เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2565 นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เปิดเผยว่า นายฮากิอูดะโคอิจิ รมว.เศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (เมติ)ประเทศญี่ปุ่น ได้เข้าหารือกับนายสุพัฒนพงษ์พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในประเด็นการขยายความร่วมมือในการผลักดันให้อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงของญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)
ทั้งนี้เพื่อให้ความร่วมมือดังกล่าวเกิดผลเป็นรูปธรรม และเดินหน้าได้อย่างเต็มที่ จึงมีความเห็นร่วมกันให้ทั้ง 2 ฝ่าย ลงนามบันทึกแสดงเจตจำนงระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น(เจโทร)
โดยทั้ง 2 ฝ่าย เห็นพ้องในการผลักดันให้ภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนในพื้นที่อีอีซีที่เน้นด้านเทคโนโลยีขั้นสูง การต่อยอดด้านการวิจัยและพัฒนาร่วมกันชักจูงการลงทุนใหม่จากภาคเอกชนญี่ปุ่นในพื้นที่อีอีซี ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มสุขภาพ กลุ่มดิจิทัล กลุ่มการลงทุนคาร์บอนต่ำ และกลุ่มโลจิสติกส์ โดยการส่งเสริมการลงทุนจะเน้นความสำคัญของการดำเนินนโยบายและเป้าหมายของทั้งสองประเทศ ที่เน้นการเพิ่มความสำคัญด้านห่วงโซ่การผลิต และการมุ่งเน้นการส่งเสริมการลงทุนภายใต้นโยบายประเทศไทย 4.0 และ BCG โมเดล (เศรษฐกิจชีวภาพ Bioeconomy เศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy เศรษฐกิจสีเขียว Green Economy)
นอกจากนี้ จากการหารือร่วมกัน ประเทศญี่ปุ่นเตรียมผลักดัน แนวคิด “Asia-Japan Investing for the Future Initiative” หรือ AJIF ที่เน้นการขยายการเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจและการลงทุนกับภาคเอกชนในภูมิภาคอาเซียน เพื่อสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูง และการพัฒนานวัตกรรมรวมทั้งการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านโครงสร้างพลังงานใหม่เพื่อมุ่งสู่การปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาทางเศรษฐกิจที่มีความยืดหยุ่น
การหารือครั้งนี้ ประเทศไทยและญี่ปุ่น ยังได้เห็นพ้องกันในขยายความร่วมมือในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของโลกจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุน รวมถึงเปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานอัจฉริยะแห่งอนาคตอีกด้วย
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีการลงทุนโดยตรง (FDI) ในประเทศไทยสูงสุดเป็นอันดับ 1 โดยในปี 2564 มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวม 178 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 22.7 จากโครงการลงทุนต่างประเทศทั้งหมด มูลค่าเงินลงทุนรวม 80,733 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17.7 ของมูลค่าเงินลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี