17 มิ.ย.57 ผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้ายที่ประเทศบราซิล โดยเป็นการพบกันในกลุ่ม H ระหว่าง ปีศาลแดงแห่งยุโรป “เบลเยี่ยม พบกับ จิ้งจอกทะเลทราย “แอลจีเรีย” ซี่งเป็นการลงสนามนัดแรกของทั้งคู่ สถิติที่ผ่านมาทั้ง 2 ทีมเจอกันมาแล้ว 3 ครั้ง เป็นฝ่ายเบลเยี่ยมทำได้ดีกว่า ชนะ-เสมอ-แพ้ อย่างละครั้ง
เบลเยี่ยม ลงสนามนัดนี้มาในระบบ 4-2-3-1 โดยนักเตะ 11 คนแรกประกอบด้วย ติโบต์ กูร์กตัวส์ , โทบี้ อัลเดอร์เวเรลด์ , ดาเนี่ยล ฟาน บุยเต็น , แว็งซ็องต์ ก็องปานี , แยน แฟร์ ต็องเก็น , อั๊กเซิล วิตเซิล , นาเซอร์ ชาดลี , เควิน เดอ บรอยน์ ,มูสซ่า เด็มเบเล่ , เอแดน อาซาร์ และ โรเมลู ลูกากู
ขณะที่ แอลจีเรีย เล่นในระบบ 4-2-3-1 เช่นเดียวกัน โดยมีนักเตะ 11 คนแรกประกอบด้วย ราอิส เอ็มโบลี , มาดฌิด บูเกร์ร่า , ฟาอูซี่ กูล็อม ,ราฟิค อัลลิเช ,เมห์ดี้ มอสเตฟา , คาร์ล เม็ดฌานี่ , โซฟิยาน เฟอกูลี่ , ซาฟีร์ ตาอีแดร์ , นาบิล เบนทารับ , เอล อราบี ซูดานี่ และริยาด มาห์เรซ
เริ่มเกม ทัพปีศาจแดงแห่งยูโรป มุ่งมั่นกับชัยชนะเป็นฝ่ายครองเกมบุกใส่ทันที โดย แอลจีเรีย มาตั้งรับอย่างเหนียวแน่นทำให้เกทมกลางสนามกลายเป็นสมรภูมิของทั้ง 2 ทีม โดยแทบไม่มีโอกาสที่จะเข้ามายิงทำประตูกันเลย นาทีที่ 21 เบลเยี่ยม มีโอกาสลุ้นทำประตู วิตเซิ่ล ลองซัดไกลระยะ 25 หลา บอลพุ่งเข้ากรอบประตู แต่ เอ็มโปลี สามารถทุบลูกออกไปได้
หลังจากนั้นแค่ 4 นาที เป็น แลจีเรียที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน เมื่อ แฟร์ต็องเก้น ใช้สองมือดึง บราฮิมี่ ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้ แอลจีเรีย ได้ลูกจุดโทษ เป็น เฟอกูลี่ กดโทษเข้าไปให้ แอลจีเรียขึ้นนำไปก่อน 1 ต่อ 0
จากนั้นเหมือนถูกกระตุกหนวดเสือ “เบลเยี่บม” เปิดเกมรุกเข้าใส่อย่าไม่ยั้ง เพื่อแก้ประตูคืนให้ได้ กระทั่งนาทีที่ 39 เบลเยี่ยม ได้ลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษค่อนมาทางขวาระยะ 25 หลา เดอบรอยน์ เขี่ยเปลี่ยนจุดให้ แฟร์ต็องเก้น ได้กดด้วยซ้ายเต็มข้อ แต่บอลเหินข้ามคานออกไป จนมาทีที่สุดท้ายของครึ่งแรก ชาดลี่ มีโอกาสยิงประตูในกรอบเขตโทษ แต่บอลเบาเกินไปเข้ามือผู้รักษาประตูรับอย่างสบาย
เริ่มครึ่งหลัง เกมก็ยังคงเหมือนรูปแบบใน 45 นาทีแระ เบลเยี่ยมถาโถมเข้าใส่ แอลจีเรีย อย่างหนัก และหวุดหวิดจะได้ประตูตีเสมอหลายครั้ง แต่กองหน้าและกองกลางใช้โอกาสมากไป นาทีที่ 51 เมอร์เท่นส์ กระชากบอลหนีแนวรับของ แอลจีเรียไปจนเกือบสุดเส้นหลังก่อตบเข้ากลางตามสูตร ทว่า นายทวารจิ้งจอกทะเลทราย “เอ็มโปลี” อ่นทางออกพุ่งออกมาตัดบอลไว้ได้
นาทีที่ 56 เป็น แอลจีเรีย ที่มีโอกาสได้ลุ้นประตูจากลูกเตะมุม เม็ดฌานี่ กระโดดขึ้นโขกเหน่งๆ ลูกหลุดออกนอกกรอบประตูด้านเสาสองนิดเดียว นาทีที่ 60 แฟร์ต็องเก้น ก็โนใบเหลืองเมื่อพุ่งเข้าเสียบสกัดใส่ผู้เล่นแอลจีเรีย ถัดมานาทีที่ 65 เบลเยี่ยม ส่ง มารูยาน เฟลไลนี่ ลงสนามแทน เด็มเบเล่
และเป็น เฟลไลนี่ ที่ทำประตูตีเสมอให้เบลเยี่ยมหลังลงสนามมาได้ 5 นาที โดยเริ่มจาก เดอบรอยน์ เปิดลูกจากริมเส้นด้านซ้ายเข้ามากลางประตู เฟลไลนี่อาศัยความใหญ่ขึ้นโขกบอลเช็ดต่อเข้าสามเหลี่ยมเสาสองอย่างสวยงามให้เบลเยี่ยม เป็น 1 ประตูต่อ 1 จากนั้นเกมเป็นของเบลเยี่ยมที่พยายามบุกทำประตูที่สองเพื่อเก็บ 3 แต้มอย่างสิ้นเชิง
กระทั่งนาทีที่ 80 ความพยายามของเบลเยี่ยมก้ประสบความสำเร็จ เมื่อ เดอ บรอยน์ ผ่านบอลออกไปกรอบเขตโทษด้านขวาให้ ครีส เมอร์เท่นส์ ที่ถูกส่งลงมาเล่นในต้นครึ่งหลัง จับบอลด้วยเท้าขวาลากเข้าหาประตูก่อนตะบันด้วยขวาเต็มข้อลูกพุ่งเข้าสู่ก้นตาข่ายอย่างสวยงาม ทำให้เบลเยี่ยมขึ้นนำ 2-1 จากนั้น เบลเยี่ยม ยังเดินหน้าบุกเอาประตูที่สามอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรแอลจีเรียได้ ครบ 90 นาที เป็นเบลเยี่ยมที่พลิกกลับมาแซงชนะแอลจีเรียแบบเฉียดฉิว 2 ประตูต่อ 1 เก็บ 3 แต้มแรกเป็นการประเดิมสนามได้สำเร็จ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี