22 กุมภาพันธ์ 2564 นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจของดีแทคในปี 2021-2022 ดีแทคจะผลักดันอินเทอร์เน็ตให้เข้าถึงคนไทยทุกคนทั้งการบริการ 5G และ 4G ในราคาที่เหมาะสม หลังจากที่แนวโน้มการใช้งานดาต้าในต่างจังหวัดเติบโตกว่ากรุงเทพ รวมถึงจะมีการพัฒนาดีแทคแอพลิเคชั่น สร้างระบบนิเวศน์ให้ทุกคนมีส่วนร่วม สามารถใช้บริการได้จากในบ้านที่ทำงาน และดีแทคยังพัฒนาบริการใหม่หลากหลายที่จะช่วยเปลี่ยนผ่านผู้ใช้งานสู่ชีวิตดิจิทัล
ขณะเดียวกันการพัฒนาโครงข่าย 5G ของดีแทคจะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อทุกคน ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า โดยปัจจุบันดีแทคมีคลื่นความถี่ครบทั้งคลื่นความถี่ต่ำ คลื่นความถี่กลางซึ่งคลื่น 2300 MHz มีการขยายโครงข่ายกว่า 2 พันสถานีฐานแล้ว และคลื่นความถี่สูง ดีแทคเน้นที่การใช้งานได้จริง อย่างไรก็ตาม หากมีการประมูลคลื่นความถี่ใหม่ๆ ดีแทคให้ความสนใจในการประมูลคลื่นความถี่ทุกครั้ง เรามีความพร้อมทั้งเงินลงทุนและแผนงานที่จะนำมาให้ลูกค้าได้ใช้ประโยชน์จาก 5G ได้มากที่สุด นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้า SME ที่ได้ร่วมทำโครงการนำร่องในการใช้ 5G กับธุรกิจ SME
“เราอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศเดินหน้าฟื้นตัวในปี 2564 โดยมุ่งเน้นตามกลยุทธ์ของเราที่จะนำอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเข้าถึงทุกคน และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านผู้ใช้งานดิจิทัลของลูกค้า เน้นให้ความสำคัญกับการร่วมมือพันธมิตรสร้างธุรกิจใหม่ๆ ให้ความสำคัญของไซเบอร์ซีเคียวริตี้” นายชารัด กล่าว
นายประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเทคโนโลยี ดีแทค กล่าวว่า ตามข้อมูลของดีแทคพบว่ามาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมของปี 2563 ที่ผ่านมา ได้พลิกโฉมการใช้มือถือของประเทศไทย การใช้งานดาต้าในส่วนภูมิภาคโตมากกว่าการใช้งานในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ถึง 9 เท่า สอดคล้องกับทิศทางการเพิ่มขึ้นของการใช้งานสมาร์ทโฟนเร็วขึ้น ในส่วนภูมิภาคก็เติบโตเร็วกว่ากรุงเทพฯ ถึง 3 เท่า จากข้อมูลดังกล่าวตอกย้ำว่าผู้ใช้ในภูมิภาคและพื้นที่ห่างไกลหันมาใช้ดิจิทัลมากขึ้น
ทั้งนี้ดีแทคจึงได้เร่งนำคลื่นความถี่ 700 MHz มาให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โดยตั้งเป้าจะขยาย 4,400 สถานีฐานทั่วประเทศภายในไตรมาสที่ 1/64 คลื่น 700 MHz มีประสิทธิภาพในการเพิ่มสัญญาณครอบคลุมพื้นที่ให้มากยิ่งขึ้น โดยดีแทคเปิดให้บริการ 5G และ 4G บนคลื่น 700 MHz ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Dynamic Spectrum Sharing (DSS) ทำให้สามารถใช้งานคลื่นเดียวทั้ง 5G และ 4G ไม่ต้องแบ่งแบนด์วิดท์ด้วยประสิทธิภาพเต็มที่สูงสุด
อย่างไรก็ตามดีแทคกำหนดกลยุทธ์การออกแบบโครงข่ายโดยดูที่พฤติกรรมและแนวโน้มการใช้งานของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี โดยจากข้อมูลของปีที่ผ่านมา เราจะเห็นพฤติกรรมลูกค้า 4 กลุ่ม คือ
1)เน็ตภูธรหน้าใหม่ (THE NEW RURALS) ปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคเพิ่มขึ้นทั้งจากการย้ายถิ่นฐานของคนเมืองและการใช้งานที่เพิ่มขึ้นของชุมชน โดยต่างจังหวัดมีอัตราเติบโตมากกว่า 9 เท่า เมื่อเทียบกับกรุงเทพฯ การเข้าถึงสมาร์ทโฟนยังเพิ่มขึ้น 3 เท่าในภูมิภาค (ข้อมูล ม.ค. 2563-ม.ค. 2564) ดีแทคเร่งนำคลื่น 700 MHz ให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงครอบคลุมพื้นที่ทั้งในเมืองและต่างจังหวัด
2) ขยันผ่านเน็ตทางไกล (THE REMOTE DESKERS) กลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ปรับตัวรับกับความปกติใหม่โดยทำงานและเรียนที่บ้าน ซึ่งมีความต้องการใช้งานดาต้าจากชุมชนที่พักอาศัย โดยใช้งานแอปพลิเคชันเพื่อสร้างผลผลิตและการทำงานร่วมกันแม้อยู่คนละพื้นที่
3) อยู่ติดบ้านด้วยเน็ตบันเทิง (THE NON-STOP STREAMER) จากสถานการณ์ล็อกดาวน์ หรืออยู่บ้านพบว่ากลุ่มผู้ใช้งานที่ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านแอปพลิเคชันเพื่อบันเทิง ดูหนัง ฟังเพลง และช้อปปิ้งออนไลน์ ผ่านแอปเพื่อตอบโจทย์ดิจิทัลเพิ่มขึ้น อาทิ YouTube และ TikTok ดีแทคเร่งขยายเทคโนโลยี 5G-ready massive MIMO เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานดีขึ้น 3 เท่า และเปิดให้บริการ 4G-TDD บนคลื่น 2300 MHz อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงประมาณ 20,400 สถานีฐาน
4) เน็ตคือหัวใจสำคัญ (THE CRITICAL USER) กลุ่มผู้ใช้งานที่พึ่งพาระบบอินเทอร์เน็ตเป็นหลักในการปฏิบัติภารกิจ ให้บริการแก่ประชาชนและชุมชน เช่น โรงพยาบาลและบริการฉุกเฉิน รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มธุรกิจ เป็นต้น นอกจากนี้ดีแทคยังนำคลื่น 26 GHz มาทดสอบใช้งานบริการต่างๆ รวมถึงขยายสู่คลื่น 700 MHz ดีแทคพร้อมนำศักยภาพที่แท้จริงของโครงข่าย 5G มาทำให้เกิดประโยชน์เพื่อผู้ใช้งาน
นายฮาว ริเร็น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด ดีแทค กล่าวว่า ดีแทคแอปได้วางระบบนิเวศน์ดิจิทัลตอบรับความต้องการของลูกค้าทุกคน ตามแนวโน้มผู้บริโภคได้แก่ การซื้อขายออนไลน์จากออฟไลน์ การออกแบบให้กลุ่มผู้ใช้แรงงานต่างด้าว ผู้ใช้งานในต่างจังหวัดได้ด้วย โดยมีกิจกรรม จาก dtac reward สำหรับลูกค้าระบบเติมเงิน ที่สามารถสะสม dtac reward Coins แลกสิทธิพิเศษได้อย่างคุ้มค่าและนำระบบปัญาประดิษฐ์ (AI) มาวิเคราะห์ ออกแบบข้อเสนอที่ตอบสนองแต่ละคน ทำให้ดีแทคมอบข้อเสนอบริการเฉพาะรายบุคคลได้มีประสิทธิภาพสูงกว่าข้อเสนอทั่วไปถึง 3 เท่า ทำให้การใช้งานดีแทคแอปโตขึ้น 40% ในปี 63
ขณะเดียวกันรยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรในการนำเสนอบริการหรือธุรกิจใหม่ๆ ประกันสุขภาพ ส่วนลดร้านขายยาที่ได้รับอนุญาต หรือการโอนเงินที่มั่นใจได้ บริการเหล่านี้ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางดิจิทัลให้กับผู้ใช้งาน ขณะเดียวกันดีแทคให้ความสำคัญกับการเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ (Trusted and secure internet provider) เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ นอกจากนี้ยังมีบริการที่ช่วยเหลือลูกค้าในภาวะที่เศรษฐกิจเผชิญกับความท้าทาย เช่น บริการใจดีให้ยืม ใจดีให้โอน และบริการดิจิทัลอื่นๆ จากดีแทคที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าในเวลาที่ต้องการ
“บริการดิจิทัลดีแทค จะเน้นร่วมมือกับพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นบริการด้านใดๆ ก็ตามดีแทคจะต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบอย่างถูกต้อง ทั้งเรื่องการขอไลเซ่นส์ ในบริการดิจิทัลทุกประเภท”
นอกจากนี้ ดีแทคยังประกาศความมุ่งมั่นในการสนับสนุนให้สังคมไทยสามารถยืนหยัดได้ในทุกสถานการณ์ และดำเนินธุรกิจด้วยความเชื่อมั่น เปิดตัวโครงการ ?ดีแทค เน็ตทำกิน? (Net for Living) ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มล่าสุด ที่ช่วยฝึกอบรมผู้ค้ารายย่อย 100 ราย ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ และขยายผลให้ครอบคลุมผู้ประกอบการรายย่อย ที่มีรายได้น้อยให้สามารถประกอบธุรกิจค้าขายได้บนพื้นที่ออนไลน์ มุ่งมั่นช่วยเพิ่มรายได้ครัวเรือนจากพื้นที่ขายออนไลน์ 15% ต่อปี สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://dtac.co.th/dtacNetforLiving
สำหรับเยาวชน ดีแทคจะยังคงดำเนินโครงการ Safe Internet ซึ่งได้สอนทักษะด้านดิจิทัลให้กับนักเรียนและครูในปีนี้อีก 200,000 คน ล่าสุดดีแทคมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ลดลง 50% ให้ได้ตามเป้าหมายในปี 2573
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี