เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2563 ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ได้เปิดเผยในรายงานเศรษฐกิจโดยระบุว่า การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19นั้น อาจส่งผลให้เศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก รวมถึงประเทศจีน มีการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบกว่า 50 ปี
ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในทั่วโลก ทำให้หลายประเทศต่างมีความพยายามในการควบคุมการแพร่ระบาด ที่นำไปสู่การลดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ ผลลัพธ์ของแต่ละประเทศขึ้นจะอยู่กับการควบคุมการแพร่ระบาดของประเทศนั้นๆ ว่าสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด และประเทศได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด
พร้อมกันนนี้ ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2563 ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ จีดีพี หดตัว -8.3% อัตราเงินเฟ้อ -0.9% แต่หากเป็นกรณีที่แย่สุดคาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัว -10.4% จากนั้นในปี 2564 เศรษฐกิจไทยน่าจะกลับมาขยายตัวได้ถึง 4.9% อัตราเงินเฟ้อ 1%แต่หากเป็นกรณีที่แย่สุดคาดว่าเศรษฐกิจไทยก็จะยังขยายตัวได้ 3.5%
ด้าน นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญานักเศรษฐศาสตร์อาวุโส กล่าวว่า กรณีแย่สุดจีดีพีไทยจะติดลบถึง 10.4% คือ เกิดการระบาดรอบ 2 และนำไปสู่การล็อกดาวน์อีกครั้ง ซึ่งไทยยังมีภาวะช็อกจากปัญหาภัยแล้งในช่วงต้นปีที่ส่งผลต่อรายได้ภาคเกษตรและภัยแล้งยังเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยต่อเนื่อง รวมถึงความเสี่ยงจากน้ำท่วม รวมทั้งเสถียรภาพทางการเมืองโดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจและการชุมนุมที่ยังเป็นความเสี่ยงสำคัญที่จะส่งผลไปถึงการดำเนินนโยบายและทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้าลง
อย่างไรก็ตาม จากคาดการณ์จีดีพีไทยปีนี้ -8.3% เศรษฐกิจไทยจะใช้เวลา 2 ปี ในการฟื้นตัว แต่หากปีนี้ -10.4% ก็อาจจะใช้เวลานานขึ้นถึง 3 ปี เศรษฐกิจจึงจะกลับไปสู่ระดับเดียวกับก่อนเกิดโควิด-19
นางเบอร์กิท ฮานสล์ ผู้จัดการธนาคารโลกประจำประเทศไทย กล่าวถึงมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด มาตรการด้านสาธารณสุข และมาตรการเยียวยากลุ่มผู้ได้รับผลกระทบทั้งในและนอกระบบของรัฐบาลนั้นสามารถทำได้ดี และมองว่าไทยจะผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้เหมือนวิกฤติที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ขณะที่ตัวเลขประมาณการจีดีพีไทยมีความเป็นไปได้ที่จะติดลบทั้ง -8.3% และ -10.4%
ขณะที่การคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์มองว่าส่งผลต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่สามารถเดินทางมาได้ จึงมองว่ารัฐบาลต้องพยายามหาสมดุลระหว่างนโยบายด้านสาธารณสุขและด้านเศรษฐกิจ ซึ่งการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาก็ถือเป็นความเสี่ยงต่อประเทศไทยได้ ขณะที่ระยะยาวต้องถามว่าจะอยู่กับมาตรการนี้ที่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางและเศรษฐกิจได้อีกนานแค่ไหน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี