นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง ถึงผลการเจรจาจับคู่เร่งรัดการส่งออกผลไม้ตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้เร่งหาตลาดส่งออกรองรับผลผลิตผลไม้ไทยปี 2565 เชิงรุกโดยมีผลการเจรจาที่ประสบความสำเร็จ สร้างมูลค่าทางการค้าทันทีประมาณ 2.6 ล้านบาท และมูลค่าคาดการณ์สั่งซื้อภายใน 1 ปี ประมาณ 183.4 ล้านบาท
นางชณันภัสร์ พิศาลอภิพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง กล่าวว่า สำนักงานฯ ได้ประชุมร่วมกับผู้นำเข้าผลไม้รายใหญ่ ในฮ่องกง เช่น บริษัท CPF HongKong Co., Ltd.และบริษัทอื่นๆ เพื่อประเมินความต้องการซื้อผลไม้ไทยทั้งผลไม้สดและแปรรูป จากนั้นได้ร่วมมือกับสำนักส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด จำนวน 22 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน พิษณุโลก พิจิตร นครราชสีมา ชัยภูมิ ราชบุรี สระบุรี สระแก้ว ปทุมธานี สมุทรปราการ ชลบุรี จันทบุรี ตราด สมุทรสาคร ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี สตูล ชุมพร ปัตตานี และยะลา จัดการเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์
โดยมีการเจรจากันทั้งสิ้น 24 รอบ มียอดคำสั่งซื้อทุเรียนแช่แข็ง และผลไม้สด เช่น มะม่วง ส้มโอ และเมล่อน ทันที 2.6 ล้านบาท และมีมูลค่าที่คาดการณ์ภายใน 1 ปี ประมาณ 183.4 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดผลไม้ไทยในฮ่องกงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดกิจกรรมกระตุ้นการบริโภค กิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับห้างสรรพสินค้าและทำการประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทยให้เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้บริโภคชาวฮ่องกง เพื่อกระตุ้นการบริโภคให้มากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี