นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า ได้เข้าร่วมการหารือระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก (ABAC-Leaders’ Dialogue) ในฐานะประธานร่วมสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมผ่านระบบออนไลน์
โดยนายกรัฐมนตรีได้ย้ำถึงความสำคัญของการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการรับมือกับ โควิด-19 ซึ่งปัจจุบันไทยได้ฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้ว 83 ล้านโดส และคาดว่าจะครบ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นเดือน พ.ย.2564 นี้ รวมทั้งเห็นถึงความสำคัญอย่างยิ่งของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจจะช่วยผลักดันความพยายามร่วมกัน ครอบคลุมและยั่งยืน ตามแนวคิดเศรษฐกิจสีเขียวหรือ BCG (Bio-Circular-Green) และสามารถร่วมมือกันอย่างจริงจังเพื่อให้เขตเศรษฐกิจของไทยเป็นผู้นำด้านสภาพภูมิอากาศ โดยไทยมีความตั้งใจอย่างยิ่งในในการแก้ไขความท้าทายด้านสภาพภูมิอากาศและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และไทยยังได้ตั้งเป้าที่จะให้มีการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าให้มากขึ้น
นอกจากนี้ ในช่วงการเป็นเจ้าภาพเอเปกในปีหน้าไทยจะพยายามผลักดันประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมบนพื้นฐานของแนวคิดเศรษฐกิจ BCG ซึ่งภาคธุรกิจจะมีความสำคัญยิ่งในกระบวนการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำของเอเปก ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียน การดำเนินการตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน การจัดการของเสีย การพัฒนานวัตกรรม โดยภาคเอกชนก็ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและพร้อมที่จะร่วมให้ไปสู่เป้าหมายเช่นกัน
นายสุพันธุ์กล่าวว่า ในฐานะ APEC Business Advisory Council (ABAC) 2021 ยังได้เข้าร่วมการประชุมสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก (ABAC) ครั้งที่ 4/2022 ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยในปีนี้ ABAC ได้มีข้อเสนอแนะ (Recommendation) ของภาคเอกชนต่อผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกจำนวนทั้งสิ้น 43 ข้อ โดยครอบคลุมประเด็น อาทิ การสร้างขีดความสามารถและการปฏิรูปโครงสร้างเพื่อส่งเสริมธุรกิจขนาดเล็ก การสร้างความมั่นคงทางอาหารผ่านการใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเร่งการเปิดพรมแดน มาตรการสาธารณสุข และการสร้างกลไกเพื่อก่อตั้ง Free Trade Area of the Asia-Pacific (FTAAP)
ทั้งนี้ ส.อ.ท. ได้เข้าพบนายวีริศ อัมระปาลผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)เพื่อหารือความร่วมมือในการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ และผลักดันโครงการ Made in Thailand : MiT โดย ส.อ.ท. ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ
พร้อมกันนี้ ได้เชิญชวน กนอ. ร่วมสนับสนุนการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศไทยที่รับรองโดย ส.อ.ท. (Made in Thailand : MiT) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยรวมทั้งเชิญผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดต่างๆ เข้าร่วมกิจกรรม MiT Roadshow ซึ่งจะจัดขึ้นใน 5 ภูมิภาค ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2564 เพื่อแนะนำขั้นตอนและวิธีการออกใบรับรอง MiT ประโยชน์และการใช้งานใบรับรอง MiT ตลอดจนสิทธิประโยชน์ของการเป็นสมาชิก ส.อ.ท.และ 3.เชิญชวนผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดต่างๆ เข้าสู่การรับรอง MiT เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐที่มีมูลค่าสูงถึง 1.5 ล้านล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี