“สวัสดีฤดูหนาว สวัสดีสายลม และสวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านครับ”
เมื่อถึงเดือนธันวาคม หลายคนน่าจะนึกถึงเทศกาลแห่งการให้ของขวัญ ความสุข และความอบอุ่นหัวใจ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “เทศกาลคริสต์มาส” ช่วงนี้เราจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของความอบอุ่น ความสัมพันธ์ และความสุขเริ่มปรากฏในแทบทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าและพื้นที่สาธารณะที่ตกแต่งเต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับ ต้นคริสต์มาสและดนตรีชวนเคลิ้ม หรือในโรงเรียนที่มีการจัดงานฉลองกินเลี้ยงและกิจกรรมแลกเปลี่ยนของขวัญ สำหรับหลายครอบครัวก็คงจะมีการฉลองคริสต์มาสแบบไทยๆ การทำอาหารเย็นร่วมกัน และเด็กๆ จะแขวนถุงเท้าไว้รอของขวัญจาก “ซานตาคลอส” หรือ “ซานต้า” ที่อาจถูกสวมบทบาทด้วยพ่อแม่หรือคนในครอบครัว
ซานตาคลอส เดือนแห่งความรักและการแบ่งปัน (ผลประโยชน์ร่วมกัน) ?
ซานตาคลอสและเทศกาลคริสต์มาส ถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ความปรารถนาดี ความเมตตา และการให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ดังเช่นเรื่องเล่าที่ซานต้าจะเดินทางมอบของขวัญให้เด็กๆ ทั่วโลกเพื่อสร้างรอยยิ้มและความสุข อย่างไรก็ตาม การให้ของขวัญในชีวิตจริงอาจมีมิติที่ซับซ้อนและแตกต่างออกไป โดยเฉพาะในบริบทแวดวงธุรกิจและราชการหรือหน่วยงานของสังคมไทย บางครั้งการให้อาจแฝงไปด้วยการแบ่งปันผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม จนนำไปสู่การทับซ้อนผลประโยชน์และความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (Conflict of Interest) และกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่นำไปสู่การคอร์รัปชันในที่สุด
จากของขวัญสู่ “สินบน” ใต้เงาของวัฒนธรรมการให้
“การให้” ในบริบทของสังคมไทยถือเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมและประเพณีที่สะท้อนถึงการแสดงความเคารพ ความปรารถนาดี และการสร้างความสัมพันธ์อันดีหรือในบางโอกาสถือเป็นการแสดงออกของมารยาททางสังคม แต่เมื่อการให้กลับถูกนำมาเป็นข้ออ้างในแวดวงราชการและธุรกิจ และมักจะถูกแอบแฝงด้วยผลประโยชน์ส่วนตัวและการจูงใจ เพื่อให้ผู้รับทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่อาจไม่ถูกต้องเป็นการตอบแทน เช่น การให้ของขวัญที่มีมูลค่าสูงเกินไปแก่เจ้าหน้าที่รัฐหรือผู้มีอำนาจ เพื่อแลกกับให้สิทธิประโยชน์หรือการตัดสินใจที่เป็นประโยชน์ส่วนบุคคล และอาจส่งผล
กระทบต่อประโยชน์ส่วนรวมอีกด้วย
การให้ที่แอบแฝงด้วยผลประโยชน์มักโผล่มาในรูปแบบสิทธิพิเศษต่างๆ ที่ยากต่อกระบวนการตรวจสอบ เช่น ค่าที่พัก ค่าเดินทางไปสัมมนาวิชาการยังต่างประเทศซึ่งมีโปรแกรมการท่องเที่ยวแฝงอยู่ (ดูงานแฝงเที่ยว) หรือแม้แต่การให้ในรูปแบบเงินสด บัตรกำนัล สินค้าและบริการ
ซึ่งลักษณะการให้เหล่านี้เข้าข่าย “ค่ารับรองและของขวัญ” และถือเป็นการทุจริตประเภท “สินบน” ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 มาตรา 128 วรรคแรก และหากกระทำการให้-รับสินบน มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ต้องระวางโทษจำคุก 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 100,000-400,000 บาทหรือประหารชีวิต
“อย่างไรก็ตาม การให้ที่แอบแฝงผลประโยชน์ แม้จะนำไปสู่การคอร์รัปชันเล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้าไม่กระทบถึงตัวเราก็ยอมได้”
ผู้อ่านคิดเห็นอย่างไรกับคำกล่าวนี้บ้างครับ…หากยังไม่มีคำตอบ ลองพิจารณาสถานการณ์เหล่านี้ที่เกิดขึ้นจริงในประเทศที่ถูกขนานนามว่า สยามเมืองยิ้ม แล้วลองตอบในใจอีกครั้งก็ได้ครับว่าเห็นด้วยหรือไม่
ยิ้มที่ 1 การขออนุญาตก่อสร้างที่ดูยุ่งยากซับซ้อน กลับสามารถจบได้อย่างง่ายดายเพียงส่ง “ซองขาวพร้อมแบงก์เทา” ให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อเร่งรัดให้ได้สิทธิที่ควรได้รับตามกฎหมายอยู่แล้ว
ยิ้มที่ 2 บริษัททางการแพทย์สนับสนุนสัมมนาและท่องเที่ยวให้ผู้บริหาร/บุคลากรโรงพยาบาล แลกกับการสั่งซื้อยาและอุปกรณ์ราคาแพงแต่คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลให้คนไข้ต้องจ่ายแพงเกินความจำเป็นและไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม
ยิ้มที่ 3 บริษัทก่อสร้างมอบกระเช้าพิเศษบรรจุแบงก์เทานับไม่ถ้วนให้เจ้าหน้าที่ เพื่อแลกกับการละเว้นมาตรฐานการตรวจสอบ ส่งผลให้ถนนหรืออาคารพังไวกว่าปกติจากการใช้วัสดุไม่ได้มาตรฐาน จนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
แล้วจะทำอย่างไรให้การให้นั้นโปร่งใสไร้คอร์รัปชัน?
ในมุมมองของผู้เขียน การลดโอกาส “การให้”ที่อาจนำไปสู่การติดสินบนสามารถทำได้โดยการที่ภาครัฐกำหนดกฎหมายและมาตรการที่เข้มงวด ควบคู่ไปกับการสนับสนุนช่องทางที่ปลอดภัยสำหรับการแจ้งเบาะแส รวมถึงการออกกฎหมายที่คุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน นอกจากนี้ ผู้เขียนเห็นว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเสริมสร้างวัฒนธรรมความโปร่งใสในทุกระดับของสังคม ผ่านการปลูกฝังค่านิยมและวัฒนธรรมการให้ที่ไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทน แทนที่จะมองการให้เป็นการแลกเปลี่ยนเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
อีกทั้ง สังคมควรร่วมกันสร้างความตระหนักถึงอันตรายของการให้ที่แฝงด้วยผลประโยชน์ ซึ่งเป็นบ่อนทำลายวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของสังคมไทย ทั้งนี้เพื่อให้การเสริมสร้างระบบนิเวศการต่อต้านการคอร์รัปชันมีประสิทธิภาพสูงสุดจำเป็นต้องเกิดการบูรณาการและสร้างความร่วมมือกันในทุกภาคส่วน เพื่อปลูกฝังให้ประชาชนเคารพและเชื่อมั่นในกฎหมาย รวมถึงมีพฤติกรรมที่ไม่ทำและไม่ทนต่อการคอร์รัปชันทุกรูปแบบ
และท้ายสุดนี้ ในค่ำคืนวันคริสต์มาสอีฟที่กำลังจะมาถึง ผู้เขียนตั้งใจจะแขวนถุงเท้าไว้ พร้อมขอของขวัญจากซานต้าเป็น สยามเมืองยิ้มที่ไร้คอร์รัปชัน...ในสักวัน “Wishing you a Merry Christmas and a Happy New Year สวัสดีครับ”
อ้างอิง
การรับหรือให้ของขวัญ/ที่ระลึก โดยธรรมจรรยาตามหลักเกณฑ์ของ ป.ป.ช.
https://www.oic.go.th/FILEWEB/CABINFO
CENTER1/DRAWER057/GENERAL/DATA0000/00000837.PDF
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑https://www.nacc.go.th/files/article/attachments/main_old_article_20190614144916.pdf
อย่างไรบ้างที่เข้าข่ายการรับสินบน โดย สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.)
ลักษณะการกระทำที่เข้าข่ายการรับ-ให้สินบนโดย เพจต้องแฉ
https://www.facebook.com/share/p/1AamPRjiuU/
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี