จากการพบความพิรุธในการลงทะเบียนใช้สิทธิ์โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” นำไปสู่การตรวจสอบพบโรงแรม ร้านค้าส่อทุจริตจำนวนกว่า 500 แห่ง จึงเกิดการชะลอการเปิดลงทะเบียนรับสิทธิ์จากโครงการ ในเฟสที่ 2 ทำให้ในช่วงปีใหม่นี้นอกจากโควิดที่อาจจะกลับมาแพร่ระบาดสร้างความเดือดร้อนให้กับทุกคนอีกครั้งแล้ว ธุรกิจท่องเที่ยวก็อาจจะไม่สามารถฟื้นตัวได้ดีเท่าที่ควรเนื่องจากการทุจริต
โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เกิดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลต้องการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยกระตุ้นการใช้จ่ายในภาคประชาชนผ่านการท่องเที่ยวภายในประเทศ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง สนับสนุนการสร้างงานและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในองค์รวม ทั้งนี้รัฐบาลได้สนับสนุนโครงการแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่
ส่วนที่หนึ่ง สนับสนุนส่วนลดค่าโรงแรมที่พัก โดยการสนับสนุนค่าโรงแรม 40% ของราคาที่พักต่อห้องต่อคืน ทั้งนี้ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อห้องต่อคืน
ส่วนที่สอง สนับสนุนส่วนลดค่าอาหารและค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว รัฐบาลจะสนับสนุนคูปองอาหาร/ท่องเที่ยวมูลค่า 900 บาท ต่อห้องต่อคืน ให้กับประชาชน เมื่อ check-in โรงแรม ในช่วงวันจันทร์-พฤหัสบดี รับ 900 บาท และ วันศุกร์-อาทิตย์ รับ 600 บาท ซึ่งผู้รับสิทธิ์จะได้รับคูปองอาหาร/ท่องเที่ยว วันละ 1 ครั้ง หลังเวลา 17.00 น. ของวันที่ทำการ check-in โดยคูปองจะหมดอายุเวลา 23.59 น.ของวัน check-out คูปองอาหาร/ท่องเที่ยวสามารถใช้ได้ที่ร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการโดยประชาชนชำระ 60% และรัฐบาลสนับสนุนอีก 40% ผ่านการตัดเงินจากคูปอง เสมือนว่าประชาชนได้รับส่วนลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไป 40%
ส่วนสุดท้ายเป็นการสนับสนุนค่าเดินทางโดยเครื่องบิน ประชาชนที่ใช้สิทธิ์ขอรับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินจะต้องเป็นผู้ที่จองโรงแรมผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกันเท่านั้น โดยมีสิทธิ์ได้รับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 2 สิทธิ์ผู้โดยสาร ต่อ 1 ห้องโรงแรมที่จอง ทั้งนี้เงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินเท่ากับ 40% ของราคาค่าตั๋วเครื่องบิน แต่ไม่เกิน 2,000 บาท ต่อผู้โดยสาร และสิทธิ์เพิ่มเติมรับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินเท่ากับ 40% ของราคาตั๋วเครื่องบิน แต่ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อผู้โดยสาร ที่เดินทางท่องเที่ยวไปยัง ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี สงขลา เชียงใหม่ และเชียงราย โดยประชาชนต้องจ่ายเงินค่าตั๋วเต็มจำนวนไปก่อน ณ ตอนจองตั๋วเครื่องบิน และต้องมีการเดินทางในเที่ยวบินนั้นจริง รวมถึง check-in และ check-out ที่โรงแรมที่จองไว้กับโครงการ จริง โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติมตั๋วเครื่องบินเป็นประเภทไปหรือกลับ หรือทั้งไปและกลับจากจังหวัดที่จองโรงแรม กรณีขึ้นลงคนละจังหวัดก็สามารถทำได้ หากเป็นจังหวัดที่อยู่ในภาคเดียวกัน วันที่เดินทางไปหรือกลับ ต้องไม่ห่างจากวัน check-in หรือ check-out โรงแรมที่จองผ่านโครงการฯไม่เกิน 5 วัน จะเห็นได้ว่ารัฐบาลได้ออกนโยบายที่เป็นการรักษาระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยดึงดูดใจให้ประชาชนให้ไปเที่ยวรู้สึกผ่อนคลาย และเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร สายการบินต่างๆ ที่ต้องประสบปัญหาจากโรคระบาด ถึงแม้ว่านโยบายเหล่านี้จะต้องใช้เม็ดเงินจำนวนมากก็ตาม
แต่เป็นที่น่าเสียดาย เมื่อโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟสที่ 2 มีความจำเป็นที่ต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากมีการพบการโกงที่เกิดขึ้นระหว่างการดำเนินโครงการมีผู้ใช้สิทธิ์ออกมาแฉเรื่องราคาห้องของโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ ปรับสูงขึ้นมากเมื่อจองผ่านโครงการ รวมถึงกลุ่มต่างๆ ในเฟซบุ๊คที่เปิดประกาศรับซื้อขายสิทธิ์และคูปองกันอย่างโจ่งแจ้ง เป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรี ออกมาประกาศตรวจสอบพฤติกรรมและธุรกรรมที่น่าสงสัยทันที จึงพบว่ามีกรณีการกระทำที่เข้าข่ายทุจริตเป็นขบวนการซึ่งเป็นการร่วมมือกันของผู้ได้รับสิทธิ์กับผู้ประกอบการโรงแรม และร้านค้าที่ร่วมในโครงการ ที่สามารถตรวจสอบได้ในขณะนี้มี 6 วิธีโกงด้วยกัน ได้แก่
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสุดท้ายของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟสที่ 1 สิทธิที่เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับกลับหมดลงอย่างรวดเร็วผิดปกติ มิหนำซ้ำยังมีผู้พบเห็นการโกง มีผู้ใช้สิทธิออกมาแฉเรื่องโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการฯ ปรับราคาค่าห้องสูงขึ้นมากเมื่อจองผ่านโครงการฯ รวมถึงกลุ่มต่างๆ ในเฟซบุ๊คที่เปิดประกาศรับซื้อขายสิทธิและคูปองกันอย่างโจ่งแจ้ง ทำให้โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟสที่ 2 ที่รัฐบาลกำลังจะประกาศรับลงทะเบียนต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด นายกรัฐมนตรีประกาศให้ตรวจสอบพฤติกรรมและธุรกรรมที่น่าสงสัยทันที จึงได้พบว่ามีกรณีการกระทำที่เข้าข่ายทุจริตเป็นขบวนการ เป็นการร่วมมือกันของผู้ได้รับสิทธิกับผู้ประกอบการโรงแรมและร้านค้าที่ร่วมในโครงการ โดยกลโกงที่สามารถตรวจสอบได้ในขณะนี้มี 6 วิธีโกงด้วยกัน ได้แก่
1) จองห้องพักราคาถูก ผ่านแอพฯ มีการเช็คอินแต่ไม่ได้เข้าพักจริง เอาประโยชน์จากการใช้คูปองสนับสนุน
2) ร่วมมือกับผู้จองซื้อขายสิทธิ์กัน โดยโรงแรมและร้านค้าเป็นผู้ซื้อสิทธิ์ ผู้จองหรือผู้รับบริการเป็นผู้ขายสิทธิ์ ไม่ได้มีการเดินทางหรือไปรับบริการจริงแต่ส่งเลขท้ายบัตรประชาชนและเบอร์มือถือ เพื่อเช็คอิน check-in และใช้สิทธิ์
3) โรงแรมมีตัวตนจริง ลงทะเบียนถูกต้อง ทั้งที่ยังไม่เปิดให้บริการแต่กลับมีการขายห้องพัก
4) ใช้คูปองเต็มมูลค่าเงินที่สนับสนุนทั้งที่ไม่เกิดการรับบริการจริง รับเงินจากส่วนต่าง
5) โรงแรมปรับขึ้นราคาค่าห้องพักและบริการอื่นๆ มากกว่าปกติเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนที่มากขึ้น มีการเข้าพักจริงแบบเหมากรุ๊ป ส่วนใหญ่เป็นการจองตรงกับโรงแรม
6) โรงแรมเปิดขายห้องพักเกินจำนวนจริงที่มี เช่น โรงแรมมีห้องพัก 100 ห้อง แต่เปิดจอง 300 ห้อง หากเกินก็จะนำสิทธิ์ไปขายต่อให้กับโรงแรมอื่นแล้วกินส่วนต่าง โดยอ้างว่าเป็นการ upgrade
เหตุการณ์โกงของโครงการเราเที่ยวด้วยกันนั้น ผู้เขียนอยากขอเชิญชวนให้ทุกท่านร่วมด้วยช่วยกันเป็นหูเป็นตารักษาผลประโยชน์ให้กับสังคม ช่วยกันป้องกัน เปิดโปงผู้กระทำผิดให้ได้รับโทษ เกิดเป็นกลไกของสังคมที่จะไม่ยอมให้มีคนทุจริตโกงประชาชน โกงรัฐทั้งในสถานการณ์ปกติและในช่วงสถานการณ์ที่เกิดความยากลำบากจากโรคระบาดนี้
ในเร็ววันนี้ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ร่วมกับเครือข่ายได้สร้างเครื่องมือ “จับโกงงบ COVID ด้วย ACT Ai”ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมข้อมูลการใช้เงินในโครงการต่างๆ ของงบที่รัฐบาลกู้มาเพื่อรับมือกับวิกฤติโควิด-19ที่กำลังจะเปิดตัวขึ้นในช่วงสิ้นปีนี้ ท่านสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ covid19.actai.co เพราะการติดตามตรวจสอบเป็นหูเป็นตาให้กับสังคมนั้นไม่จำเป็นต้องรอการแต่งตั้ง แต่เป็นสิ่งที่พวกเราประชาชนต้องช่วยกัน ไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อพวกเราเอง
เพียงกมล สุรางค์ไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี