เมื่อพูดถึงปัญหา “แน่นอก” ชนิด “กลืนไม่เข้าคายไม่ออก” ตอนนี้ คงหนีไม่พ้น “ข้าวไทย” ที่ผู้ใหญ่ใจดีหลายฝ่ายกำลังช่วยกันหาทางออกให้ชาวนา ได้ลืมตาอ้าปากกันอีกครั้ง!
แต่หากมองย้อนไปให้ถึงรากหญ้า ปัญหา “ทำนาแต่ไม่ได้นา” เป็นหนี้ และขาดทุน ทำให้อาชีพที่ถูกขนานนามว่าเป็น “กระดูกสันหลังของชาติ”กลายเป็นอาชีพที่คนรุ่นใหม่ปฏิเสธ
เมื่อช่วงที่ผ่านมา สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) และสถาบันวิชาการด้านสหกรณ์ คณะเศรษศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ร่วมกันจัดทำ “หลักสูตรการเรียนรู้ชาวนามืออาชีพ” เพื่อวิเคราะห์ปัญหา และหาทางออกให้กับชาวนาไม่ให้ขาดทุน นอกจากนี้ยังมีการจัดทำพ็อกเกตบุ๊คการ์ตูนชาวนามืออาชีพ เพื่อถ่ายทอด ความรู้สำหรับเป็นชาวนาออกมาในรูปแบบการ์ตูน เพื่อดึงดูดให้เยาวชนสนใจ
ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ที่ปรึกษาด้านวิชาการ สสค.ระบุสถิติเยาวชนไทยเข้าเรียนต่อระดับอุดมศึกษาเพียง 30% ขณะเด็กส่วนใหญ่ 70% ทยอยหลุดจากระบบการศึกษาตั้งแต่ป.6 นั้นต้องเข้าสู่ระบบแรงงานแบบไม่ตั้งตัว ทำให้ไม่มีทักษะเพียงพอในการประกอบอาชีพ สร้างปัญหาการว่างงาน จึงเห็นควรว่า เทรนด์การศึกษาไทยยุคใหม่ต้องเน้นเรื่องการมีงานทำ
ดร.อมรวิชช์ย้ำว่า ประเด็นสำคัญคือ ต้องเปลี่ยนกระบวนการเรียนรู้จากการถ่ายทอดเป็นการลงมือทำ โดยต้องอาศัยความร่วมมือ จากภาครัฐ ขยายผลหลักสูตรทั้งในและนอกระบบ เพื่อส่งเสริมการเรียนทักษะอาชีพ และอาศัยความร่วมมือจากสื่อเพื่อต่อสู้กับกระบวนการความคิดที่รู้สึกว่า เป็นชาวนา เป็นเกษตรกรแล้ว “เหนื่อย จน ไม่เท่” โดยทำให้เด็กเยาวชนรุ่นใหม่ เห็นว่า ชีวิต “ชาวนามหาเศรษฐี ทำได้จริงอย่างไร?” ซึ่งเป็นการต่อสู้กันในความคิด เพื่อแก้ปัญหาลูกชาวนาลูกเกษตรกรละทิ้งไร่สวน เพราะมีค่านิยมที่ทำนา ไม่ได้นา ล่าสุดอายุเฉลี่ยของเกษตรกรไทยก็พุ่งสูงขึ้นเป็น 55 ปี และจะสูงถึง 65 ปี หากปัญหาไม่ได้แก้ไขใน 10 ปีนี้
สอดคล้องกับ รศ.จุฑาทิพย์ ภัทราวาท ผู้อำนวยการสถาบันวิชาการด้านสหกรณ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในฐานะหัวหน้าโครงการจัดทำหลักสูตรการเรียนรู้ชาวนามืออาชีพ กล่าวว่า ความเสี่ยงของชาวนาไทยคือ การเผชิญกับความไม่รู้และขาดทักษะการทำการเกษตรสมัยใหม่ จึงมีการออกแบบหลักสูตรโรงเรียนลูกชาวนาเพื่อสร้างชาวนามืออาชีพ ประกอบด้วย ความรู้ด้านการประกอบอาชีพ และความรู้ในการดำเนินชีวิต
เมื่อวิเคราะห์ปัญหาโครงสร้างชาวนาไทยจึงมาจาก 3 ปัจจัยสำคัญ คือ 1. การแบกรับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น 2.การขาดทักษะและความรู้ ทั้งความรู้เท่าทันกลไกตลาด การลดต้นทุนการผลิตและการจัดการ จึงตกเป็นเหยื่อธุรกิจการผลิต การขายปุ๋ยและสารเคมี และ 3.ขาดวิถีชีวิตที่พอเพียงทั้งการส่งลูกเข้าเรียนในเมืองทำให้หมดตัวกับการศึกษา เป็นหนี้เงินกู้จากกับดักเฟอร์นิเจอร์สมัยใหม่
“นอกจากนี้ยังถูกกระหน่ำจากปัจจัยภายนอกทั้งการถูกนายทุนผูกขาดกดราคาตลาด ทำให้ไม่มีอำนาจต่อรอง กฎหมายที่ไม่เอื้อต่อชาวนารายย่อย นโยบายรัฐที่แก้ปัญหาปลายเหตุโดยไม่แก้ที่ต้นเหตุ คือการติดอาวุธทางปัญญาให้กับชาวนาไทยรุ่นใหม่” รศ.จุฑาทิพย์ กล่าว
ด้าน ด.ญ.อมรลักษณ์ คงขิม อายุ 14 ปี โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 2 หนึ่งในเยาวชนที่ร่วมโรงเรียนลูกชาวนา จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สิ่งที่ได้จากโรงเรียนลูกชาวนา คือการเป็นเกษตรกรที่ดี เช่น การใช้ปุ๋ยชีวภาพจากฮอร์โมนไข่ที่ทำจากไข่ นม น้ำตาล ฉีดรอบนาข้าวแทนยาฆ่าแมลง ทำให้ช่วยลดต้นทุนการผลิตและดีต่อสุขภาพทั้งพ่อแม่และผู้บริโภค
นอกจากนี้การที่ได้เรียนรู้ร่วมกับเพื่อนที่เป็นลูกชาวนาด้วยกันทำให้เกิดความภาคภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกชาวนา เพราะถ้าไม่มีชาวนาแล้วคนไทยก็ไม่มีข้าวกิน และในอนาคตก็อยากเป็นชาวนารุ่นใหม่ที่มีการวางแผนการผลิต การแปรรูป และต้องมีการรวมกลุ่มกันเพื่อตั้งสหกรณ์เพื่อมีอำนาจต่อรองจากทุนภายนอก
สำหรับ “เนื้อหาในพ็อกเกตบุ๊คการ์ตูนชาวนามืออาชีพ” นั้น สะท้อนถึงปัญหาหัวอกพ่อลูกชาวนาไทยคู่หนึ่ง ที่แม้ลูกชายจะเติบโตอย่างมีความสุขในท้องนา แต่สังคมกับคิดตรงข้าม
“เพื่อนร่วมชั้นเดียวกันเล่าว่าพ่อทำนามาตั้งแต่ผมเกิดจนตอนนี้พ่อก็ยังเป็นแค่ชาวนาจนๆเหมือนเดิม ถึงผมจะชอบไปนากับพ่อ แต่เพื่อนๆ ที่โรงเรียนชอบว่า ชาวนาน่ะ ยังไงก็จนไปทั้งชีวิต..”
ตัวละครได้สะท้อนปัญหา และทางออกร่วมกันว่า อยากจะเห็นชาวนาใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มีเพื่อนร่วมอาชีพที่สามารถปรึกษาหารือกันได้ ใช้ชีวิตสมฐานะ ไม่ต้องมีหนี้สินติดตัว สุขภาพแข็งแรงชีวิตแจ่มใส ชาวนาต้องไม่ใช่คนที่ไม่มีความรู้ แต่เขาเป็นเก่งไม่เหมือนคนอื่น
ความหวังของ “ชาวนา (รุ่นใหม่) มืออาชีพ” จึงต้องเชี่ยวชาญทั้งการปลูกข้าว การวางแผนบริหารและมีความคิดสร้างสรรค์ เป็นที่พึ่งและทางออกของปากท้องของคนไทยได้เต็มปากเต็มคำดังเช่นในอดีต
สำหรับผู้สนใจต้องการหนังสือการ์ตูนชาวนามืออาชีพ สามารถร่วมเล่นเกมได้ในเว็บไซต์ สสค. www.QLF.or.th เพื่อรับหนังสือการ์ตูน และปากกาเซ็น สสค.จำนวน 30 ชุด ภายในเดือน ก.ค. และจะประกาศผลภายในวันที่ 15 ส.ค. นี้
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี