บริการส่งอาหารถึงบ้านไม่ใช่ของใหม่ในสังคมไทย เราคุ้นเคยกับการสั่งไก่ทอด พิซซ่า ไอศครีม ฯลฯ และอาหารอร่อยมากมายจากร้านแฟรนไชส์ชื่อดัง แต่ถ้าเราพูดถึง Food Delivery App ถึงตอนนี้ก็น่าจะยังพอพูดได้ว่าเป็นของใหม่ เพราะผู้ให้บริการเจ้าแรกที่เข้ามาบุกเบิกบริการด้านนี้ในไทยก็ยังมีอายุไม่ถึงทศวรรษดี

คงมีน้อยคนนักที่ไม่เคยสั่งอาหารเดลิเวอรี่ โดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในกทม. และตามหัวเมืองใหญ่ๆ ที่มีร้านอาหารอร่อยคับคั่ง การสั่งอาหารออนไลน์เป็นอะไรที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองที่เร่งรีบ ไม่มีเวลาต่อคิว ไม่อยากเสียเวลากับการจราจรที่ติดขัด ทำให้ตลาดบริการส่งอาหารถึงบ้านมีแนวโน้มโตขึ้นทุกวันๆ

สงคราม Food Delivery ในไทยตอนนี้เป็นอะไรที่น่าสนใจ เราเห็นผู้เล่นรายใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ไปจนถึงการกระหน่ำแจกส่วนลด โปรโมชั่นเพื่อเพิ่มจำนวน User และแย่งชิงลูกค้า ในบทความนี้เราจะนำเสนอความเป็นมา และข้อดีข้อด้อยของแต่ละแอพที่รวบรวมจากผู้ใช้งานจริง ซึ่งถ้าคุณใช้บริการแอพฯ ฟู้ดเดลิเวอรี่บ่อยๆ เรามีส่วนลดที่คุณไม่ควรพลาด และวิธีเซฟเงินจากการใช้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่ที่เหมาะกับขาประจำ Food Delivery อย่างมาก

Foodpanda VS LINE MAN VS GrabFood VS NOW Delivery

ในบทความนี้เราจะขอพูดถึงเฉพาะ 4 แบรนด์นี้เท่านั้น และไม่กล่าวถึง Groceries Delivery

เชื่อว่าทุกวันนี้ทุกคนน่าจะเคยได้ยินหรือเคยใช้บริการจากผู้ให้บริการส่งอาหารถึงบ้านทั้ง 4 แบรนด์นี้อยู่บ่อยครั้ง บางแอพพลิเคชั่นที่กล่าวมานี้แทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของหลายๆ คนไปแล้ว ก่อนจะพูดถึงจุดเด่น จุดด้อย มารู้จักเบื้องลึกเบื้องหลังแอพเหล่านี้กันก่อนดีกว่า

https://www.shopback.co.th/foodpanda

เริ่มจากผู้ให้บริการเจ้าแรกอย่าง Foodpanda ที่เข้ามาเริ่มทำธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2012 (พ.ศ. 2555) โดยบริษัท Rocket Internet (ผู้ก่อตั้ง Lazada และ Ensogo) ซึ่งมี Headquater อยู่ที่ประเทศเยอรมัน

ต่อมาในปี 2016 ร็อคเก็ตอินเตอร์เน็ตได้ขาย Foodpanda ซึ่งเป็นธุรกิจส่งอาหารเดลิเวอรี่ครบวงจรของตนเองให้กับ Delivery Hero ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่ง โดยในขณะเดียวกัน ร็อคเก็ตอินเตอร์เน็ตก็เข้าถือหุ้นกว่า 30% ของ Delivery Hero เอาไว้ ซึ่งการซื้อขายนี้เป็นผลให้ Foodpanda Thailand ต้องรีแบรนด์ครั้งใหญ่ โดยมีการเปลี่ยนสีประจำแบรนด์อย่างสีส้มไปเป็นสีชมพู ซึ่งเป็นสีของ Delivery Hero รวมทั้งมีการปรับเปลี่ยนโลโก้ ยูนิฟอร์มของพนักงาน ไปจนถึง UI (User Interface) ของเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นอีกด้วย

ปัจจุบัน ฟู้ดแพนด้า ประเทศไทย มีร้านอาหารพันธมิตรมากกว่า 1,000 แห่ง ทั้งในกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ พัทยา และเขตเมืองอื่นๆ ในประเทศ โดย User สามารถสั่งอาหารและใช้ ส่วนลด Foodpanda ได้ผ่านทางเว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่นของ Foodpanda ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดทั้งจาก App Store และ Play Store

https://www.shopback.co.th/lineman

และแน่นอน อีกชื่อหนึ่งที่ติดหูและเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีคือ LINE MAN ไลน์แมนคือผู้ให้บริการ Food Delivery ชื่อดังที่เติบโตขึ้นมาจากการจับมือกันของ 3 พันธมิตร ได้แก่ LINE ที่มีฐาน User มากกว่า 50 ล้านคนในมือ Wongnai ที่มีฐานข้อมูลร้านอาหารมากกว่า 200,000 ร้าน และ Lalamove ผู้ให้บริการขนส่งทางมอเตอร์ไซค์ที่สามารถเอาชนะการจราจรในเมืองใหญ่ได้ (สำหรับในส่วนของการส่งพัสดุก็จะมี Alpha Fast เข้ามาร่วมมือด้วย)

LINE MAN เปิดตัวแอพพลิเคชั่นอย่างเป็นทางการในปี 2017 และประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้อย่างรวดเร็ว ในปี 2019 LINE MAN มีการแถลงตัวเลขการเติบโตที่สูงถึง 500% บนแอพพลิเคชั่น LINE MAN ไม่ได้มีแต่บริการส่งอาหารถึงบ้านเท่านั้น แต่มีทั้งบริการเรียกแท็กซี่ ส่งพัสดุ รวมไปถึงบริการแมสเซนเจอร์ซึ่งกำลังเติบโตเป็นอย่างดีเช่นกัน ซึ่งเราก็มักจะได้เห็น ส่วนลด LINEMAN ซึ่งเป็นโค้ดส่วนลดค่าส่งอาหาร ค่าส่งของ ฯลฯ จากไลน์แมนเพื่อดึงดูดผู้ใช้งานอยู่บ่อยๆ แอพพลิเคชั่น LINE MAN มีให้ดาวน์โหลดทั้งจาก App Store และ Play Store เช่นกัน

https://www.shopback.co.th/grab

สำหรับผู้เล่นรายที่ 3 ก็คือ Grab Food ซึ่งมีข้อได้เปรียบตรงที่มีฐานผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์/ Messenger อยู่แล้ว (จะสังเกตได้ว่าแอพพลิเคชั่นในตลาด Ride Sharing มักจะมาจับ Food Delivery กันหมด Uber หรือ Gojek ก็เช่นกัน) Grab Food เป็นอีกบริการจากแอพพลิเคชั่น Grab ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเรียกรถโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในปัจจุบัน โดยฐานผู้ใช้บริการ Grab Food ก็จะมาจากผู้ที่เคยใช้บริการเรียกรถของ Grab มาก่อน

Grab Food เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2017 โดยหลังจากมีการควบรวมกิจการของ Grab กับ Uber ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ในต้นปี 2018 Grab มีฐานร้านอาหารในกรุงเทพมหานครกว่า 4,000 ร้าน โดยมี ส่วนลด Grab และโปรโมชั่น Grab ออกมามากมายเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค หนึ่งในโปรโมชั่นที่ Grab Food มอบให้ user ก็คือการส่งอาหารฟรี ซึ่งเป็นโปรโมชั่นที่จัดมาอย่างยาวนานสำหรับช่วงเปิดตัวใหม่ๆ เราสามารถใช้บริการ Grab Food ผ่านแอพพลิเคชั่น Grab ได้เลย (มีให้ดาวน์โหลดทั้งจาก App Store และ Play Store)

https://www.shopback.co.th/shopfest

NOW - Food Delivery น้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2018 โดยมีจุดเด่นที่จำนวนร้านค้าและความหลากหลายของร้าน ที่มีทั้งร้าน Standalone ร้านในห้างสรรพสินค้า ไปจนถึง Streetfood นอกจากนี้ยังสามารถชำระเงินได้หลายรูปแบบ และยังมีโปรโมชั่นส่งฟรีออกมาเรื่อยๆ และมีส่วนลดออกมาบ่อยๆ เพื่อดึงดูดลูกค้า โดยแอพพลิเคชั่น Now Delivery มีให้ดาวน์โหลดทั้งจาก App Store และ Play Store

จุดแข็ง - จุดอ่อนของแต่ละแอพพลิเคชั่น

จากการสัมภาษณ์ผู้ใช้งานจริงแต่ละคน เราได้บทสรุปออกมาหลายด้าน ดังนี้

การใช้งาน

Foodpanda

จุดเด่น: มีหมวดหมู่อาหารให้เลือกชัดเจน สามารถเลือกประเภทอาหาร ระดับราคา และเลือกดูเฉพาะร้านที่จัดโปรโมชั่นได้ (ต้อง filter เอง) สามารถสั่งอาหารได้ทั้งเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น โดยมีระบบ GPS ให้เราสามารถติดตามได้ว่าคนขับอยู่ที่จุดไหน และสามารถสั่งหลายออเดอร์พร้อมกันได้

จุดด้อย: ขั้นตอนการสั่งซื้อมักจะมีปัญหา เช่น แสดง Status โชว์ว่าส่งแล้ว แต่คนขับยังมาไม่ถึง ไปจนถึงคนขับมาจำนวนไม่เพียงพอ ทำให้ค้างอยู่ขั้นตอนที่ 1 (ร้านอาหารได้รับออเดอร์แล้ว) นานมาก เนื่องจากไม่มี Rider เข้าไปรับ และปิดให้บริการบ่อยมากในช่วงมื้ออาหาร (โดยไม่มีเวลาบอกว่าจะปิดนานแค่ไหน)

LINE MAN

จุดเด่น: มีหมวดหมู่อาหารให้เลือกชัดเจน (ไม่ต้อง filter เอง) มีการแนะนำร้านที่น่าสนใจจาก Wongnai และสามารถเลือกได้ว่าจะสั่งอาหารจากร้านยอดนิยมหรือร้านที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง มีระบบการสั่งซื้อและ assigned งานให้คนขับอย่างชัดเจน และมีระบบ GPS ให้เราสามารถติดตามได้ว่าคนขับอยู่ที่จุดไหน ระบบ Review ร้านค้าก็ใช้งานง่ายเพราะเป็นพันธมิตรกับ Wongnai มี Street Food ให้เลือกหลากหลาย ฐานร้านค้าใหญ่มาก

จุดด้อย: เนื่องจากมี Street Food เยอะ ปัญหาจากร้านค้าก็เยอะตาม เช่น คนขับไปถึงแล้วร้านปิด วัตถุดิบหมด ฯลฯ บางร้านค้าก็ไม่ได้มีเมนู + ราคาให้เลือก User ต้องมา Add แบบ Manual เอง โดยดูเมนูที่ร้านอาหารมีและราคาของแต่ละเมนูจากภาพถ่าย ซึ่งดูยากมากกก แถมราคาอาจจะไม่อัพเดทอีกด้วย (สำหรับบางร้าน คุณจะไม่รู้ราคาของที่สั่งเลยจนกว่าคนขับจะให้ Confirm)

Grab Food

จุดเด่น: สะดวกมากสำหรับคนที่มีแอพ Grab อยู่แล้ว ใช้งานง่าย โชว์เฉพาะร้านค้าที่อยู่ในบริเวณที่ให้บริการเท่านั้น ขั้นตอนการสั่งซื้อง่ายมาก และมีการส่ง Noti มาแจ้ง Status ของออเดอร์เป็นระยะๆ ทำให้ติดตามออเดอร์ได้ง่าย

จุดด้อย: สั่งได้ทีละออเดอร์ ไม่มีระบบ filter หรือจัดหมวดหมู่ใดๆ (คุณต้อง search เอง)
 

NOW Delivery

จุดเด่น: มีการจัดหมวดหมู่อาหารอย่างชัดเจนและไม่งง (ไม่ต้อง filter เอง) โดยสามารถเลือกได้ทั้งร้านยอดนิยม ร้านที่อยู่ใกล้ ร้านที่เพิ่งสั่ง และร้านที่ Verify กับ NOW แล้ว User สามารถสั่งอาหารได้ทั้งเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น มีระบบการสั่งซื้อและ assigned งานให้คนขับอย่างชัดเจน และมีระบบ GPS ให้เราสามารถติดตามได้ว่าคนขับอยู่ที่จุดไหน

จุดด้อย: หากจะรีวิวร้านค้า เราต้องโหลดแอพแยกซึ่งยุ่งยากพอสมควร และปิดให้บริการบ่อยมากในช่วงมื้ออาหาร (มีเวลาบอกว่าจะปิดนานแค่ไหน)

ค่าใช้จ่ายในการส่ง

Foodpanda

จุดเด่น: ค่าส่ง 40 บาททุกออเดอร์ ถือว่าประหยัดมาก

จุดด้อย: จำกัดพื้นที่ให้บริการ

LINE MAN

จุดเด่น: ไม่จำกัดพื้นที่ให้บริการ กี่กิโลเมตรก็ส่ง (เฉพาะในกทม.)

จุดด้อย: ค่าส่งเริ่มต้นที่กิโลเมตรละ 55 บาท แพงกว่านั่งวินไปซื้อเอง และสำหรับร้านที่อยู่ไกลมากกว่า 1-2 กิโลเมตร ค่าส่งจะอลังการมาก แพงที่สุดในบรรดาผู้ให้บริการทุกราย และมักจะแพงกว่าอาหารที่สั่ง (เป็นผลมาจากการที่ไม่ได้จำกัดพื้นที่ให้บริการ)

Grab Food

จุดเด่น: เริ่มต้นที่กิโลเมตรละ 10 บาทซึ่งถือว่าถูกมากสำหรับการสั่งระยะใกล้ แถมมีโปรโมชั่นส่งฟรียาวๆ

จุดด้อย: จำกัดพื้นที่ให้บริการ

NOW Delivery

จุดเด่น: เริ่มต้นที่กิโลเมตรละ 10 บาทซึ่งถือว่าถูกมากสำหรับการสั่งระยะใกล้ แถมมีส่วนลดค่าส่งเรื่อยๆ

จุดด้อย: จำกัดพื้นที่ให้บริการในรัศมี 10 กิโลเมตร (ซึ่งแอพพลิเคชั่นจะแสดงระยะทางระหว่างที่อยู่ของคุณให้เห็นก่อนกดเข้าไปเลือกอาหารจากร้านด้วย ปัญหาที่หลายคนเจอคือ บนแอพฯ แสดงผลว่าร้านอาหารห่างกับที่อยู่ของเราไม่เกิน 10 กิโลเมตร แต่พอจะชำระเงินดันสั่งไม่ได้ซะอย่างนั้น บอกว่าระยะทางเกิน 10 กิโลเมตร)

การชำระเงิน

Foodpanda

จุดเด่น: ชำระได้ทั้งเงินสด บัตรเดบิต/เครดิต PayPal

จุดด้อย: เวลาวัตถุดิบของร้านหมดหรือร้านมีปัญหาบางอย่าง ออเดอร์ที่สั่งด้วยบัตรเครดิตจะถูกยกเลิก (เกิดขึ้นบ่อยกับ Street Food)

LINE MAN

จุดเด่น: ความยืดหยุ่นในการเพิ่มลดปริมาณของที่สั่ง แม้จะกดสั่งซื้อไปแล้วก็สามารถโทรขอเพิ่มขอลดได้

จุดด้อย: เนื่องจากยืดหยุ่นได้แบบที่กล่าวข้างต้นก็เลยต้องจ่ายด้วยเงินสดเท่านั้น

Grab Food

จุดเด่น: ความยืดหยุ่นในการเพิ่มลดปริมาณของที่สั่ง แม้จะกดสั่งซื้อไปแล้วก็สามารถโทรขอเพิ่มขอลดได้

จุดด้อย: เนื่องจากยืดหยุ่นได้แบบที่กล่าวข้างต้นก็เลยต้องจ่ายด้วยเงินสดเท่านั้น

NOW Delivery

จุดเด่น: จ่ายได้ทั้งเงินสด Airpay บัตรเดบิต/เครดิต และ Now Credit

จุดด้อย: เวลาวัตถุดิบของร้านหมดหรือร้านมีปัญหาบางอย่าง ออเดอร์ที่สั่งด้วยบัตรเครดิตจะถูกยกเลิก (เกิดขึ้นบ่อยกับ Street Food)

โปรโมชั่น ส่วนลด ความคุ้มค่า

Foodpanda

จุดเด่น: พักหลังๆ เริ่มมีโปรโมชั่นส่งฟรีมาบ่อยๆ มีการเป็น Partner กับเครือข่ายโทรศัพท์ และธนาคารบ้าง แต่ยังน้อยอยู่

จุดด้อย: เวลามีโปรโมชั่นส่งฟรี ราคาอาหารของร้านจะถูก add ขึ้นมาเล็กน้อย

LINE MAN

จุดเด่น: มีโปรโมชั่นเฉพาะของร้านอาหารแต่ละร้านให้เลือกเยอะมาก มีส่วนลดค่าส่งอาหารบ้างตามเทศกาล มีการจับมือกับเครือข่ายโทรศัพท์บ้าง

จุดด้อย: ส่วนลดค่าส่งอาหารไม่เคย Cover ค่าส่งได้เลย (แต่ดีกว่าไม่มี)

Grab Food

จุดเด่น: มีโปรส่งฟรีและจับมือกับเครือข่ายโทรศัพท์ รวมถึงโปรโมชั่นเฉพาะร้านค้าด้วย

จุดด้อย: ไม่มี โปรโมชั่นถือว่าเยอะมาก

NOW Delivery

จุดเด่น: มีสารพัดโปรโมชั่นและส่วนลด เรียกได้ว่าเอะอะแจก ไม่ต้องมีเทศกาลหรืออีเวนต์ก็แจกได้

จุดด้อย: อาจจะมีแค่ช่วงแรกๆ

ข้อสรุปจากประสบการณ์ของผู้ใช้แต่ละคนคือ ไม่มีแอพฯ ที่ดีที่สุด มีแต่แอพฯ

ที่เหมาะกับความต้องการตอนนั้น

- ถ้าตอนนั้นไม่มีเงินสดอยู่กับตัว จะสั่ง Foodpanda หรือไม่ก็ NOW (เมื่อพูดถึง foodpanda หลายคนจะ  เมนชั่นร้าน Bonchon อย่างมีนัยยะสำคัญ)

- ถ้าอยากกินอาหารร้านดัง คิวยาว จะนึกถึง LINE MAN

- ถ้าอยากได้ส่วนลดจะนึกถึง NOW

- ถ้าอยากสั่งร้าน Street Food ใกล้บ้าน จะนึกถึง Now และ Grab Food

- ค่าส่งมีผลต่อการสั่งซื้อสูงมาก ถ้าค่าส่งเกิน 100 บาท หลายคนจะเลือกไปกินที่ร้านดีกว่า

- คนที่สั่งเป็นประจำคิดว่าต้องการส่วนลด และต้องการให้มีร้าน Street Food เข้าร่วมมากกว่านี้เนื่องจากเป็นอาหารในระดับราคาที่คนทั่วไปรับประทานได้ทุกวัน และผู้ให้ข้อมูลบางส่วนคิดว่าการซื้ออาหารแล้วได้เงินคืนจาก รวมถึง ส่วนลด Shopfest สำหรับสั่ง Food Delivery บน ShopBack เป็นไอเดียที่น่าสนใจ แต่ควรมี Food Delivery บนแพลตฟอร์มให้เลือกมากกว่านี้

สำหรับคนที่ยังไม่เคยใช้แพลตฟอร์มของ ShopBack ช้อปแบ็คคือเว็บไซต์ (และแอพพลิเคชั่น) ที่ให้เงินคืนทุกๆ การช้อปปิ้งออนไลน์กับร้านค้าพาร์ทเนอร์ โดยจะให้เป็น % ตามที่ระบุไว้ในหน้าของร้านค้านั้นๆ นอกจากจะมีบริการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ผ่าน LINE MAN และ Foodpanda แล้วได้เงินคืนแล้ว ShopBack ยังเป็น Partner กับร้านค้าชื่อดัง เช่น Lazada Shopee Konvy และร้านค้าชั้นนำอีกมากมาย และมี ส่วนลด Lazada และส่วนลดจากร้านค้าอื่นๆ ที่มาพร้อมกับเงินคืน โดยผู้ใช้สามารถเข้าไปสมัครใช้งานผ่านเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นแล้วกรอกหมายเลขบัญชีที่จะใช้รับเงินคืนได้เลย ถือเป็นตัวเลือกในการประหยัดเงินอีกทางหนึ่งสำหรับคนที่สั่งอาหารออนไลน์เป็นประจำ