'อลงกรณ์'ชี้กปปส.ชนะนปช.ป่วน ย้ำปชป.ต้องนำอย่าตามกระแส
วันศุกร์ ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557, 18.37 น.
Tag :
28 มี.ค. 57 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งที่อาจจะมีขึ้นในอนาคตว่า ที่ผ่านมานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พูดชัดเจนว่าพรรคพร้อมที่จะลงเลือกตั้งไม่ว่าจะก่อนหรือหลังการปฏิรูป แต่ต้องเป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม เป็นท่าทีที่ชัดเจนระดับหนึ่ง เพราะในปี พ.ศ. 2549 ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ในการเลือกตั้งเป็นโมฆะมีการกำหนดวันเลือกตั้งให้ในเวลา 6 เดือน ตนคิดว่าครั้งนี้พรรค ได้บทเรียนจากครั้งดังกล่าว และบทเรียน การเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 และกำหนดขั้นตอนต่างๆเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งเป็นที่ยอมรับของแต่ละฝ่าย ตนคิดว่า ไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะชนะฝ่ายเดียวแน่นอน หาก กปปส.ชนะ ไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้นก็จะมีกลุ่มคนเสื้อแดง ที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ออกมาชุมนุมต่อต้าน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหน บ้านเมืองก็จะเหมือนอยู่ในกงกรรมกงเกวียน และเราจะอยู่กันได้อย่างไร ที่สุดประเทศไทยก็จะกลายเป็นรัฐล้มเหลว ดังนั้นในฐานะพรรคการเมือง จะต้องยึดหลัก สร่างความเป็นผู้นำ ด้วยการนำเสนอแนวทางที่นำประเทศไปสู่ทางออก พ้นจากวิกฤตด้วยการแสดงความชัดเจนว่าพร้อมที่จะลงเลือกตั้ง ในระหว่างนี้ ก็สนับสนุนให้ทุกฝ่ายร่วมกันหาข้อยุติและกำหนดวันเลือกตั้งขณะเดียวกันก็มีคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ดำเนินการปฏิรูปไปพร้อมๆกันถ้ามีความชัดเจนเช่นนี้ ก็จะทำให้ความเชื่อมันมั่นกลับคืนมาทั้งในและต่างประเทศ
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่าพรรคสามารถอธิบายให้ประชาชนได้อยู่แล้วแต่การแสดงจุดยืนในวิธีการประชาธิปไตยเป็นสิ่งสำคัญ ในภาวะที่วันนี้พรรคการเมืองแทบจะไม่มีที่ยืน ทางการเมือง เพราะยุบสภาแล้วการเลือกตั้งเป็นโมฆะ ก็ไม่รู้ว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไร และประเทศจะหวนกลับมาสู่ระบอบประชาธิปไตยได้อีกเมื่อไร และจะเหลี่ยงการเผชิญหน้าความรุนแรง การนองเลือด มีหนทางเดียวคือการที่พรรคการเมืองต้องก้าวออกมาเป็นหลักของประเทศ ชูการเมืองเป็นธงนำในแนวทางประชาธิปไตย และกำหนดร่วมกันในเรื่องการเลือกตั้งและดำเนินการปฏิรูป เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า การเลือกตั้งจะเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม
เมื่อถามว่ามั่นใจได้อย่างไรว่า หากให้มีการเลือกตั้งและการปฏิรูปไปพร้อมกันจะไม่มีการนองเลือดเกิดขึ้นนายอลงกรณ์ ย้อมถามกลับว่า แล้วมีวิธีการใดที่ดีไปกว่านี้ แม้ กปปส.จะมองว่ามีการเลือกตั้งใหม่การเมืองก็ยังเป็นรูปแบบเดิม แต่ตนคิดว่า พรรคจำเป็นต้องมีอิสระในการตัดสินใจ ซึ่ง กปปส. หรือกลุ่มต่างๆมีสิทธิที่จะคิด หรือเชื่อถือในแนวทางอย่างหนึ่งอย่างใด แต่พรรคใหญ่อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ต้องมีจุดยืนและความคิดเป็นของตัวเอง และวิธีทางประชาธิปไตย ซึ่งเป็นแนวทางหลักสำคัญของพรรค ดังนั้นพรรคต้องกลับมายื่นเป็นผู้นำทางความคิด และแสวงหาทาสงออกให้กับประเทศ เพราะที่ผ่านมารเราได้บทเรียนแล้วว่าประเทศสูญเสียมหาศาลโดยเฉพาะเงินภาษีของประชาชน เสียเวลาและโอกาส และปัญหาก็กลับมายืนที่จุดเดิม การเลือกตั้งโดยไม่มีการเจรจาเพื่อหาข้อยุติก่อน จะไม่เกิดประโยชน์
เมื่อถามว่าควรจะมีการเจรจาหาข้อยุติก่อนที่จะมีท่าทีของพรรคหรือไม่ นายอลงกรณ์ กล่าวว่า พรรคควรจะเป็นผู้นำไม่ใช่ผู้ตาม “ อย่าเป็นขอนลอยน้ำ” รอว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้แล้วพรรคถึงจะเดินตามเหมือนเป็นการฉวยโอกาส
เมื่อถามว่าหากพรรคตัดสินใจไม่ลงเลือกตั้ง นายอลงกรณ์จะตัดสินใจอนาคตทางการเองตนเองอย่างไร นายอลงกรณ์ กล่าวเพียงสั้นๆๆว่ารอให้ถึงวันนั้นก่อน ตนยังคิดว่าหากพรรคยังยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตยนั่นคืออุดมการณ์ที่ถูกต้องแต่ ถ้าเบี่ยงเบนไปจากแนวทางนี้ก็ต้องมาพิจารณา ส่วนการเลือกตั้งจะเป็นตัวชี้วัดความเป็นประชาธิปไตยใช่หรือหรือไม่ นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด