นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าโครงการเพิ่มบทบาทของภาคเอกชนในการเดินรถสินค้า เส้นทางแหลมฉบัง-หนองคาย ตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างภาครับและเอกชน พ.ศ.2562 ว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาและรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นกรมการขนส่งทางราง(ขร.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปแนวทางที่เหมาะสม
โดยโครงการดังกล่าวมีหลักการคือ การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เป็นผู้จัดสรรตารางเดินรถเส้นทางแหลมฉบัง-หนองคาย ที่ไม่ได้ใช้งานและไม่มีการซ่อมบำรุง ให้เอกชนเข้ามารับจ้างเดินรถขนส่งสินค้า เพิ่มสัดส่วนการขนส่งสินค้าในระบบรางและเพิ่มการใช้รางให้เต็มประสิทธิภาพ ในเบื้องต้นเอกชนต้องลงทุนประมาณ 26,000-30,000 ล้านบาท คาดว่ากระบวนการจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ มั่นใจว่าจะเปิดประมูลได้ในปี 2564
นอกจากนี้ยังมอบหมายให้ทาง ร.ฟ.ท. ไปดำเนินการศึกษาการทำเนินชะลอความเร็วบริเวณจุดตัดทางรถไฟ
ที่มีปริมาณจราจร 500 คันต่อวัน ตามคณะอนุกรรมาธิการคมนาคมได้เสนอให้กระทรวงคมนาคมจัดทำมาตรการความปลอดภัยทางถนน โดยได้สั่งการ การรถไฟฯให้ไปหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กรมทางหลวง(ทล.)
กรมทางหลวงชนบท(ทช.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) เพื่อร่วมกันพิจารณาจุดบริเวณที่จะดำเนินการก่อสร้างพร้อมกับงบประมาณในการดำเนินการ และเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาอีกครั้งเพื่อจัดสรรงบประมาณตามความเหมาะสม ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการภายในปีนี้
นอกจากนี้ได้ให้ทางการรถไฟฯ เร่งสำรวจอุปกรณ์ป้องกันและสัญญาณเตือน เครื่องกั้น ให้อยู่ในสภาพ
พร้อมใช้งาน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ที่ต้องสัญจรผ่านบริเวณดังกล่าวด้วย
มีรายงานจาก กรมทางหลวง แจ้งว่า ในส่วนความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายกรุงเทพฯ-บ้านฉาง ช่วงพัทยา-มาบตาพุด ระยะทางรวม 32 กิโลเมตร ขณะนี้งานโยธาก่อสร้างในภาพรวมคืบหน้าประมาณ 95% เปิดใช้อย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2563
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี