นายทอมมี่ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ CGH เปิดเผยว่า ในปี 2565 นี้ บริษัทมีแผนกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการลงทุนระยะยาวในธุรกิจหลากหลายประเภท มีจุดเด่นในความเชี่ยวชาญในการเข้าบริหารจัดการ กิจการของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทจำกัดที่มีศักยภาพ เพื่อพัฒนาต่อยอดอย่างมั่นคง มีความสอดคล้องและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อธุรกิจอื่นๆ ในเครือ ปัจจุบันบริษัทยังคงเดินหน้าแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในการลงทุนที่เติบโตอย่างรวดเร็วและยั่งยืนต่อไป

รวมถึงยังได้พัฒนา ผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อรักษากลุ่มลูกค้าเก่า และขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ให้มากขึ้น และตัดสินใจปรับเปลี่ยนธุรกิจบริการทางการเงินครั้งใหญ่เพื่อไปสู่ระบบเทคโนโลยีดิจิทัล และเพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ใหม่ในการเข้าสู่โลกการเงินดิจิทัล บริษัทจึงได้เตรียมจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2565 ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อขออนุมัติเปลี่ยนชื่อ จาก “บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)” หรือ CGS เป็น “บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน)” (Pi Securities Public Company Limited) โดยมีชื่อย่อว่า “PI” “พาย”

“บริษัทมีความภูมิใจในวิสัยทัศน์ใหม่ของพาย และเชื่อมั่นว่าตลาดมีความพร้อมสำหรับการให้ความสำคัญกับผู้ใช้งาน และเชื่อว่าการลงทุนจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของทุกคน ซึ่งเราออกแบบแอปพลิเคชั่น “Pi” (พาย) ขึ้น สำหรับการเปลี่ยนชื่อในครั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจของ CGH ที่เพิ่งประกาศจัดตั้งบริษัท “Pi Ventures” ด้วยเม็ดเงิน 500 ล้านบาท โดยจะมุ่งเน้นการลงทุนในบริษัทและโครงการที่มีศักยภาพในการพัฒนาต่อยอดกับแพลตฟอร์ม “Pi” (พาย) และช่วยสร้างนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลร่วมกับบริษัทในเครือทั้งหมด”นายทอมมี่ กล่าว

ล่าสุดบริษัทได้พัฒนาแอปพลิเคชั่น “Pi” (พาย) กำหนดเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2565 ทั้งในระบบ Android และ iOS โดยบทบาทของแอปพลิเคชั่นนี้จะเป็นโซลูชั่นด้านการซื้อขายหลักทรัพย์และการลงทุนส่วนบุคคลชั้นนำของไทย แอปพลิเคชั่น “Pi” (พาย) โดยมีระบบกระเป๋าเงินดิจิทัล “Wallet” เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อ นอกจากนี้ ยังมีบริการข่าวสารทางการเงินการลงทุน ราคาหลักทรัพย์จากตลาดชั้นนำทั่วโลก อย่างไรก็ตามการปรับกลยุทธ์ธุรกิจครั้งนี้เป็นการสร้างโอกาสในการลงทุนให้กับนักลงทุนรายย่อย และเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุนให้กับนักลงทุนรุ่นใหม่ต่อไป