ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)รายงานดัชนีความ เชื่อมั่นทางธุรกิจ(REPORT ON BUSINESS SENTIMENT INDEX)ในเดือนสิงหาคม 2564 ดัชนีฯ ปรับลดลงจากระดับ 41.4 มาอยู่ที่ 40.0 จากการปรับลดลงในเกือบทุกองค์ประกอบ โดยความเชื่อมั่นที่ลดลงมาจากความเชื่อมั่นของภาคการผลิตเป็นสำคัญนำโดยกลุ่มผลิตยานยนต์และกลุ่มผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ความเชื่อมั่นปรับลดลงเกือบทุกด้าน รวมถึงกลุ่มผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ความเชื่อมั่นด้านการผลิตปรับลดลงมาก ส่วนหนึ่งจากปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ที่ยังไม่คลี่คลายและการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ในโรงงาน ซึ่งเริ่มส่งผลกระทบต่อการผลิตและต้นทุน
สำหรับความเชื่อมั่นในภาคที่มิใช่การผลิตทรงตัวต่ำกว่าระดับ 50 ต่อเนื่อง ตามการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ยืดเยื้อและรุนแรงขึ้น โดยดัชนีฯ ของธุรกิจก่อสร้างปรับลดลงสู่จุดต่ำสุดใหม่ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 จากความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์และความเชื่อมั่นด้านการลงทุนที่ลดลงมากแม้ว่ารัฐจะผ่อนคลายให้กลับมาดำเนินการได้ เนื่องจากรัฐยังคงกำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด โดยกำหนดให้มีการทำ Bubble and seal หลังจากเปิดแคมป์คนงาน
ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีฯ ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 46.8 จาก 47.7 ในเดือนก่อน ตามความเชื่อมั่นที่ลดลงในภาคการผลิตเป็นสำคัญ นำโดยกลุ่มผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ รวมถึงกลุ่มผลิตเคมี ปิโตรเลียม ยางและพลาสติก ที่ดัชนีฯกลับมาลดลงต่ำกว่า 50 สะท้อนความเชื่อมั่นที่แย่ลงเมื่อเทียบกับปัจจุบัน ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคที่มิใช่การผลิตทรงตัวต่ำกว่า 50 ต่อเนื่อง โดยความเชื่อมั่นของธุรกิจอสังหาฯ และก่อสร้างอยู่ในระดับต่ำมาก โดยเฉพาะความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อของธุรกิจอสังหาฯ และด้านการจ้างงานของธุรกิจก่อสร้างที่ปรับลดลงสู่ระดับต่ำที่สุดตั้งแต่เริ่มจัดทำดัชนีฯ
ดัชนีความเชื่อมั่นด้านสภาพคล่องทั้งในปัจจุบันและ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 และปรับลดลงต่อเนื่อง สะท้อนว่าธุรกิจที่เผชิญกับภาวะสภาพคล่องตึงตัวยังคงมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการที่ลดลง
สัดส่วนของผู้ประกอบการที่กังวลต่อกำลังซื้อในประเทศและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจปรับเพิ่มขึ้น ตามการแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้นในเดือนนี้ขณะที่การปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดส่งผลให้ต้นทุนของธุรกิจยังอยู่ในระดับสูงและเป็นข้อจำกัดหลักในการดำเนินธุรกิจ อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในอีก 12 เดือนข้างหน้ายังทรงตัวอยู่ที่ 1.7%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี