นางกิตติวรรณ รัตนจันทร์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์ ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า จากแนวโน้มตลาดหัตถการความงาม (ธุรกิจความงามที่ไม่ต้องผ่าตัด) ของไทยยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นไปแตะ 5,200 ล้านบาท และยังเติบโตต่อเนื่อง 9-10% อีกทั้งในปี 2562 ยังพบว่า 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ผลักดันการเติบโตของตลาด ได้แก่ เครื่องยกกระชับ เติบโต 10%,เดอร์มัล ฟิลเลอร์(การฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์)เติบโต 9% และโบทูไลนุม ท็อกซินโต (การฉีดโบท็อกซ์ลดเลือนริ้วรอย) เติบโต 7%

ทั้งนี้สอดคล้องกับจำนวนผู้บริโภคที่ขยายตัว และจำนวนคลินิกความงามที่เปิดตัวอีกกว่า 1,500 แห่งทั่วประเทศไทย เนื่องจากผู้บริโภคคนไทยมีความรู้สึกว่าความสวยทำให้เกิดความรู้สึกภูมิใจ มั่นใจ และนับถือในตัวเอง ดังนั้นสาวไทยในปัจจุบันจึงให้ความสำคัญต่อความสวยในแบบของตัวเองมากขึ้น นำมาซึ่งเทรนด์ The Best version of me คือ ดูเป็นธรรมชาติ ดูอ่อนกว่าวัย ด้วยผิวดูสุขภาพดี โดย 3 ปัญหาหลักที่พบในกลุ่มเป้าหมาย คือ 1.ริ้วรอย ตีนกา หน้าผาก 2.ใต้ตาลึกโบ๋ และ 3.ใบหน้าหย่อนคล้อยมีร่องแก้ม ไร้กรอบหน้า

นางกิตติวรรณกล่าวว่า เมิร์ซ เอสเธติกส์ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้านนวัตกรรมความงามจากเยอรมนี จึงมุ่งขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรมความงามระดับโลก ด้วยเงินลงทุนมากกว่า 3,800 ล้านบาท ในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และนำเสนอ 6 ผลิตภัณฑ์ทั้งเครื่องมือแพทย์และเวชภัณฑ์ยา ซึ่งในไทยจะเน้นเจาะตลาดพรีเมียม ด้วยการนำเสนอ 3 ผลิตภัณฑ์ ในกลุ่มตลาดที่กำลังเติบโตสูง โดยตั้งเป้าส่วนแบ่งทางการตลาดในไทย 20% ภายในสิ้นปี 2563 และก้าวสู่การเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มียอดขายแตะ 1,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี นับจากนี้หรือเติบโตเฉลี่ย 20-25% ต่อเนื่อง จากปัจจุบันมียอดขายกว่า 500 ล้านบาท