ก่อนอื่นต้องยอมรับความจริงว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยยังคงจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และยืนยันความต้องการให้แผ่นดินนี้มีสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่คู่กับแผ่นดินนี้ต่อไป
แต่ก็ต้องยอมรับความจริงเช่นกันว่า ขณะเดียวกัน ในสังคมไทยก็ยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งไม่ต้องการสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่แค่เพียงไม่ต้องการ และไม่เคารพนับถือเท่านั้น แต่คนกลุ่มที่ว่านี้ยังพยายามล้มล้าง โค้นล้ม ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยกรรมวิธีต่างๆ นานาตลอดเวลาอีกด้วย
เมื่อสังคมไทยมีคนสองกลุ่มดังระบุข้างต้น จึงเกิดการปะทะทางความคิดเห็นในประเด็นการดำรงอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเป็นระยะๆ ตลอดมา
ประเด็นหนึ่งที่กลุ่มคนผู้ไม่ต้องการสถาบันพระมหากษัตริย์ นำมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยคือ การเรียกร้องให้ยกเลิกการบังคับใช้ มาตรา 112 โดยยกข้ออ้างต่างๆ นานา ว่า มาตรา 112 ไม่เป็นธรรมกับผู้ตกเป็นจำเลย แล้วก็อ้างต่อไปอีกว่า มาตรา 112 ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามกับผู้มีอำนาจรัฐ
เมื่อมีผู้ตั้งประเด็นเช่นนี้ ก็จึงมีคำถามตามมาว่าหากผู้มีอำนาจรัฐจะใช้เล่ห์กลการเมือง และใช้ลูกเล่นกฎหมายทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ทำไมจึงต้องเจาะจงใช้เพียง มาตรา 112 เดียวเท่านั้น เหตุใดไม่ใช้มาตราอื่นๆ ที่ยังมีอีกมากมาย
ประเด็นจึงกลายเป็นว่า ผู้พยายามโค่นล้ม ล้มล้างทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ เข้าใจดีว่ามีผู้รู้ทันความคิดและแผนการของตน จึงจำต้องแสร้งยกข้ออ้างเรื่องมาตรา 112 แล้วบิดเบือนว่าเป็นเรื่องของการกลั่นแกล้ง รังแกฝ่ายตรงข้ามผู้มีอำนาจรัฐ ทั้งๆ ที่ความจริงส่วนลึกคือกลุ่มผู้จงใจล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ตั้งเป้าหมายล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด แต่ก็กลัวว่าผู้ก่อการจะมีความผิด จึงต้องสร้างเรื่องว่าถูกรังแกโดย มาตรา 112 แล้วก็อ้างต่อไปว่าต้องล้มล้าง มาตรา 112
คนรู้ทันกลุ่มล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ตั้งคำถามอีกว่า แล้วเหตุใดคนกลุ่มนี้จึงไม่เรียกร้องให้ยกเลิกมาตราอื่นๆ ที่มีบทลงโทษผู้แสดงอาการหมิ่นประมาทบุคคลอื่น และหมิ่นประมาทเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมถึงหมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายต่อพระราชาธิบดี พระราชินี รัชทายาท ประมุขแห่งรัฐต่างๆ รวมถึงผู้แทนรัฐต่างประเทศที่ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาทำหน้าที่ในพระราชอาณาจักรไทย
มีผู้ตั้งคำถามเช่นนี้กับกลุ่มคนผู้ตั้งใจล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเสมอมา แต่ก็ไม่เคยได้รับคำตอบที่ชัดเจน แต่สิ่งที่คนกลุ่มดังกล่าวตอบก็แค่เพียง มาตรา 112 ไม่มีความเป็นธรรม และถูกใช้เพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อรังแกฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ซึ่งเท่ากับเป็นการตอบแบบแผ่นเสียงตกร่องเท่านั้น เพราะหาสาระสำคัญใดๆ จากคำตอบดังกล่าวไม่ได้แม้แต่น้อย
การบัญญัติกฎหมายเพื่อถวายความคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาของประเทศที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้น การเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายที่ถวายความคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์จึงไม่สามารถมองเป็นอย่างอื่นไปได้ นอกจากเป็นความต้องการของผู้จงใจล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี