นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าของไทยกับประเทศคู่ค้าที่ไทยมีความตกลงการค้าเสรี (FTA) ด้วยจำนวน 18 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน 9 ประเทศ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ชิลี และเปรู ในช่วง 4 เดือนของปี 2564 (มกราคม-เมษายน) มีมูลค่า 108,826.75 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.18% คิดเป็นสัดส่วน 63.84% ของการค้ารวมของไทย โดยเป็นการส่งออกไป 18 ประเทศคู่ FTA มูลค่า 52,627.81 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.45%
เมื่อแยกการส่งออกเป็นรายกลุ่มสินค้าพบว่า สินค้าเกษตร (กสิกรรม ปศุสัตว์และประมง) เป็นสินค้าที่ไทยมีศักยภาพในการผลิตและเป็นที่ต้องการของตลาด เนื่องจากเป็นทั้งอาหารและวัตถุดิบ โดยไทยส่งออกไปประเทศคู่ FTA มูลค่า 6,097 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 22% คิดเป็นสัดส่วน 74.56% ของการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมดของไทย ตลาดที่มีการขยายตัว เช่น จีน อาเซียน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย เป็นต้น สินค้าที่ขยายตัวได้ดี เช่น ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังและสินค้าเกษตรกลุ่มอาหารอื่นๆ ที่ขยายตัว เช่น ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง ผักสดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง เครื่องเทศและสมุนไพร และข้าวโพด
การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม มีมูลค่า 40,161.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 5.25% มีสัดส่วน 58.65% ของการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมทั้งหมดตลาดส่งออกมีการขยายตัว เช่น จีน เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สปป.ลาว ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย อินเดีย และนิวซีแลนด์ สินค้าอุตสาหกรรมที่ขยายตัว ได้แก่ กลุ่มวัตถุดิบที่ใช้ในภาคการผลิต สินค้าป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และสินค้าWork from Home และมีสินค้าที่ขยายตัวได้ดี เช่น รถยนต์และส่วนประกอบ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ วงจรไฟฟ้า และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล
ส่วนการส่งออกสินค้าเกษตรแปรรูป มีมูลค่า 3,736 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 3.16% แต่ยังมีสินค้าที่ส่งออกขยายตัวได้ดี เช่น อาหารสัตว์เลี้ยง ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่ม สิ่งปรุงรสอาหาร ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ และไอศกรีม
“การส่งออกของไทยมีโอกาสที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกษตร สินค้ากลุ่มอาหาร และสินค้าอุตสาหกรรมที่ใช้เป็นวัตถุดิบในภาคการผลิต เนื่องจากปัจจัยสำคัญมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า และที่สำคัญ ความตกลงการค้าเสรี ยังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสร้างแต้มต่อให้กับสินค้าไทยจากการที่ประเทศคู่ค้าลดภาษีให้ไทย”นางอรมนกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี