นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยภายในงาน Sustainable Thailand 2021 ว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังรับมือกับ
โควิด-19 ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐ โดยกระทรวงการคลังพยายามช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจ เพื่อที่จะสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้สามารถเดินหน้าต่อไปและขยายตัวได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้รัฐบาลเองได้พยายามที่จะควบคุมตัวที่แพร่ระบาด เร่งการฉีดวัคซีน ด้วยช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงพยายามรักษาการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งคาดว่าในปี 2564 นี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(GDP)จะมีอัตราการเติบโตได้อยู่ 1.3%
“กระทรวงการคลังมุ่งมั่นสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและยืดหยุ่นมาโดยตลอด ผ่านนโยบายทางการคลังทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงในช่วงการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 ซึ่งเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบนั้น รัฐบาลได้ควบคุมการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และจัดสรรทรัพยากรทางการคลังและการเงินที่จำเป็นทั้งหมด เพื่อสนับสนุนระบบการรักษาพยาบาล และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและภาคธุรกิจ ผ่านหลากหลายโครงการ เช่น คนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้ เป็นต้น เพื่อรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศไว้โดยคาดว่าในปี 2565 เศรษฐกิจของประเทศจะมีการเติบโตอยู่ที่ 4-5%”นายอาคม กล่าว
ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่าศูนย์วิจัยกสิกรฯยังคงคาดการณ์ส่งออกในปี 2564 ที่ 12.4% โดยมองว่าในช่วงที่เหลือของปี 2564 ภาคการส่งออกจะยังเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อเนื่อง แม้ว่าภาคการส่งออกจะเผชิญความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดในโรงงาน แต่มาตรการภาครัฐและการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของประเทศคู่ค้าสำคัญจะช่วยสนับสนุนให้ความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น โดยอัตราการเติบโตของการส่งออก 4 เดือนที่เหลือของปีจะยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง แต่อาจชะลอตัวลงเล็กน้อยจากช่วง 8 เดือนแรก เนื่องจากปัจจัยฐานต่ำและปัจจัยการชดเชยอุปสงค์ที่ค้างจากช่วงก่อนหน้า (pent-up demand) มีแนวโน้มคลี่คลายลง
โดยในเดือนส.ค.สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้ามีความรุนแรงขึ้นในหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียจนส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและภาคการผลิตกดดันให้ตัวเลขการส่งออกเติบโตชะลอตัวลงรวมถึงไทย ทำให้การส่งออกของไทยเดือนสิงหาคม 2564 ขยายตัวอยู่ที่ 8.93% ชะลอลงจาก 20.3% ในเดือนก.ค.2564
ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจของคู่ค้าสำคัญของไทยหลายประเทศเผชิญแรงกดดันจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ในเดือนส.ค. 2564 การส่งออกไปในประเทศคู่ค้าสำคัญเติบโตในอัตราที่ชะลอลง โดยการส่งออกไปสหรัฐฯ เติบโต 16.2% จาก 22.2% ในเดือนก.ค. อย่างไรก็ตาม การส่งออกไปใน CLMV (กัมพูชา-ลาว-เมียมา-เวียดนาม) กลับมาหดตัวในรอบ 6 เดือน โดยหดตัวอยู่ที่ 0.03% หลังการส่งออกไปเวียดนาม (-17.2%) กลับมาปรับตัวลดลงอย่างมากหลังเผชิญสถานการณ์การระบาดที่รุนแรงจนส่งผลให้เกิดมาตรการล็อกดาวน์ที่
เข้มงวดภายในประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี