ในช่วงสถานการณ์โรคระบาดที่น่าเป็นห่วง เชื่อว่าหลายๆ คน คงแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและป้องกันตนเองโดยลดการออกไปข้างนอก เมื่อเราอยู่ในบ้านกันมากขึ้น แต่ละคนก็คงมีกิจกรรมมากมายที่ช่วยให้เราผ่อนคลายความตึงเครียดจากสถานการณ์สุขภาพและคลายความเบื่อจากการอยู่ในบ้านมากๆ ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมที่ผู้เขียนทำในช่วงเวลาที่อยู่ในบ้านซึ่งมีเพิ่มขึ้นมหาศาลในช่วงนี้คือการดูซีรี่ส์นั่นเอง พอเปิด Netflix ขึ้นมา ก็พบกับตัวเลือกมากมายจากหลายประเทศที่ออกมาครบทั้งซีซั่นและเย้ายวนให้เราดูต่อกันหลายชั่วโมงโดยไม่ต้องออกไปไหน เลือกไปเลือกมา ผู้เขียนก็จบลงที่ซีรี่ส์ยอดนิยมที่เป็นที่พูดถึงกันมากมาย คือ Crash Landing on You หรือ ปักหมุดรักฉุกเฉิน
โดยปกติ ผู้เขียนเป็นคนนิยมดูซีรี่ส์ฝั่งตะวันตก แต่พอมีเวลาเลยรู้สึกว่าอยากลองดูอะไรที่ตนเองไม่ค่อยได้ดูบ้าง ประกอบกับการที่เพื่อนๆ แต่ละคนรอบข้างดูจะเสียน้ำตาและพร่ำเพ้อถึงผู้กองรีจองฮยอกจนผู้เขียนอยากจะรู้เหมือนกันว่ามันขนาดนั้นเลยหรือ เมื่อเปิดตอนแรกไปปุ๊บ มารู้ตัวอีกทีก็ดูติดต่อกันไป 3 ตอน โดยไม่ได้ลุกไปไหนเลย นับว่าเป็นซีรี่ส์เกาหลีที่ให้ความบันเทิงมากจริงๆ นอกจากความฟินที่ได้จากการติดตามลุ้นความรักของสหายผู้กองกับยุนเซรี,การได้ดูละครที่ลองจินตนาการชีวิตประจำวันของคนเกาหลีเหนือ, การได้ติดตามการผจญภัยของเหล่าทหารจากประเทศสังคมนิยมไปสู่ประเทศทุนนิยม ฯลฯ ละครเรื่องนี้ยังสะท้อนเรื่องการคอร์รัปชันในหลากหลายรูปแบบที่ชวนให้ผู้เขียนย้อนกลับมาคิดและชวนเพื่อนๆ นักดูซีรี่ส์ถกกันอย่างสนุกสนาน (หากใครยังไม่ได้ดู แล้วกลัวจะไม่ตื่นเต้นหากรู้เรื่องก่อน รบกวนอย่าเพิ่งอ่าน เพราะจะมีการเล่าถึงเนื้อหาของซีรี่ส์อยู่ค่ะ)
หากพูดถึงการคอร์รัปชันโดยตรง เราก็จะเห็นตัวอย่างได้จาก “ตัวร้าย” ของเรื่อง หรือ ชอโชลกัง ผู้พันแห่งกองทัพเกาหลีเหนือ ที่ใช้อำนาจของตัวเองในการให้คนไปขุดทรัพย์สินทางวัฒนธรรมอย่างผิดกฎหมาย นำไปขายต่อ และนำเงินไปติดสินบนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือหลายคนนอกจากการติดสินบนด้วยเงิน ชอโชลกังยังใช้อำนาจของตนเองในทางมิชอบในแบบหลากหลาย เช่น ไปข่มขู่ผู้อื่นให้กระทำการผิดกฎหมายเพื่อสร้างประโยชน์แก่ตนเอง และใช้เส้นสายของตนเองในการกดดันให้ผู้อื่นทำตามความต้องการของตนเอง ท่ามกลางเรื่องราวความรักของคนจากสองประเทศที่มีความขัดแย้งทางความมั่นคงของชาติ การสร้างตัวละครของชอโชลกัง เป็นการสร้างตัวละครร้ายตามขนบการทำละครทั่วไป คือ ความดีปะทะความเลว (รีจองฮยอก ปะทะ ชอโชลกัง) ตัวร้ายก็ต้องทำการชั่วร้าย คนดูก็จะรู้สึกว่า คนนี้มันชั่วมาก เป็นคนขี้โกง ชอบกดขี่ ข่มขู่คน สุดท้ายตัวร้ายของเรื่องนี้ก็ต้องพบเจอกับจุดจบในแบบที่คนร้ายปกติในละครหลังข่าวต้องเจอ ส่วนรีจองฮยอกคนดีผู้ทำเพื่อประเทศชาติและความรัก สุดท้ายก็จะได้แคล้วคลาดจากการโดนปองร้ายโดยคนชั่ว
แต่ในความเป็นจริงของสังคม ความดีและความเลวไม่สามารถแบ่งเส้นให้เป็นขาวและดำได้ในทุกกรณี และบางทีการสร้างตัวละคร “ตัวร้าย” ให้ทำการคอร์รัปชันอาจจะเป็นการสร้างตัวละครที่ทำให้เราย้อนมองปัญหาคอร์รัปชันได้ไม่ครบทุกประเด็น มนุษย์เรามีหลายมิติ หากมองเป็นสี คือ เราไม่ได้ขาวล้วน และไม่ได้ดำล้วน แต่เรามีความเทาหลายเฉดสี ซึ่งละครที่สร้างภาพของ “คนดี” ปะทะ “คนเลว”ทำให้เราอาจจะลืมนึกไปว่าคนที่ถูกจัดให้เป็น “ฝ่ายดี” ในละครก็สามารถใช้อำนาจการกระทำเอื้อประโยชน์แก่พวกพ้องและคนที่ตนเองรักซึ่งนับว่าเป็นการคอร์รัปชันเช่นกัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดจากเรื่อง Crash Landing on You คือ ครอบครัวของพระเอกนั่นเอง
พ่อของรีจองฮยอกเป็นอธิบดีกรมการปกครองของเกาหลีเหนือ ซึ่งแม้เราจะไม่ได้เห็นว่าท่านอธิบดีขึ้นมาอยู่ตำแหน่งนี้ได้อย่างไร แต่เราเห็นได้ว่าตำแหน่งนี้ดูจะเป็นตำแหน่งที่มีอำนาจมาก สามารถกระทำการหลายอย่างเพื่อช่วยเหลือครอบครัวตนเองได้ และเมื่อทุกคนรู้ว่าพระเอกของเราเป็นถึงลูกชายของท่านอธิบดี ก็ดูจะพร้อมหลีกทางให้หรือเข้าหาเพื่อผลประโยชน์ทั้งนั้น แม้พระเอกจะไม่ได้มีการใช้สิ่งนี้ไปข่มขู่ใคร แต่สิ่งนี้ก็ทำให้เขาได้เปรียบคนอื่นๆ ที่คงไม่ได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกันหากตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเขา โดยมีตัวอย่างที่เห็นได้เช่น หนึ่ง ตอนที่รีจองฮยอกโดนจับกุมไปเข้าคุกเพราะไปต่อยหน้าชอโชลกัง เขาได้รับการปล่อยตัวออกมาเพราะเขาสั่งให้ลูกน้องไปปล่อยข่าวว่าตนเองเป็นลูกใคร จนเรื่องไปถึงหูผู้พันแห่งค่ายทหาร ที่แม้รีจองฮยอกจะไม่ได้ข่มขู่ให้มาปล่อยตัว ผู้พันก็รีบมาปล่อยเขาออกจากคุกด้วยเหตุผลที่ “ตัวบุคคล” ไม่ใช่เหตุหรือผลของการตัดสินคดีความ สอง พ่อของรีจองฮยอก ต้องการจะนำตัวลูกชายกลับมาจากเกาหลีใต้ ใช้เส้นสายของตัวเองในการส่งสหาย 5 คน ไปกับขบวนนักกีฬาเพื่อให้ไปตามลูกกลับมานอกจากนี้ เมื่อตอนที่อธิบดีกรมกองทัพมาค้นหาความจริง ยังแอบอ้างว่ากรมสอบสวนเป็นคนส่งลูกของเขาไป สาม ตอนที่อธิบดีกรมกองทัพมาหาพ่อของรีจองฮยอกพร้อมกล่าวว่าเขารู้ความจริงแล้วว่ารีจองฮยอกไปเกาหลีใต้ทำไม และพยายามจะใช้ข้อมูลนี้แบล็กเมล์พ่อของรีจองฮยอกให้ลาออกจากตำแหน่ง แต่คุณพ่อก็ตีกลับด้วยการแบล็กเมล์ว่า “ผมรู้ว่าคุณติดต่อกับชอโชลกังซึ่งเป็นผู้ต้องหาหนีคดี เอาเป็นว่าผมรู้ความลับของคุณเหมือนกัน”ดังนั้น เราทั้งสองควรจะเงียบๆ เรื่องนี้ไป และสี่ เมื่อตอนที่รีจองฮยอกและผองเพื่อนได้กลับมาเกาหลีเหนือผ่านการแลกเปลี่ยนที่ชายแดน และต้องถูกส่งไปดำเนินคดีที่ศาลทหาร ระหว่างทางอธิบดีกรมกองทัพพยายามจะฆ่าเหล่าทหารกลุ่มนั้นทั้งหมด แต่พ่อของพระเอกก็มาช่วย ฆ่าอธิบดีกรมการปกครองตาย และพาลูกกลับบ้าน แม้การยิงจำเป็นการป้องกันตัว แต่ทำไมคุณพ่อถึงพาลูกกลับบ้านโดยไม่ไปผ่านการพิจารณาคดีที่ศาลทหารตามกระบวนการ
ผู้เขียนขอออกตัวว่า ไม่ได้ต้องการวิจารณ์ว่าละครเรื่องนี้ไม่ดีหรือโจมตีแต่อย่างใด เพียงแต่การดูละครเรื่องนี้ทำให้ผู้เขียนย้อนกลับมามองความเข้าใจของตนเองต่อคอร์รัปชัน และการตัดสินผิดชอบชั่วดีได้ในหลายมุม เพราะผู้เขียนก็ตั้งคำถามกับตนเองว่า ทำไมในแวบแรก ตนเองถึงไม่ได้รู้สึกว่าสิ่งที่ครอบครัวพระเอกและพระเอกทำจัดว่าเป็นเรื่องผิด? ทั้งๆ ที่พื้นฐานการกระทำของครอบครัวพระเอกก็คือการใช้อำนาจในทางมิชอบ ไม่ต่างจากชอโชลกังมิใช่หรือ? บางทีการสร้างตัวละครที่ทำให้แรงขับเคลื่อนการกระทำของพระเอกและครอบครัวอยู่ใต้กรอบของความดีงาม การทำเพื่อชาติ และเพื่อความรัก อาจจะทำให้ผู้ชมไม่ได้รู้สึกขัดใจว่าสิ่งนี้ผิด แต่หากเราลองพิจารณาดู การกระทำที่เอื้อประโยชน์แก่พวกพ้องโดยใช้อำนาจและสิทธิพิเศษของตนเอง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลหรือแรงจูงใจอะไร สิ่งนี้ก็ผิดอยู่ดีหรือเปล่า บางทีนอกจากการดูละครเพื่อความสนุกและความบันเทิงแล้ว ละครอาจจะช่วยให้เราย้อนกลับมาพิจารณาความลำเอียงที่เกิดขึ้นในใจเรา ว่าเราได้มองทุกๆ อย่างด้วยความเป็นกลางจริงหรือไม่ ซึ่งการคิดเช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องจบแค่ในละคร เราสามารถนำมันมาประยุกต์กับการพิจารณาเรื่องต่างๆ ในชีวิตจริงของเราได้เหมือนกันว่าเรากำลังติดอยู่กับกรอบความคิดที่เป็นดำล้วนหรือขาวล้วนมากเกินไปไหม หวังว่าละครเรื่องนี้จะทำให้เราทุกคนได้รับความสนุกสนาน และได้ลอง “ปักหมุดหยุดคอร์รัปชัน” กันง่ายๆโดยเริ่มจากการเปลี่ยนมุมมองของตัวเองนะคะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี