ปรากฏข่าวฮือฮา... นายแสงชัย แหเลิศตระกูล หรือ หมอแสง ประกาศว่า จะแจกยางวดต้นเดือน พ.ค.นี้ เป็นครั้งสุดท้าย
1. ก่อนหน้านี้ กรมการแผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการหารือร่วมกันระหว่าง นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทย นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผอ.มะเร็งแห่งชาติ และนายแสงชัย แหเลิศตระกูล หรือหมอแสง ก่อนแจ้งผลการทดลองวิจัยแก่สาธารณชนว่า ยาสมุนไพรของหมอแสงรักษาโรคมะเร็งไม่ได้จริง
นพ.ณรงค์เปิดเผยว่า ทางกรมได้นำตัวอย่างสมุนไพรนายแสงชัยไปทดลองในลักษณะตัวยาที่มีความเข้มข้นต่างกัน แยกเป็นที่อยู่ในสารน้ำ ในเลือด และปริมาณที่มีความเข้มข้นสูงๆ แล้วนำสมุนไพรนี้ไปทดสอบกับเซลล์มะเร็ง 7 แบบ คือ มะเร็งเต้านม 3 ชนิด มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ และมะเร็งกระเพาะอาหาร
ผลการทดลองในหลอดทดลอง พบว่า ตัวฤทธิ์ของสมุนไพรไม่สามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของคุณภาพชีวิต ยังสามารถใช้ได้ ไม่อันตราย
พร้อมระบุว่าว่า สำหรับประชาชนผู้ป่วยมะเร็ง โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นระยะท้ายๆ การมารับยานายแสงชัยเพื่อประคับประคองก็ได้ แต่หากเป็นระยะต้นๆ ก็รักษาคู่ขนานกันไป
นอกจากนี้ สมุนไพรสูตรของนายแสงชัย ก็ยังไม่สามารถขึ้นทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพตามกฎหมาย
2. หลังจากนั้น นายแสงชัยได้ประกาศผ่านสื่อมวลชนว่า จะแจกยางวดเดือน พ.ค.นี้ เป็นครั้งสุดท้าย
อ้างว่า ต่อไปนี้ ถ้าใครอยากจะกินต่อต้องไปติดต่อทำเรื่องกับสถาบันโรคมะเร็ง หรืออธิบดีกรมการแพทย์ ว่าสมัครใจจะกิน
“ผู้ใหญ่ทุกคน ทั้งตุลาการที่รับไปหลายร้อยชุดก็ไม่ต้องมาแล้ว ก็บอกว่าอย่าหน้าด้าน หมอ ตุลาการ ตำรวจ ทหาร ที่มากินก็ไปแจ้งเขียนหนังสือหน่อย ถึง ผอ.มะเร็งหรือเข้าไปก็ได้ ดิฉันมีความประสงค์ที่จะกินที่จะกินสมุนไพรตัวนี้ ไปบอกเขา หลายแพทย์ที่บอกว่าถ้าฆ่ามะเร็งไม่ได้ หน้าด้านไปแจกทำไม ก็อยากเลิกไง แล้วมาบอกว่าฆ่าไม่ได้ก็จะเลิก ถ้าเกิดไปผิดกฎหมายไปจะทำอย่างไง ต่อไปนี้ใครจะกินก็ต้องไปแจ้งที่สภาบันมะเร็ง หรือกรมการแพทย์เข้าไปเลยไปแจ้งเขา ผมจะได้เอารายชื่อที่นั่นมาแจก”
3. ท่าทีของนายแสงชัย แท้จริงคือ การไม่ยอมรับผลการพิสูจน์ของกระทรวงสาธารณสุข
ที่อ้างว่า ให้ไปติดต่อสถาบันมะเร็งก่อนนั้น ซ่อนนัย คือ เป็นการให้มวลชนไปแสดงออก กดดัน
เพราะจริงๆ แล้ว มันไม่มีช่องทางให้ใครไปติดต่อหน่วยงานเหล่านั้น เพื่อขอสมัครใจรับยาที่ไม่ผ่านการพิสูจน์ว่ารักษาได้จริงหรือไม่
4. น่าเสียดาย... กระทรวงสาธารณสุขยังไม่ได้ห้ามนายแสงชัยแจกยา
แถมยังบอกด้วยว่า สามารถกินเพื่อคุณภาพชีวิตได้
เพราะฉะนั้น นายแสงชัยน่าจะยังสามารถดำเนินการต่อไปได้ตามเดิม
แต่ดูเหมือนนายแสงชัยจะไม่พอใจเท่านี้
5. นายแสงชัยยังบอกด้วยว่า จะขายสูตรยาให้กับทางต่างประเทศแล้ว
อันที่จริงก็เป็นสิทธิของนายแสงชัย
แต่การขาย และการผลิตนั้น ก็จะต้องเป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ฝ่ายผู้ซื้อ ก็จะต้องมั่นใจว่า ถ้าซื้อไปแล้ว จะสามารถผลิตขายได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
6. ก่อนหน้านี้ นพ.เพชร อลิสานันท์ แพทย์ประจำหน่วยรังสีรักษาและมะเร็งวิทยาแผนกรังสีวิทยา รพ.จุฬาลงกรณ์ เคยให้ความเห็นต่อกรณีของหมอแสงไว้ว่า ในเรื่องของความตั้งใจนั้น นายแสงชัย หรือหมอแสง เป็นคนตั้งใจดี คนที่เป็นจิตอาสาก็ตั้งใจดี ผู้ป่วยมะเร็งทุกคนต้องการความหวัง แล้วหมอแสงก็มาตอบโจทย์นี้พอดี
“สิ่งที่หมอแสงค้นพบ ในวงการแพทย์เรียกว่าเป็นการเจอสารสักตัวหนึ่งที่คิดว่าน่าจะใช้ได้ เมื่อเจอแบบนี้ก็จะต้องใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพื่อมาพิสูจน์ในห้องทดลอง ในหนูทดลอง ทดลองในมนุษย์ ซึ่งแยกเป็นทั้งคนปกติและผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยมะเร็งจะต้องมีขั้นตอนพิเศษเพราะเป็นคนอ่อนไหว อ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ ต้องมีคณะกรรมการขึ้นมาดูแลป้องกันผู้ป่วยกระโจนสู่งานวิจัยทุกอย่างด้วยด้วยความหวังที่จะหาย ซึ่งกระบวนการเหล่านี้หมอแสงไม่มีเลย
...เราไม่ได้มีปัญหากับความหวังดีของหมอแสง แต่เรากังวลเรื่องการนำเอาความรู้มาใช้ เพราะไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่จะพิสูจน์ประโยชน์ให้ชัดเจน จะบอกว่าให้ฟรีแล้วไม่มีข้อเสีย ไม่มี ผมถาม 2-3 คำถาม คนไข้ต้องมาขอใบรับรองแพทย์มากขึ้น รพ.มีภาระงานเพิ่มขึ้น แล้วอีกอย่างในเมื่อแจกฟรีทำไมต้องแจ้งความ แล้วยังระบุว่าห้ามฟ้องร้องหากเกิดเหตุไม่ดี...”
7. น่าคิดว่า โดยจรรยาวิชาชีพสาขาเวชกรรมไทย ผู้เป็นหมอพื้นบ้านประกอบด้วยคุณธรรม อาทิ
เมตตาจิตแก่คนไข้
ไม่เห็นแก่ลาภ
ไม่เป็นคนโอ้อวด
ไม่ปิดบังความเขลาของตนเอง
ไม่ปิดบังความดีของผู้อื่น
ไม่หวงกันลาภผู้อื่น
ไม่ลุอำนาจแก่อคติทั้ง 4 ได้แก่ ฉันทาคติ (ความรักใคร่พอใจ) โทสาคติ (ความโกรธ) ภยาคติ (ความกลัว) โมหาคติ (ความหลง)
ไม่หวั่นไหวด้วยโลกธรรม
มีหิริโอตัปปะ
ไม่เป็นคนเกียจคร้านและมักง่าย
มีโยนิโสมนสิการ
ไม่เป็นคนมีสันดานอันประกอบด้วยความมัวเมา ฯลฯ
เชื่อว่า หมอแสง โดยพื้นฐานน่าจะมีเจตนาดีต่อผู้ป่วย ควรทราบจุดที่เหมาะที่ควร ที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและสังคมส่วนรวม
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี