เป็นความจริงว่าคนไทยจำนวนไม่มากนักรู้จักสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) ซึ่งมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Neighbouring Countries Economic Development Cooperation Agency (Public Organization) (NEDA) เมื่อคนรู้จักไม่มากนัก ก็จึงทำให้ไม่มีใครให้ความสนอกสนใจกับเรื่องดีๆ ที่น่ายกย่อง และเรื่องเละๆ เน่าๆ ที่สมควรถูกประจานและประณามภายในองค์การมหาชนแห่งนี้
เรื่องดีๆ ขององค์การนี้ก็มีให้เห็นพอประมาณ โดยเฉพาะเรื่องการเข้าไปมีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านของไทย แต่ก็มีเรื่องเน่าเฟะไม่ค่อยสะอาดให้เห็นภายในองค์การนี้มิใช่น้อย
ก่อนอื่นต้องปูพื้นพอสังเขปให้ผู้อ่านได้รู้ว่า NEDA คืออะไร หลายคนเห็นคำว่า NEDA ก็มักเข้าใจเอาเองว่า คือ NIDA หรือสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ชื่อภาษาอังกฤษคือ National Institute of Development Administration (NIDA) เป็นสถาบันการศึกษาสอนระดับปริญญาโทและเอก ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างมหันต์ เพราะสองหน่วยงานนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่น้อย
NEDA เป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จัดตั้งขึ้นโดยพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2548
วัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของ สพพ. (ตามที่กำหนดในมาตรา 7 ของพระราชกฤษฎีกาฯ) ประกอบด้วย
1.การให้ความช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอื่นๆ ทั้งด้านการเงินและวิชาการ
2.การให้ความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน
3.การศึกษาและจัดทำข้อเสนอแนะนโยบายตลอดจนมาตรการต่างๆ ในการให้ความร่วมมือฯ
4.การประสานการใช้อำนาจหน้าที่หน่วยงานต่างๆ เพื่อบูรณาการความร่วมมือฯ
เมื่อพิจารณาจากวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ขององค์การนี้แล้ว จะเห็นว่าล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ และการยังประโยชน์ให้เกิดกับประเทศเพื่อนบ้านของไทย ซึ่งเมื่อเพื่อนบ้านของเราเจริญแล้ว ประเทศไทยก็จะได้รับประโยชน์ไปด้วย
ล่าสุด องค์การนี้กำลังเปิดรับสมัครผู้อำนวยการ (รับสมัคร ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2560) โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับเงินเดือนประจำ 1 แสนถึง 2 แสนบาท และยังมีผลตอบแทนอื่นๆ ที่จ่ายเป็นรายเดือน เช่น ค่าพาหนะ ค่าประกันชีวิตหรืออุบัติเหตุ ค่าประกันสังคม เงินช่วยเหลือการศึกษาของบุตร เงินสำรองเลี้ยงชีพ สวัสดิการค่ารักษาพยาบาล และเงินช่วยเหลืออื่นๆ ตามที่คณะกรรมการกำหนด ไม่เกินร้อยละ 25 ของเงินเดือนประจำ และยังได้ค่าตอบแทนผันแปร ขึ้นอยู่กับผลการปฏิบัติงานของผู้อำนวยการ สพพ. โดยจ่ายภายหลังประเมินผลงานสิ้นปี คิดเป็นอัตราไม่เกินร้อยละ 25 ของเงินเดือนประจำ โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
มีคำถามว่าทำไมจึงต้องสรรหาผู้อำนวยการ สพพ. แล้วผู้อำนวนการคนเดิม (คนล่าสุด) คือ เนวิน สินสิริ ที่รับตำแหน่งยังไม่ครบ 4 ปี เต็มหายไปไหน คำตอบคือลาออกไปแล้ว ส่วนเหตุผลในการลาออกมีหลายหลายมาก เพราะถามจากคนใน สพพ. ก็จะได้รับคำตอบแบบหนึ่ง แต่เมื่อถามจากคนในกระทรวงการคลังที่เกี่ยวข้องกับ สพพ. ก็จะได้รับคำตอบอีกอย่างหนึ่ง แต่หากได้ฟังจากปากคำของเนวิน สินสิริ ก็จะได้รับคำตอบอีกแบบหนึ่ง เพราะฉะนั้น จึงไม่ขอระบุว่าลาออกเพราะอะไร แต่ที่แน่ๆ คือลาออกไปแล้ว
มีคนใน NEDA หลายคนบอกว่าหากอยากรู้เรื่องนี้ให้ไปถามจุฬารัตน์ สุธีธร ประธานกรรมการ สพพ. ที่เข้าไปรับตำแหน่งแทน วรากรณ์ สามโกเศศ หรือไม่ก็ต้องไปถามจากปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งก็คงจะต้องตามไปถามไถ่คนเหล่านี้ในวันข้างหน้า
สำหรับเนวิน สินสิริ นั้น หลายคนตั้งคำถามตั้งแต่วันที่เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการ สพพ. เมื่อสามปีเศษที่ผ่านมาว่า มีคุณสมบัติครบถ้วนหรือ ซึ่งเรื่องนี้ก็ยังเป็นปัญหาที่คนใน สพพ. ยังคงวิพากษ์วิจารณ์ (นินทา) กันอยู่ แต่เมื่อผู้เขียนถามกลับไปยังเหล่าคนที่วิพากษ์วิจารณ์ (นินทา) ว่า แล้วเหตุใดคนในองค์การฯ จึงไม่ตั้งคำถามตรงๆ กับเนวิน เพื่อให้ได้คำตอบที่ชัดเจนไปเลย หรือหากไม่ถามกับเนวิน ก็ต้องถามไปยังคณะกรรมการที่เลือกสรรและอนุมัติให้เนวินเข้าไปรับตำแหน่ง แต่คำตอบคือ ไม่มีใครกล้า เพราะกลัวถูกเล่นงาน เมื่อคนใน สพพ. บอกแบบนี้ ก็จึงทำให้ผู้เขียนถามกลับไปว่า ถ้าเช่นนั้น คุณก็ทำได้แค่นินทาเขา เพราะคุณอาจไม่พอใจเขา ใช่หรือไม่ เมื่อถามไปเช่นนี้ คำตอบคือใครจะกล้า เพราะกลัวเดือดร้อน ผู้เขียนจึงตอบไปว่า ถ้ามีข้อมูลจริง คุณจะกลัวอะไร แต่หากคุณไม่มีข้อมูลคุณก็ไม่ควรจะวิจารณ์ให้เขาเสื่อมเสีย
เนวิน ถูกคนภายใน สพพ. ยื่นเรื่องให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบในบ้างเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเงินๆ ทองๆ โดยล่าสุดเรื่องยังอยู่ในการพิจารณาของ สตง. แต่ที่มากกว่านั้นคือ มีข้อมูลว่า เนวินได้รับเงินเดือน 2 แสนบาท พร้อมกับได้รับเงินตอบแทนประจำเดือนอีกเดือนละ 5 หมื่นบาท
ประเด็นเรื่องเงินตอบแทนประจำเดือน 5 หมื่นบาท ซึ่งนอกเหนือจากเงินเดือนนี้ ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ภายใน สพพ. ว่า เนวินได้ค่าพาหนะแล้ว แต่ยังคงใช้รถยนต์ขององค์การฯ ซึ่งมีผู้บอกว่าเป็นการกระทำที่ไม่น่าจะสุจริต แต่เนวินเคยอ้างกับคนบางคนใน สตง. ว่า มีผู้อนุญาตให้เขานำรถยนต์ของ NEDA ไปใช้ได้ โดยเนวินใช้รถยนต์ของ NEDA พร้อมกับใช้พนักงานขับรถของ NEDA ด้วย ปัญหานี้ สตง. รับรู้มานานกว่าปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการลงความเห็นใดๆ ออกมา ซึ่งคนใน สพพ. ก็กำลังตั้งตารอว่า สตง. จะสรุปว่าผิดหรือถูก ทำได้หรือทำไม่ได้ เพราะคนใน สพพ. จะได้อ้างความเห็นของ สตง. เพื่อเป็นบรรทัดฐานในการใช้รถยนต์ของ NEDA ในอนาคต
ปัญหาสำคัญอยู่ตรงที่ว่าเมื่อเนวินรับเงิน 5 หมื่นบาทไปแล้วทุกๆ เดือน ดังนั้น เขายังมีสิทธิ์ใช้รถยนต์ของ NEDA อีกหรือไม่
ปัญหาอีกประการหนึ่งคือ มีข้อสงสัยว่า เหตุใดเนวินได้รับเงินโบนัส หรือเงินค่าตอบแทนผันแปร ปีละ 4 แสน ซึ่งได้ไปแล้ว 3 งวด ปัญหาเรื่องเงินโบนัสนี้ คนที่สามารถตอบได้ดีที่สุดคือ ประธานกรรมการ สพพ. ทั้งคนใหม่และคนเก่า รวมถึงคนที่ต้องตอบเรื่องนี้ด้วยก็คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
มีการตั้งคำถามกันมากใน สพพ. ว่า ทำไมเนวินได้เงินโบนัส 4 แสนทุกปี ซึ่งเรื่องนี้คนที่ต้องตอบให้ชัดอีกรายหนึ่งคือ ก.พ.ร. (สำนักงานพัฒนาระบบข้าราชการ) เพราะมีข้อมูลว่า ก.พ.ร. มีมติไม่ให้เงินโบนัสกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ (อ้างอิงเรื่องนี้จาก คนใน สพพ. เพราะคนใน สพพ. บอกว่าในปีที่แล้วไม่มีใครในองค์การฯ ได้รับเงินโบนัสแม้แต่คนเดียว)
ประเด็นเรื่องโบนัส 4 แสน ซึ่งเนวินได้รับไป กำลังกลายเป็นเรื่องใหญ่ใน สพพ. เพราะผู้บริหารทุกคนใน สพพ. กำลังตั้งข้อสงสัยกับเรื่องนี้ และได้นำเรื่องไปหารือกับประธานกรรมการ และอนุกรรมการขององค์การฯ แล้ว โดยบางคนบอกว่าจะนำเรื่องนี้ฟ้องร้องต่อศาลเพื่อขอความเป็นธรรมต่อไป
ประเด็นเรื่องความน่ากังขาใน สพพ. ที่นำมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ เป็นแค่เพียงหนึ่งให้ปัญหาความไม่ชอบมาพากลที่เกิดในหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง เหตุผลที่นำมาเล่าสู่กันฟังก็เพราะ ต้องการจะถามกลับไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังว่า เคยรับรู้ปัญหาความไม่ชอบมาพากลเช่นนี้มาก่อนบ้างหรือไม่ หรือว่ารู้มานานแล้ว แต่เมื่อไม่มีใครหยิบยกมาพูด ก็จึงทำเป็นเฉยๆ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี