เดือนกันยายนของทุกปี เป็นเดือนแห่งการเกษียณอายุราชการ ของข้าราชการในกระทรวงทบวงกรมต่างๆตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ขอถือโอกาสนี้พูดถึงการดำรงชีวิตต่อไปของผู้เกษียณอายุทั้งหลาย ว่าข้างหน้าต่อไปนี้ จะเดินไปอย่างไรจึงจะมีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขตามอัตภาพของตน เพราะคนเกษียณอายุราชการหรือคนที่หมดหน้าที่ในการทำงานตามระยะเวลาขององค์กรบางองค์กร แม้กระทั่งในองค์กรของเอกชนทั้งหลายที่มีข้อกำหนดไว้นั้น ไม่ใช่จะเป็นคนไร้ความสามารถไปเสียทั้งหมด ยังสามารถที่จะอุทิศตนเป็นประโยชน์ของสังคมได้
โดยเฉพาะหน้าที่ต่อแผ่นดินเกิดแล้วไม่มีวันเกษียณ
ในประเทศไทยมีทั้งข้าราชการ นักการเมือง นักธุรกิจ จำนวนไม่น้อยที่เพียบพร้อมไปด้วยประสบการณ์และความรู้ความสามารถ หลังเกษียณอายุจากการงานตามระยะเวลาที่กำหนดแล้ว ยังบำเพ็ญตนเป็นประโยชน์ต่อสังคมได้ โดยวางแผนดำเนินชีวิตในปั้นปลายอย่างมีคุณค่าต่องานของสังคม เพื่อประโยชน์สุขของสังคมส่วนรวมโดยไม่เห็นแก่ความสุขส่วนตัว เพราะฉะนั้นคนสูงอายุจึงไม่ควรกังวลถึงอายุของตนเอง อย่าปิดกั้นตัวเอง ทำตัวให้สบายในสังคมอย่างมีความสุข ร่วมสนุกกับคนหนุ่มสาว ดูดซับชีวิตแห่งความสุขของคนเหล่านั้น ขณะเดียวกันก็ถ่ายทอดประสบการณ์อันมีค่าให้แก่พวกเขา ต่างตอบแทนในส่วนที่อีกฝ่ายหนึ่งขาด
ขอเพียงหมั่นดูแลรักษาสุขภาพของตัวเอง
ทำใจให้สบาย ตัดทิ้งความกังวลทั้งหลาย
ไม่กระหืดกระหอบในเรื่องของเวลาที่ชอบทำอะไรตามความอยากของตนอยู่ร่ำไป
รู้จักวิธีการดำรงชีวิตแบบต้นลั่นทมบ้าง
ลั่นทมเป็นต้นไม้ชนิดหนึ่ง ถ้าฟังเพียงชื่ออาจไม่ชอบ เพราะคำว่า “ลั่นทม” นั้นความหมายของมันออกไปทางความระทมทุกข์ แต่ต้นลั่นทมเป็นต้นไม้ที่มีอายุยืนนานนับร้อยปี เพราะต้นลั่นทมเมื่อหาที่ยืนได้อย่างเหมาะสมแล้ว คือไม่เฉอะแฉะ ต้นลั่นทมจะไม่เรื่องมากและไม่ขออะไรอีก เหมือนกับจะบอกว่าหน้าที่ในการยืนอยู่ให้ได้คือหน้าที่ของตนทั้งหมด
ถึงฤดูแล้งน้ำน้อย ลั่นทมจะปลิดขั้นทิ้งใบ เหลือเพียงกิ่งต้นที่ทอดเลื้อยไป รักษาตนเองอย่างสงบเพื่อให้มีน้ำหล่อเลี้ยงลำต้นและดอกได้บานหอมตลอดแล้ง จนเมื่อฝนแรกมาเยือน ลั่นทมจะระบัดใบให้ร่มเงาอีกครั้ง
ลั่นทมไม่ล้มง่าย ลั่นทมไม่มีแมลงมารบกวนและลั่นทมไม่มีเชื้อรา ลั่นทมใบร่วง ลั่นทมให้ดอก ลั่นทมแตกใบอยู่อย่างนี้นานนับร้อยปี
ลั่นทมจึงเหมือนครูที่สอนให้เห็นถึงแบบอย่างแห่งความอดทน มีขันติ แลเรียบง่ายอย่างแท้จริง
เอาลั่นทมมาเป็นตัวอย่างในการครองชีวิต และในการทำงาน เอาลั่นทมมาเป็นแบบอย่างแห่งความอดทน มีขันติและเรียบง่าย ไม่กระหืดกระหอบเรื่องเวลา
อยากจะพูดว่า คนที่ไม่มีวันพรุ่งนี้คือคนที่ไม่มีความหวังและชีวิตที่ดำเนินไปอย่างไม่มีความหวังนั้น จะอ่อนแอลงและสูญสลายไปอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นต้องวางแผนชีวิตในบั้นปลายให้ดี เฉพาะหลังการเกษียณอายุราชการ ต้องมีแผนในการดำเนินชีวิต เพื่อมิให้ชีวิตที่ผ่านไปในวันหนึ่งๆมีแต่ความว่างเปล่า
ยิ่งถ้าได้คิดวางแผนของชีวิตหลังเกษียณเสียแต่เนิ่นๆ นานเท่าใดก็ได้ประโยชน์มากเท่านั้น เพราะการเตรียมตัวเป็นความไม่ประมาท
ก่อนอื่นผู้เกษียณอายุจะต้องทำตัว ทำใจที่จะรับสภาพซึ่งจะเกิดขึ้นให้ได้แต่เนิ่นๆ อย่างน้อยได้แก่เรื่องดังต่อไปนี้
1. ยอมรับในทันทีว่าอำนาจวาสนาในตำแหน่งหน้าที่การงานทุกอย่างกำลังหมดไป เรียกว่าสุดสิ้น สิ่งที่ยังคงเหลืออยู่คือ บารมี ที่สั่งสมไว้
2. ยอมรับสภาพของการหมดบริวาร หมดของกำนัล หมดความสะดวกต่างๆที่เคยได้รับ หรือที่เคยมี
3. ยอมรับสภาพของการหมดเวลาทำงานในวันหนึ่งๆ จำนวนเวลาตามที่กำหนดไว้ ซึ่งเวลาที่หมดไปโดยไม่มีอะไรทำนี้พอที่จะทำให้เกิดความงุ่นง่านใจได้
4. ยอมรับสภาพรายได้ที่จะต้องหดหายไม่เหมือนเก่า
5. ยอมรับสภาพความเสื่อมถอยของร่างกายที่ไม่เหมือนเก่า เป็นเครื่องเตือนสติว่าถึงเวลาเข้าบั้นปลายของชีวิตมนุษย์โดยทั่วไปแล้ว
6. ยอมรับสภาพของจิตใจ ความรู้สึกนึกคิด การติดอยู่กับสถานที่ทำงานและเพื่อนร่วมงาน ซึ่งแปรปรวนได้ง่าย เพราะตลอดระยะเวลาที่ยังอยู่ในระหว่างการทำงานนั้น โอกาสที่จะนึกถึงเรื่องอย่างนี้แทบจะไม่มีเอาจริงๆ แต่เมื่อเกษียณแล้วมีเวลาว่างจึงเริ่มคิด ถ้าคิดมากๆก็จะกลายเป็นโรคประสาท ห่วงชีวิตของตนในบั้นปลายขึ้นมา ความเหงา ความซึมเศร้า เกิดความรู้สึกโดดเดี่ยวในชีวิต มีความรู้สึกอาลัยอาวรณ์ เพิ่มความเศร้าหมองให้เกิดขึ้น
ทั้ง 6 ประการนี้ ใครที่กำลังเกษียณอายุต้องรู้จัก
เตรียมตัวปรับจิตใจเพื่อรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นดังกล่าว
ผ่านชีวิตการงานมาจนกระทั่งเกษียณอายุราชการอย่างราบรื่นตลอดรอดฝั่งมาได้นั้น ก็นับเป็นโชคดีของผู้นั้น ต่อจากนี้ไปให้มาคิดว่าจะมีเวลาเหลือให้ตัวเองนานสักเท่าไร ไม่มีใครบอกได้นอกจากการรู้จักเตรียมตัวของตัวเองให้ถูกต้อง
ขอยกไปพูดต่อในตอนหน้า
(อ่านต่อวันศุกร์)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี