รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น (SOE Awards) เป็นรางวัลที่กระทรวงการคลัง ให้การสนับสนุนตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา เพื่อสร้างขวัญกำลังใจกับคนทำงานในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ ในการพัฒนาองค์กรเพื่อให้บริการประชาชนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศชาติ ซึ่งล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ มีการจัดพิธีมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2563 โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานมอบรางวัล ซึ่งในงานดังกล่าว บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ได้รับรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น จำนวน 4 รางวัล ได้แก่
1.รางวัลคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจดีเด่น มอบให้กับคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจซึ่งปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจและส่งเสริมการบริหารงานของฝ่ายจัดการให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส สอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี พร้อมให้ความสำคัญและมีส่วนร่วมในการกำหนดวิสัยทัศน์ นโยบาย และทิศทางการดำเนินงาน มีบทบาทในการกำกับดูแลที่ดี (Good Corporate Governance) และมีการกำหนดนโยบายด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งติดตามการดำเนินงานในเรื่องต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ
2.รางวัลการดำเนินงานเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น มอบให้กับรัฐวิสาหกิจที่มีการส่งเสริมการดำเนินงานเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง และสร้างความตระหนักในเรื่องสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน มีโครงการที่สะท้อนถึงผลลัพธ์อย่างแท้จริง ซึ่งครั้งนี้ ปตท. ได้รับรางวัลจาก “โครงการศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี” ซึ่งเป็น “ศูนย์การศึกษาเรียนรู้ด้านการฟื้นฟูป่าชายเลนจากนากุ้งร้างแห่งแรกของประเทศไทย” สร้างแรงบันดาลใจและปลูกฝังจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้แก่ประชาชน รวมถึงการใช้องค์ความรู้เพื่อส่งเสริมและยกระดับความเป็นอยู่ให้กับชุมชนโดยรอบ
สำหรับโครงการศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี ตั้งอยู่ที่ ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่ง ปตท. ได้เห็นความสำคัญของป่าชายเลนผืนนี้ จึงได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ความว่า “ปลูกป่าแล้วต้องให้ชาวบ้านได้ประโยชน์และขณะเดียวกันก็ต้องช่วยอนุรักษ์ด้วย” มาเป็นแนวทางในการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน รวมถึงการฟื้นฟูและใช้ประโยชน์จากป่าชายเลนอย่างยั่งยืน
ส่วนชื่อของศูนย์ฯ นั้นได้รับพระราชทานนามจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในปี 2547 ว่า “สิรินาถราชินี” ซึ่งมีความหมายว่า “ราชินีผู้ทรงมีพระราชจริยวัตรอันงดงาม และทรงเป็นที่พึ่งแห่งปวงชน” และดำเนินการก่อสร้างในปี 2549 ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงครองราชย์เป็นปีที่ 60 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมายุ 72 พรรษา
โครงการศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี เริ่มเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา ซึ่งนอกจากรางวัลการดำเนินงานเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น ในการมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ที่ได้รับในปี 2563 นี้แล้ว ยังเคยได้รับรางวัลจากหน่วยงานอื่นๆ เช่น ในปี 2553 ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Award 2010) ประเภทแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศยอดเยี่ยม จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
รวมถึงในปี 2559 ได้รับรางวัล สถานที่อารยสถาปัตย์แห่งปี 2559 ประเภทแหล่งท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล จากมูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล ปัจจุบันศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี เป็นศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบที่ภาครัฐ เอกชน และชุมชนร่วมกันบริหารจัดการให้สามารถตอบสนองต่อผู้รับบริการทั้งด้านวิชาการแก่สถาบันการศึกษาที่สนใจเข้ามาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน และด้านการท่องเที่ยวแก่ประชาชนทั่วไป โดยนับจากปี 2550 ถึงครึ่งปีแรกของปี 2562 มีผู้เยี่ยมชมทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวม 518,908 คน
3.รางวัลความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมดีเด่นด้านความคิดสร้างสรรค์ มอบให้รัฐวิสาหกิจที่มีผลงานสร้างสรรค์ใหม่ๆ ปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ หรือกระบวนการดำเนินงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและใช้ประโยชน์ในกิจการได้จริง โดยครั้งนี้ ปตท. ได้รับรางวัลจาก “โครงการวัสดุปิดแผลไบโอเซลลูโลสคอมพอสิต” ซึ่งเป็นนวัตกรรมวัสดุเพื่อการรักษาบาดแผลที่มีความใหม่ในระดับโลก มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศในราคาที่ต่ำกว่า นอกจากนั้นยังสามารถช่วยลดขั้นตอนการรักษาลงได้
และมีประสิทธิภาพช่วยให้บาดแผลหายเร็วขึ้นกว่าเดิมประมาณ 2 เท่า จึงช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชนสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์มาตรฐานระดับโลกในราคาที่สมเหตุสมผล โดยโครงการวัสดุปิดแผลไบโอเซลลูโลสคอมพอสิต เริ่มต้นขึ้นในปี 2559 สถาบันนวัตกรรม ปตท. ได้ริเริ่มพัฒนาวัสดุชนิดไบโอเซลลูโลสจากจุลินทรีย์ ด้วยการเปลี่ยนน้ำตาลให้กลายเป็นเส้นใยเซลลูโลสบริสุทธิ์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นใยประมาณ 55 นาโนเมตร
ด้วยความที่เส้นใยมีขนาดเล็กมาก ส่งผลให้มีพื้นที่ผิวสูง มีความสามารถในการดูดซับน้ำได้ดี จึงมีความเหมาะสมที่จะใช้เป็นวัสดุปิดแผล เนื่องจากจะสามารถควบคุมปริมาณความชื้นที่เหมาะสมให้แก่บาดแผล และถูกผลิตมาในรูปของไฮโดรเจล (Hydrogel) ซึ่งจะไม่ติดบาดแผล ส่งผลให้สามารถลดอาการเจ็บบาดแผลของผู้ป่วยในระหว่างเปลี่ยนวัสดุปิดแผลได้ และเสริมแรงด้วยผ้าตาข่าย จึงเหมาะที่จะนำมาใช้เป็นวัสดุปิดแผลได้อย่างดี ส่วนในอนาคตจะพัฒนาเพิ่มเติม เช่น การเติมสารออกฤทธิ์โดยเน้นสารจากธรรมชาติ รวมถึงพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เวชสำอางอื่นๆ
และ 4.รางวัลความร่วมมือเพื่อการพัฒนาดีเด่น ด้านการยกระดับการบริหารจัดการองค์กร หรือ “โครงการพี่เลี้ยง” ประเภทชมชย เป็นรางวัลคู่รัฐวิสาหกิจระหว่าง ปตท. กับ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ร่วมมือกันเพื่อยกระดับศักยภาพการบริหารจัดการองค์กรในด้านต่างๆ สู่มาตรฐาน เป็นการพัฒนารัฐวิสาหกิจไทยให้แข็งแรงและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น เป็นรางวัลอันมีเกียรติและทรงคุณค่าแห่งปี มอบให้แก่องค์กรของรัฐที่มีความโดดเด่นในด้านต่างๆ จึงถือเป็นการสะท้อนผลงานจากความมุ่งมั่นในเจตนารมณ์ของ ปตท. ตามแนวคิด “Powering Thailand’s Transformation” ที่สร้างความเข้มแข็งด้านพลังงาน พร้อมยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และมุ่งพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม เพื่อพัฒนาสังคมไทยให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
“ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมา ปตท. มุ่งสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาศักยภาพด้านการดำเนินงานในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ปรับตัวได้ทันกับความท้าทายต่างๆ พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ซึ่งผมขอขอบพระคุณผู้มีส่วนสนับสนุน ปตท. ทั้งหน่วยราชการ คู่ค้า พันธมิตร ลูกค้าและประชาชน ที่มีส่วนร่วมสนับสนุนในความสำเร็จครั้งนี้ นับเป็นความภาคภูมิใจขององค์กรที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นทุ่มเทของบุคลากร ปตท. ทุกคน โดย ปตท. ขอเป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนประเทศ และยืนหยัดในการสร้างคุณค่าต่อสังคมไทย ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติต่อไป” นายอรรถพล กล่าวในท้ายที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี