นายธัชชญาน์พล อภิมนต์เตชบุตร รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้รับแจ้งจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองย่างกุ้งว่า กรมการค้า กระทรวงพาณิชย์เมียนมา ได้ออกประกาศเรื่องระงับการอนุญาตเปิดศูนย์ขายรถยนต์ใหม่ รวมทั้งระงับการออกใบอนุญาตนำเข้าและการอนุญาตนำเข้ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป เนื่องจากเมียนมาได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจของประเทศและส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้า โดยการออกประกาศดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการใช้เงินตราต่างประเทศจากการนำเข้าสินค้ารถยนต์ฯ ซึ่งสินค้ารถยนต์ฯ ภายใต้ประกาศฯ มีดังนี้
1.กรณีการนำเข้ารถยนต์ที่ใช้แล้วและการนำเข้ารถยนต์ส่วนบุคคล
2.กรณีการนำเข้าจากศูนย์การขายรถยนต์และโชว์รูมรถยนต์
3.กรณีที่มีการนำเข้ารายบุคคลที่ออกใบอนุญาตการนำเข้ารถยนต์ไว้กับข้าราชการจากหน่วยงานต่างๆ ที่ได้รับรางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น ทหารและตำรวจที่ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ
นายธัชชญาน์พล กล่าวว่าในช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคม 2564 ไทยส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไปเมียนมา มูลค่า 1,991.13 ล้านบาท เป็นการส่งออกทางชายแดนมูลค่า 1,500.34 ล้านบาทคิดเป็นสัดส่วนถึง 75.35% ซึ่งมูลค่าการส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของไทยไปเมียนมาสูงเป็นอันดับที่ 3 ในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน โดย สปป.ลาวเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีมูลค่าสูงสุดคือ 3,093.31 ล้านบาท ขณะที่กัมพูชาเป็นอันดับที่ 2 มีมูลค่า 2,433.71 ล้านบาท และมาเลเซียเป็นอันดับที่ 4 มีมูลค่า 1,880.77 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี