นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2564 กรมได้ร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ กรุงสิงคโปร์ จัดการประชุมหารือกับสมาคมผู้นำเข้าข้าวสิงคโปร์ ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อติดตามสถานการณ์ข้าวไทยในตลาดสิงคโปร์ ในเรื่องความต้องการนำเข้าข้าวของสิงคโปร์ และการผลักดันการส่งออกข้าวไทยไปยังสิงคโปร์ในช่วงที่เหลือของปี 2564 นี้
โดยในการประชุมนั้นทั้ง 2 ประเทศได้แลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ตลาดข้าว ซึ่งไทยได้แจ้งสถานการณ์การผลิตข้าวของไทยในปี 2564 ที่คาดว่าจะมีผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนที่เพียงพอ ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงอยู่ที่ประมาณ 32.00-33.00 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ปัจจุบันราคาข้าวไทยปรับตัวลงมาอยู่ในระดับที่แข่งขันกับประเทศคู่แข่ง เช่น อินเดีย และเวียดนาม ได้มากขึ้น จึงขอให้สมาคมผู้นำเข้าข้าวสิงคโปร์ นำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรก 2564 สิงคโปร์นำเข้าข้าวจากไทยลดลงมากเมื่อเทียบกับปี 2563
ทั้งนี้ผู้แทนสมาคมผู้นำเข้าข้าวสิงคโปร์ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดข้าวในสิงคโปร์ว่า ในช่วงครึ่งปีแรก 2564 สิงคโปร์นำเข้าข้าวโดยรวมลดลง เนื่องจากยังมีสต๊อกข้าวที่เหลือจากปี 2563 ที่ผู้นำเข้าได้เร่งนำเข้าข้าวในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้มีปริมาณข้าวมากเกินความต้องการในตลาด ส่วนสาเหตุที่สิงคโปร์นำเข้าข้าวจากไทยลดลง มาจากราคาข้าวไทยมีความผันผวนมาก ทำให้ผู้นำเข้าข้าววางแผนการตลาดค่อนข้างยาก ผู้นำเข้าข้าวบางส่วนจึงหันไปนำเข้าข้าวจากเวียดนามที่มีเสถียรภาพด้านราคา แม้คุณภาพจะด้อยกว่าข้าวไทย และยังมีการนำเข้าข้าวจากอินเดียเพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของแรงงานอินเดียในสิงคโปร์ที่มีมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม สมาคมผู้นำเข้าข้าวสิงคโปร์ เห็นว่าในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 ความต้องการข้าวไทยจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาข้าวไทยปรับตัวลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิไทยที่ปรับตัวลดลงในระดับที่จูงใจให้นำเข้าเพิ่มขึ้น นอกจากปัจจัยบวกทางด้านราคาแล้ว ผู้บริโภคในสิงคโปร์ยังคงเชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐานของข้าวไทยที่สูงกว่าข้าวจากแหล่งอื่น ประกอบกับคาดว่ารัฐบาลสิงคโปร์จะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงเดือนกันยายน 2564 เป็นต้นไป ทำให้มีความต้องการข้าวไทยจากอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ข้าวกล้อง ข้าวเพื่อสุขภาพของไทย ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภค และมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง หลังจากรัฐบาลสิงคโปร์ได้รณรงค์ให้ชาวสิงคโปร์หันมาบริโภคข้าวกล้องแทนข้าวขาว เพื่อลดอัตราผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยมีการสร้างแรงจูงใจแก่ผู้นำเข้าในการประชาสัมพันธ์ข้าวกล้องกับผู้บริโภค หากราคาข้าวไทยมีเสถียรภาพและยังปรับตัวอยู่ในระดับที่แข่งขันได้เช่นในปัจจุบัน คาดว่าครึ่งปีหลัง 2564 จะมีการนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ในขณะเดียวกันสมาคมผู้นำเข้าข้าวสิงคโปร์ ได้แสดงความขอบคุณไทยสำหรับความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอด โดยเฉพาะในฐานะผู้ส่งออกข้าวที่มีศักยภาพและมีความพร้อมที่จะส่งข้าวคุณภาพดีให้สิงคโปร์เสมอ แม้อยู่ในช่วงสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ในช่วงปีที่ผ่านมา
และสมาคมผู้นำเข้าข้าวสิงคโปร์ ยินดีที่จะร่วมสนับสนุนข้าวไทยและช่วยส่งเสริมตลาดและประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในตลาดสิงคโปร์ต่อไป
ทั้งนี้ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้กรมไม่สามารถจัดคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและภาคเอกชนไทยเดินทางไปเจรจาขยายตลาดข้าวและกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าในต่างประเทศได้ จึงได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นการประชุมหารือผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อให้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยที่ผ่านมาได้จัดการประชุมหารือกับสมาคมผู้นำเข้าข้าวของฮ่องกง ผู้นำเข้าข้าวฟิลิปปินส์ และหน่วยงานกำกับดูแลการนำเข้าข้าวของมาเลเซีย (BERNAS) ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในระยะต่อไปมีแผนหารือกับบังกลาเทศ ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย เพื่อผลักดันการส่งออกข้าวไทยและส่งเสริมให้ข้าวไทยมีส่วนแบ่งในตลาดเป้าหมายเพิ่มขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี