27 มี.ค.57 ที่พรรคประชาธิปัตย์ คณะนักการเมืองหญิงของพรรคเพื่อไทย นำโดย นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ , น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย  ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมายังที่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อยื่นหนังสือต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ โดยเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ ลงสมัครรับเลือกตั้ง หากมีการเลือกตั้ง ส.ส.ในครั้งต่อไป โดยมี นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้รับมอบหนังสือดังกล่าว

โดยในหนังสือดังกล่าวระบุว่า การเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 2 ก.พ.57 ที่ผ่านมานั้น พรรคประชาธิปัตย์ ได้ปฏิเสธที่จะส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่เป็นวิธีการที่ดีที่สุดในระบอบประชาธิปไตย แต่เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้การเลือกตั้งในวันดังกล่าวเป็นโมฆะ ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ สามารถตัดสินใจใหม่ได้อีกครั้ง ในการที่จะร่วมรักษาประชาธิปไตย เพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้น จึงขอเรียนถามนายอภิสิทธิ์ว่า

1.นายอภิสิทธิ์ ได้ทำประวัติศาสตร์ เป็นหัวหน้าพรรคที่นำพรรคบอยคอตการเลือกตั้งมาแล้วถึง 2 ครั้ง ซึ่งในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในครั้งต่อไป นายอภิสิทธิ์จะสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ ในการเป็นพรรคการเมืองเดียวที่บอยคอตการเลือกตั้งเป็นครั้งที่ 3 หรือไม่ 2.พรรคประชาธิปัตย์ จะยอมรับผลการเลือกตั้งที่มาจากเสียงของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย ที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยึดเป็นหลักในการทำงานของพรรคมาเกือบ 70 ปีหรือไม่

3.หากพรรคประชาธิปัตย์ปฏิเสธการเลือกตั้งอีกในครั้งต่อไป พรรคจะมีอุดมการณ์ในทางการเมืองอย่างไร และ 4.หากพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าจะไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งอีก พรรคจะอ้างว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องกันหรือกระทำการขัดขวาง ทำให้การเลือกตั้งมีปัญหาอีกหรือไม่

ทั้งนี้ ในจดหมายดังกล่าว ระบุอีกว่า พวกตนยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย และไม่ว่าผลการเลือกตั้งเป็นอย่างไร พวกตนก็ยอมรับ เพราะถือว่าเป็นฉันทามติของประชาชน แม้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แม้จะเป็นผู้หญิง ก็ประกาศจะรักษาประชาธิปไตยไว้ด้วยชีวิต ดังนั้น พวกตนจึงอยากเชิญชวนให้นายอภิสิทธิ์ ให้ร่วมรักษาระบอบประชาธิปไตย และถ้านายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งอีก ก็ต้องถามหาจิตสำนึกและยางอายในการเป็นการเมืองในระบอบประชาธิปไตย และคงน่าเสียดายแทนประชาชนที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ หากจะปฏิเสธการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอนาคต ดังเช่นที่ผ่านมา