นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกมังคุดราชินีผลไม้ไทย มังคุดสดและมังคุดแช่แข็งเพื่อการส่งออกในปี 2563 (มกราคม-มีนาคม) ว่า มีปริมาณการส่งออก 5,465 ตัน มูลค่า 255.38 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 ในช่วงเดียวกัน ที่มีปริมาณการส่งออก 52,350 ตัน มูลค่า 1,939.17 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 86.83
โดยมีการหดตัวมาจากตลาดหลัก เช่น จีน เวียดนาม เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา จากสถานการณ์ไม่ปกติการเกิด โรคระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา การปิดด่านการค้า (Lockdown) ของประเทศ ทำให้หลายประเทศชะลอการสั่งซื้อ มังคุดแช่แข็ง ในปี 2563 (มกราคม-มีนาคม) ปริมาณการส่งออก 0.007 ตัน มูลค่า 0.002 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 ในช่วงเดียวกัน ที่มีปริมาณการส่งออก21 ตัน มูลค่า 2.31 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ99.91 โดยมีการส่งออกเพียง 1 ประเทศ คือ ไต้หวันถึงแม้ปริมาณการส่งออกมังคุดแช่แข็งจะมีปริมาณลดลงในช่วง 5 ปีนี้ (ปี 2558-2562) ร้อยละ 11.19 แต่มูลค่าการส่งออกสวนทางโดยมีแนวโน้มที่ดีขึ้นโดยเกษตรกรมีการรวมกลุ่มปรับปรุงคุณภาพมังคุด ทั้งผลผลิตคุณภาพ และผลผลิตเกรดรอง และสามารถขยายตลาดได้
“ไทยเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกมังคุดรายใหญ่ของโลก โดยมีการส่งออกมังคุดปี 2562 ปริมาณ 409,255 ตัน มูลค่า 16,727.14 ล้านบาท แบ่งออกเป็น มังคุดสด ปริมาณ 409,011 ตัน มูลค่า 16,703 ล้านบาท และมังคุดแช่แข็ง ปริมาณ 244 ตัน มูลค่า 23.94 ล้านบาท ทั้งนี้ ความต้องการมังคุดของตลาดโลกยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และขยายตัวอย่างต่อเนื่องหากผลผลิตได้ผ่านการรับรองมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี”นางสาวพิมพ์ชนก กล่าว
ขณะที่ประเทศคู่แข่งที่สำคัญของไทย คือ อินโดนีเซีย และเวียดนาม โดยเวียดนาม นำเข้ามังคุดจากไทยเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นนายหน้าส่งออกไปยังประเทศที่ 3 คือ จีน โดยใช้สิทธิการค้าชายแดนในการส่งออกมังคุด ส่วนใหญ่นำเข้ามาในจีน
จากจุดผ่อนปรนทางการค้าชายแดนจีน-เวียดนาม ประกอบกับเวียดนาม ส่งเสริมให้เกษตรกรขยายพื้นที่เพาะปลูกมังคุดเพิ่มขึ้นและให้สวนผลไม้ต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน (Good Agricultural Practices: GAP) และการจัดการศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสาน (Integrated Pest Management: IPM) ที่จีน กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม มังคุดของไทยยังเป็นสินค้าที่นิยมของผู้บริโภคชาวจีนเนื่องจากผลไม้ไทย มีรสชาติดี คุณภาพสูงดังนั้นเกษตรกรไทย จะต้องมีการปฏิบัติตามมาตรฐาน GAP และ IPM ตามที่จีนกำหนด รวมทั้งการเร่งจัดทำระบบตรวจสอบสินค้าย้อนกลับเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภค
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี