ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในหัวข้อที่ 2 ครม.ได้มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ ....) พ.ศ. .... ของกระทรวงมหาดไทย ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณาแล้วและให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ต่อไป
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
1.แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยาม
1.1 คำว่า “เครื่องบังคับเสียงให้เบาปกติ” เพื่อควบคุมมิให้นำเครื่องบังคับเสียงที่เบาผิดปกติไปใช้กับอาวุธปืนก่ออาชญากรรม,1.2 คำว่า “เครื่องกระสุนปืน” ให้หมายความรวมถึงตลับลูกดอกไฟฟ้าและลูกดอกไฟฟ้า, 1.3 คำว่า “ดอกไม้เพลิง” ให้หมายความรวมถึงบั้งไฟและตะไล, 1.4 คำว่า “สิ่งเทียมอาวุธ” ให้หมายความรวมถึงวัตถุที่มีลักษณะคล้ายอาวุธปืน,1.5 คำว่า “มี” ให้ครอบคลุมถึงดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน
2.เพิ่มบทนิยามคำว่า “หน่วยงานอื่นของรัฐ” เพื่อให้ครอบคลุมถึงหน่วยงานของรัฐทุกประเภทที่มีความจำเป็นต้องมีและใช้อาวุธปืนได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ด้วย
3.กำหนดกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้มีอำนาจออกกฎกระทรวงและประกาศกระทรวงในบางเรื่อง เช่น ประกาศกำหนดควบคุมพื้นที่ ระยะเวลา การใช้หรือจัดให้มีการใช้ดอกไม้เพลิงการกำหนดให้วัตถุใดเป็นเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงเป็นต้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนถึงผู้มีอำนาจในการออกอนุบัญญัติ
4.กำหนดให้นายทะเบียนท้องที่ หรือผู้ที่นายทะเบียนท้องที่มอบหมายเป็นผู้ทำเครื่องหมายประจำปืนและจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับปืน เพื่อรองรับอำนาจในการจัดเก็บหัวกระสุน
5.กำหนดหลักเกณฑ์การออกหนังสืออนุญาตพิเศษให้นิติบุคคล เพื่อให้ครอบคลุมถึงกรณีของนิติบุคคลที่ดำเนินธุรกิจในการขนส่งเงินจำนวนมากหรือทรัพย์สินมีค่า เช่น กรณีรถขนเงิน เป็นต้น
6.แก้ไขเพิ่มเติมคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ขอรับใบอนุญาตเกี่ยวกับอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันและมีความชัดเจนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
7.แก้ไขเพิ่มเติมผู้มีอำนาจออกใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยให้อธิบดีกรมการปกครองเป็นผู้ออกใบอนุญาตในเขตกรุงเทพมหานคร
8.กำหนดมาตรการควบคุมดอกไม้เพลิงชนิดร้ายแรง เช่น บั้งไฟ ตะไลที่มีน้ำหนักดินปืนตามที่รัฐมนตรีกำหนด ให้ต้องขออนุญาตซื้อ มีใช้ จัดให้มีการใช้ รวมทั้งขนย้าย และให้มีการออกประกาศกำหนดระยะเวลาและพื้นที่อนุญาตในการใช้ดอกไม้เพลิง
9.กำหนดอำนาจหน้าที่ของนายทะเบียน เจ้าพนักงาน และเจ้าหน้าที่ในการเข้าไปในสถานที่ทำการ โรงงาน หรือสถานที่เก็บของผู้ได้รับใบอนุญาตให้ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้ามี หรือจำหน่ายอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนสำหรับการค้า และมีอำนาจในการตรวจค้น อายัด หรือยึดอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนอันเกี่ยวกับการกระทำความผิด
10.กำหนดอำนาจนายทะเบียนในการสั่งให้ผู้ได้รับอนุญาตนำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืนมาตรวจสอบ โดยให้นายทะเบียนท้องที่เป็นผู้เก็บรักษาและตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวง
11.กำหนดมาตรการควบคุมสิ่งเทียมอาวุธปืนชนิดร้ายแรงตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ให้ต้องขออนุญาตทำ ซื้อ มี ใช้ สั่ง นำเข้า หรือค้าจากนายทะเบียนท้องที่ตามวิธีการที่ระบุในกฎกระทรวง
12.กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการพาสิ่งเทียมอาวุธปืนติดตัวเพื่อเป็นการควบคุม สิ่งเทียมอาวุธปืนภายหลัง
ที่ได้รับใบอนุญาตแล้ว เพื่อป้องกันการนำสิ่งเทียมอาวุธปืนไปใช้ก่อเหตุ
13.แก้ไขบทกำหนดโทษและปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมให้เหมาะสมเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ
ที่ผมเขียนเรื่องนี้เพราะเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2559 ผมได้เขียนบทความแนะนำการหาเงินเข้ารัฐ คือ ภาษีอาวุธปืน ข้อมูลในเมื่อปี 2554 อาวุธปืนที่ทางราชการอนุญาตให้บุคคลครอบครองทั่วประเทศมี2 ประเภท คือ อาวุธปืนสั้นจำนวน 3,675,320 กระบอก อาวุธปืนยาวจำนวน 2,450,214 กระบอก ปี 2559 น่าจะมีอาวุธปืนที่ถูกต้องตามกฎหมายประมาณ 8 ล้านกระบอก ปกติการจะมีปืนถูกต้องตามกฎหมายต้องขออนุญาตจากมหาดไทยจ่ายค่าธรรมเนียมเล็กน้อย
ถ้าคิดใหม่ให้ใบอนุญาตปืนมีอายุแค่ 1 ปี และต้องต่อทะเบียนทุกปี เก็บภาษีปืนกระบอกละ 1,000 บาท/ปี (หรือมากกว่านั้นให้เหมือนกับการต่อทะเบียนภาษีรถยนต์ หรือเก็บแบบภาษีโรงเรือนท้องที่) รัฐจะมีเงินเข้าคลังอีกมหาศาล โดยที่คนทั่วไปไม่ได้เดือดร้อน
ก็ต้องรอโฉมหน้ากฎหมายปืนฉบับใหม่ ว่าอัตราธรรมเนียมต่างๆ จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าใด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี