสาน พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม ส่งทหารเข้าร่วมดูแลความปลอดภัยด้วย
“ธาริต”ขู่ใครขวางเจอคุก1-5ปี
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะกรรมการศูนย์รักษาความสงบ หรือ ศรส.กล่าวว่า ศรส.ขอเชิญชวนประชาชนออกมาลงคะแนนเสียงเลือกตั้งและการขัดขวางการเลือกตั้งจะมีความผิดตามกฏหมายเลือกตั้ง มีโทษจำคุก 1-5ปี ซึ่งศรส.สั่งการให้ตำรวจทุกพื้นที่เฝ้าระวังและเร่งดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่ขัดขวางการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26มกราคมและอาจจะก่อเหตุซ้ำอีกในวันที่ 2กุมภาพันธ์ โดย ศรส.มีการจัดกำลังตำรวจและทหาร ประจำหน่วยเลือกตั้ง และพร้อมชุดเคลื่อนที่เร็วในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในวันเลือกตั้งไว้พร้อมแล้วเช่นกัน
ผบ.ตร.ห่วงขัดแย้งถึงปะทะ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.และผู้บัญชาการกองกำลังศูนย์รักษาความสงบ เป็นประธานประชุมเตรียมพร้อมรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง ส.ส. โดยมีทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมกว่า 2ชั่วโมง พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวหลังประชุมว่า เป็นการประชุมทำความเข้าใจการรับมือดูแลการเลือกตั้ง หลังการข่าวพบว่า จะมีการขัดขวางการเลือกตั้ง รวมทั้งขัดขวางไม่ให้มีการเลือกตั้ง ที่ห่วงใยคือ การเผชิญหน้าของประชาชนที่ขัดขวางกับคนที่อยากเลือกตั้ง รวมทั้งการเผชิญหน้ากันของกลุ่มหัวรุนแรง
ผบช.น.กำชับตร.คุมเข้ม2กพ.
ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้กำชับสั่งการตำรวจนครบาล1-9 ตำรวจสายตรวจ191และด่านตรวจความมั่นคงทุกจุดในพื้นที่ กทม.คุมเข้มดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยการเลือกตั้งวันที่ 2กุมภาพันธ์นี้ โดยตนจะดูแลหน่วยเลือกตั้งโรงเรียนคลองลำเจียกและโรงเรียนวัดบางบอน ซึ่งเป็นจุดที่นายกฯและร.ต.อ.เฉลิม ไปลงคะแนน รวมถึงหน่วยย่านบางพลัด จุดที่ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์และครอบครัวจะไปใช้สิทธิ์ รวมถึงบุคคลสำคัญในรัฐบาลและพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ
“ปู”ดราม่าขอเดินฝ่าถนนขรุขระ
ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ช่วงโค้งสุดท้ายการเลือกตั้ง ว่า การเลือกตั้งเป็นกลไกมาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับของทุกคน ดังนั้นขอให้ประชาชนไปใช้สิทธิ ไม่อยากให้ไปขัดขวางการเลือกตั้ง
เมื่อถามว่า นายกฯจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า ไปค่ะ เพราะเป็นสิทธิที่เราควรทำในฐานะประชาชนคนหนึ่งและในฐานะส.ส.ต้องมีหน้าที่ไปเลือกตั้ง เชื่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะไม่ลิดรอนสิทธิของผู้อื่น ต่อข้อถามว่า วันนี้ถนนที่เลือกเดินขรุขระจนทำให้ท้อถอยและเดินไม่ได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “ถนนข้างหน้าอาจขรุขระและมีขวากหนาม บางครั้งการเดินบนถนนนี้ก็อาจรู้สึกเปล่าเปลี่ยวและอ้างว้าง แต่เชื่อว่าบนเส้นทางที่มีถนนอยู่ไม่กี่เส้นและเส้นนี้เป็นเส้นที่ถูกวางไว้ตามระบอบประชาธิปไตย เชื่อว่าวันหนึ่งจะมีคนมาร่วมเดินบนถนนนี้ด้วยกัน”
“แม้ว”ปิดปาก-ผวาล่อเป้า
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี เปิดเผยว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ประเทศสิงค์โปร์ โดยระยะหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ต้องการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เพราะกลัวจะถูกจับโยงเป็นประเด็นทางการเมือง แต่ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความเป็นห่วงความไม่สงบในประเทศไทย อยากให้ทุกอย่างเรียบร้อยโดยเร็ว ประเทศจะเดินหน้าไปได้ต้องมีการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่ศักดิ์สิทธิ์ เปิดโอกาสให้ประชาชนใช้สิทธิ์ของตัวเอง เหมือนตรุษจีนต้องไหว้เจ้า ประชาธิปไตยต้องเลือกตั้ง
‘บิ๊กตู่’สั่งทหารป้องกันปะทะ
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 31มกราคมนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ได้ประชุมประเมินและติดตามสถานการณ์การเลือกตั้ง ซึ่งเรื่องรักษาความปลอดภัย ทางทหารได้ประสานงานกับตำรวจ โดยกระจายกำลังดูแลประชาชนและปรับการวางกำลังให้ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการก่อเหตุในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ผู้ก่อเหตุยังมีความพยายามจะสร้างสถานการณ์อยู่ แต่เนื่องจากเรามีการปรับกำลัง การตั้งจุดตรวจร่วม จุดสกัดทำให้ป้องปรามได้ระดับหนึ่ง ทั้งนี้ ผบ.ทบ.ย้ำให้กำลังพลปรับปรุงแผนรักษาความปลอดภัยให้รัดกุม
ทบ.คาด10เขตกทม.เสี่ยงปะทะ
วันเดียวกัน นายพีระพงษ์ สายเชื้อ รองปลัด กทม.เป็นประธานประชุมเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินวันเลือกตั้ง โดยมีผู้แทนหลายหน่วยงาน อาทิ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สภากาชาดไทย กองทัพภาค1 โรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลสังกัดกทม.และมูลนิธิต่างๆ เข้าประชุม ทั้งนี้ ตัวแทนกองทัพภาค1 กล่าวว่า เขตที่คาดว่าจะมีการปะทะทางกองทัพภาค1 จึงจัดกำลังเฝ้าระวังเป็นพิเศษ 10เขต ดังนี้ 1.เขตสายไหม 2.เขตดอนเมือง 3.เขตบางกะปิ 4.เขตวังทองหลาง 5.เขตหลักสี่ 6.เขตบางนา 7.เขตบางบอน 8.เขตสวนหลวง 9.เขตมีนบุรีและ10.เขตบึงกุ่ม
กปปส.ใต้ปักหลักปณท.หาดใหญ่
สำหรับบรรยากาศก่อนถึงวันเลือกตั้งในต่างจังหวัดนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มวลชนคณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) จาก 5จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้ง สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ยังคงปักหลักชุมนุมที่หน้าศูนย์ไปรษณีย์หาดใหญ่ตลอด 24 ชม. ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 เพื่อขัดขวางไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายบัตรเลือกตั้งระบบบัญชีรายชื่อออกไป แม้ทาง กกต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพยายามเจรจากับทางแกนนำไปแล้ว แต่ไม่เป็นผล มวลชนกลับเพิ่มมาตรการป้องกันและระดมมวลชนมากยิ่งขึ้น
มุลลิม3จชต.ขอคืนบัตรเลือกตั้ง
เมื่อเวลา 13.30 น.ที่มัสยิดกลางปัตตานี ได้มีกลุ่มบุคคลใช้ชื่อชาวมลายูจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพี่น้องประชาชนชาวไทยผู้รักและหวงแหนสิทธิอันชอบธรรมในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข 100 กว่าคน ได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์เพื่อคัดค้านการล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพชาวมลายู โดยได้ประณาม กปปส. ที่บุกปิดล้อมที่ทำการไปรษณีย์หาดใหญ่ บังคับให้เจ้าหน้าที่งดการส่งบัตรเลือกตั้งของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งทางกลุ่มฯขอเรียกร้องให้รีบคืนบัตรเลือกตั้งให้ และหากมีการขัดขวางการเลือกตั้งด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม เราจะไม่ยอมอยู่เฉยต่อไป
งัดรร.ขนหีบบัตร-คูหาทิ้งน้ำ
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 12.00 น. เกิดเหตุคนร้ายเข้าไปโจรกรรมคูหา และหีบบัตรเลือกตั้ง จากห้องเก็บของภายใน ร.ร.หนองหมูก หมู่ที่ 6 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดเก็บ โดยพบว่าคูหาและหีบบัตรเลือกตั้งที่ถูกโจรกรรมถูกนำไปทิ้งไว้บริเวณแม่น้ำทุ่งนาและสะพานแหลมญวน หมู่ 2 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร และบริเวณ แม่น้ำชุมพร หมู่ 8 ต.บางหมาก อ.เมืองชุมพร หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไป
กระบี่หวั่นเลือกตั้งไม่ได้
ด้าน นายสมปอง ตั้งเริก ผอ.กกต.กระบี่ ยอมรับว่า อาจไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ เนื่องจากบัตรเลือกตั้งอยู่ที่ไปรษณีย์กลาง ใน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งขณะนี้ถูกปิดล้อมโดยกลุ่ม กปปส. รวมถึงมีหีบบัตรเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 573 ใบ และคูหาเลือกตั้ง 1,719 คูหา ทั้ง 573 หน่วยเลือกตั้ง ของ จ.กระบี่ ไม่สามารถนำออกมาจากสำนักงาน กกต.กระบี่ เพื่อส่งมอบให้กับกรรมการประจำเขตเลือกตั้งได้
พัทลุงเจอสารพัดปัญหา
ด้าน จ.พัทลุง นายบันเทิง วัชระเสรีกุล ผอ.กกต.จังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดพัทลุงกำลังมีปัญหาในหลายๆ ด้าน อาทิ บัตรเลือกตั้งที่ไม่สามารถนำออกมาได้ การขาดกำลัง ผอ.เขตประจำหน่วยเลือกตั้ง และคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ส่วนวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการเลือกตั้งก็ยังไม่สามารถแจกจ่ายได้ เพราะถูกกดดันอย่างหนัก ซึ่งคาดว่าจะไม่สามารถดำเนินการเลือกตั้งได้ นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์กลุ่ม กปปส.พัทลุง นำรถกระบะประมาณ 30 คัน พร้อมคนประมาณ 200 คน มาปิดล้อมหน้า สภ.เมืองพัทลุง เนื่องจากสืบทราบว่ามีการเก็บบัตรเลือกตั้งของเขตเลือกตั้งที่ 1 มาเก็บไว้ในห้องขังผู้ต้องหา
กกต.ยะลายันพร้อม100%
ทางด้าน นายวิชัย เรืองเริงกุลฤทธิ์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จ.ยะลา ได้เรียก คณะกรรมการการเลือกตั้ง จ.ยะลา ร่วมประชุมหารือภายในศาลากลางจังหวัดยะลา เพื่อเตรียมความพร้อมการจัดการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ โดยยืนยันว่า กกต.ยะลา มีความพร้อม100% แม้ว่ามีปัญหากรรมการบางหน่วยเลือกตั้งขอถอนตัวออกไป แต่ก็ได้จัดหาคณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาดำเนินการทดแทนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
พิจิตรวุ่นกกต.9หน่วยออกกะทันหัน
ส่วนที่ จ.พิจิตร นายประยูร จักรพัชรกุล ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดพิจิตร เปิดเผยถึงกรณีที่กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งพิจิตร ลาออก 86 คน โดยระบุว่า บอกอยากให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ว่า ทาง กกต. พิจิตรจึงสั่ง ให้หาคนมาเป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งสำรองซึ่งขณะนี้มีปัญหา เนื่องเป็นการลาออกกะทันหัน ซึ่งหาคนมาแทนยาก
กำแพงเพชรร้องขอจนท.ลาออก
ขณะที่ จ.กำแพงเพชร กปปส. ได้ออกมาคัดค้านการเลือกตั้ง กดดันเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ให้ลาออก เดินหน้าสู่การปฏิรูปประเทศไทย โดยนำรถยนต์ติดเครื่องขยายเสียง พร้อมด้วยแนวร่วม นำนกหวีด มือตบ และธงชาติ กดดันการประชุม ผู้ดำเนินการเลือกตั้ง ประจำหน่วยเลือก ให้ลาออกจากการเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำหน่วย โดยขอให้มีการปฏิรูปประเทศก่อน
แดงแฝงร่างหนุนเลือกตั้งหลายจว.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะเดียวกัน ได้มีความพยายามผลักดันให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ในหลายจังหวัด โดยที่ จ.นครสวรรค์ กลุ่มประชาชนสวมเสื้อสีขาวกว่า 500 คน ถือลูกโป่งสีขาว-ป้ายสนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง ส่วนที่ จ.อำนาจเจริญ กลุ่มคนเสื้อแดง ที่เปลี่ยนเป็นสวมเสื้อหลากสี ประมาณ 800 คน รวมตัวกันที่บริเวณเสาธงหน้า กกต.อำนาจเจริญ เพื่อสนับสนุนการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือแพร่สะพัดเรื่องการจ่ายเงินซื้อเสียงเลือกตั้งว่า มีการจ่ายล่วงหน้า 500 บาท และเมื่อเลือกตั้งเสร็จให้ไปรับอีก 1,000 บาท
ท่องขึ้นใจหยุดรัฐประหาร-ต้านกบฏ
ส่วนที่ จ.สุรินทร์ กลุ่ม นปช.สุรินทร์ กว่า 2,000 คน พร้อมด้วยรถบรรทุกหกล้อและรถปิกอัพ ติดตั้งเครื่องขยายเสียง มีป้ายข้อความติดข้างตัวรถว่า “2 กุมภา เดินหน้า ทวงคืนประชาธิปไตย หยุดรัฐประหาร ต้านกบฏ” กว่า 100 คัน เช่นเดียวกับ นปช. ศรีสะเกษ ที่มาชุมนุมหน้า กกต.ศรีสะเกษ และ นปช. อุตรดิตถ์ ที่นำมวลชนสวมเสื้อสีขาวรวมตัวกันที่บริเวณศาลาจัตุรมุข สนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหัก เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ หน้าศูนย์ราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อแสดงพลังสนับสนุนการเลือกตั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี