วัลลภ กมลวิศิษฎ์
รองกรรมการผู้จัดการ
บริษัท พรหมมหาราชพัฒนาที่ดิน
คอนเซ็ปต์การบริหาร..เดอะพาลาเดียม...ช็อปปิ้ง เวิลด์
ทั้งผู้บริโภคและร้านค้าพันธมิตร...จะต้องได้ประโยชน์ร่วมกัน..
ก่อนหน้านี้หากนึกถึงศูนย์กลางด้านการค้าอุปกรณ์และสินค้าเกี่ยวกับไอทีแน่นอนชื่อแรกที่ทุกคนนึกถึงคือ “พันธุ์ทิพย์พลาซ่า” ประตูน้ำ...แต่หลังจากนี้อะไรๆ กำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อเจ้าของพันธุ์ทิพย์พลาซ่ากำลังมีแผนที่จะรีโนเวทพันธุ์ทิพย์พลาซ่า...ให้เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ และเหลือไว้เฉพาะช็อปสินค้าไอที แบรนด์ดังๆ เท่านั้น...ศูนย์การค้าเดอะพาลาเดียม...ช็อปปิ้ง เวิลด์ จึงเสนอตัวที่จะเป็น...ศูนย์จำหน่ายสินค้าไอทีครบวงจรแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ...
เดอะพาลาเดียม ช็อปปิ้ง เวิลด์ คือหนึ่งในกิจการของ...บริษัท พรหมมหาราชพัฒนาที่ดิน จำกัด(มหาชน) และคนที่เป็นแกนนำในการพัฒนาให้ เดอะพาลาเดียมฯ ขึ้นแท่นศูนย์กลางแหล่งการค้าสินค้าไอทีแบบครบวงจรคือ วัลลภ กมลวิศิษฎ์ นักบริหารหนุ่ม ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี และปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยเอดินบะระสหราชอาณาจักร...ผ่านประสบการณ์ทำงานด้านการขายและการตลาดกับ Big John Thailand และด้านการเงิน กับธนาคารกรุงเทพ และ BJ Jeans Thailand…ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการบริษัท พรหมมหาราชพัฒนาที่ดิน จำกัดและบริษัทในเครือ ซึ่งประกอบด้วย บริษัท เกรทไชน่ามิลเลนเนียม (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท บวรพงศ์ จำกัด และบริษัท ถาวรสินพัฒนา จำกัด…
คุณวัลลภ บอกกับ “มุมมองนักบริหาร” ว่า หลังจากบริษัทได้เข้าซื้อกิจการศูนย์การค้าแห่งนี้เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็นเดอะพาลาเดียม เวิลด์ ช็อปปิ้ง เพื่อพัฒนาให้เป็นศูนย์การค้าแฟชั่นทั้งค้าปลีกและค้าส่ง และล่าสุดได้พัฒนาพื้นที่กว่า 25,000 ตารางเมตร บนชั้น 4-6 เพื่อปรับปรุงเป็นโซนพาลาเดียม ไอที แหล่งรวมสินค้าและบริการไอทีที่ครบวงจร เพราะเชื่อว่าประเทศไทยควรเป็นศูนย์กลางด้านไอทีในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากมีศักยภาพและความเหมาะสม และหลังจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เชื่อว่าตลาดไอทีในประเทศไทยจะเติบโตยิ่งขึ้นจากจำนวนลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย
คุณวัลลภ บอกอีกว่า...จุดเด่นของ...เดอะพาลาเดียม เวิลด์ ช็อปปิ้ง…คือมีผู้บริโภคเข้ามาเดินในศูนย์การค้าสูง เฉลี่ย 5-6 แสนคน/วัน เนื่องจากความหลากหลายของสินค้าที่มีโดยชั้นหนึ่งเป็นร้านค้าปลีกค้าส่งอัญมณีและจิวเวลรี่ ชั้น 2-3 แหล่งค้าปลีกและค้าส่ง เสื้อผ้าแฟชั่น มีทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์ดังระดับโลก...นอกจากนั้นจุดที่ตั้งของห้างยังเป็นอีกจุดหนึ่งของข้อได้เปรียบ...เพราะตั้งอยู่ที่สี่แยกประตูน้ำ บริเวณหัวมุมระหว่างถนนเพชรบุรีตัดใหม่กับถนนราชปรารภ สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ รถประจำทาง เรือโดยสารท่าเรือประตูน้ำ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์สถานีราชปรารภ หรือรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีชิดลม
สำหรับคอนเซ็ปต์ของ เดอะพาลาเดียม...คือเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าไอทีที่ไม่ได้จำกัดอยู่แต่เฉพาะคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ที่เป็นไลฟ์สไตล์ไอที อุปกรณ์เกี่ยวกับเกม และอุปกรณ์ แก็ดเจ็ต เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค...ขณะนี้แบรนด์สินค้าไอทีที่เปิดให้บริการอยู่ภายในโซนพาลาเดียม ไอที เป็นการรวมเอาแบรนด์ชั้นนำกว่า 50 แบรนด์นอกจากนี้ ร้านไอทีต่างๆ ก็ไม่ได้มีแค่บริการขายสินค้า แต่ยังมีโชว์รูมและศูนย์บริการอีกด้วย อาทิ Fuji Xerox,Ascenti, STREK รวมถึงเมกาสโตร์อย่าง J.I.B., แอดไวซ์, ARC, เทนด้า, สแกนเนอร์....ฯลฯ ปัจจุบันมีจำนวนร้านค้าไอทีรวม 250 ร้าน ภายในชั้น 4-6 ซึ่งจัดให้เป็นโซนพาลาเดียม ไอที
คุณวัลลภ...บอกว่าแนวคิดหลักในการบริหารศูนย์การค้าฯของบริษัทคือ เราจะเติบโตไปพร้อมกัน...ทั้งผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้ามาเช่าพื้นที่ และผู้บริโภคจะต้องได้ประโยชน์สูงสุด...ซึ่งในส่วนของผู้บริโภคนั้นแน่นอนว่าจะต้องได้รับบริการและมีโอกาสเลือกสินค้าที่หลากหลาย ในราคาที่เป็นธรรม...ขณะที่ผู้ค้าในช่วงแรกจะมีการคิดค่าเช่าพื้นที่ราคาพิเศษและบริษัทจะทำให้พันธมิตรการค้าและผู้เช่าสามารถจำหน่ายสินค้าได้มากที่สุด โดยบริษัทสนับสนุน ด้วยการจัดโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อดึงดูดผู้บริโภคให้เข้ามาเดินเลือกซื้อสินค้าภายในห้าง...และในปีนี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะใช้งบประมาณราว 20 ล้านบาท เพื่อประชาสัมพันธ์โซนพาลาเดียม ไอที ซึ่งจะใช้การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อแขนงต่างๆ ทุกช่องทาง ทั้งจะจัดให้มีกิจกรรมทั้งด้านไอทีและไม่ใช่ไอที สำหรับดึงดูดความสนใจจากผู้เข้าใช้บริการภายในศูนย์ฯ
นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าของห้าง นอกจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่นิยมเดินทางมาพักผ่อนและช็อปปิ้งในย่านนี้แล้ว ยังมีกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่เข้ามาซื้อสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่น อัญมณี รวมไปถึงพนักงานของบริษัทต่างๆ กว่า 200 แห่ง ที่ตั้งอยู่ในอาคาร เดอะ พาลาเดียม ออฟฟิศ ซึ่งมีพนักงานอยู่กว่า 2 พันคน และเป็นอีกกลุ่มที่มีกำลังซื้อรวมทั้งลูกค้านักธุรกิจและนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ (MICE) ทั้งที่มาเพื่อเข้าร่วมงานประชุมธุรกิจ งานอบรมสัมมนา งานนิทรรศการ งานแสดงสินค้าที่พาลาเดียมฮอลล์
ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการภายในศูนย์การค้าเดอะพาลาเดียม 50,000 คนต่อวัน แต่เมื่อเปิดบริการพื้นที่โซนไอทีแล้ว คาดว่าจะเพิ่มจำนวนเป็น 100,000 คนต่อวัน แบ่งเป็นคนไทย 50% และต่างชาติ 50% เนื่องจากย่านประตูน้ำมีชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยว และจับจ่ายกันเป็นจำนวนมาก คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ บริษัทจะมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าทั้งศูนย์ฯ ไม่ต่ำกว่า 300-400 ล้านบาท แต่เมื่อมีการเปิดพื้นที่ พาลาเดียม ไอที เพิ่มเติม เชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทเติบโตไดัอีก 1 เท่าตัวหรือคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท และภายในอีก 2-3 ปี จะสามารถทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี
“เชื่อว่าคนไทยนิยมของใหม่ ดังนั้นการเป็นศูนย์การค้าไอทีแนวใหม่ และครบวงจรของพาลาเดียม จะสามารถดึงดูดความสนใจและตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างตรงใจ ขณะเดียวกัน ก็เชื่อว่าจะสามารถรองรับความต้องการด้านไอทีของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ดี เพราะทำเลที่ตั้งมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีมูลค่าการซื้อขายหลายร้อยล้านบาทต่อวัน เราจึงต้องการให้ทุกคนนึกถึง เดอะพาลาเดียม เมื่อนึกถึงห้างไอทีในประเทศไทย”
อนันตเดช พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี