นายพอล วอง ซี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย(CIMB) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2564 ที่ผ่านมา ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 2,440.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89.1% ทั้งนี้ ธนาคารมีผลการดำเนินงานดีขึ้น แม้รายได้จากการดำเนินงานจะลดลง 3.9% สาเหตุหลักมาจากการควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 8.1% และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง 25.7% สินเชื่อด้อยคุณภาพ อยู่ที่ 7.9 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้นอยู่ที่ 3.7%

ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2565 มองว่ามีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดียิ่งขึ้น ในส่วนของการดำเนินธุรกิจของธนาคารในปีนี้ จะมุ่งเน้นโซลูชั่นทางการเงินอย่างยั่งยืน และตอบความต้องการลูกค้าผ่านการขับเคลื่อนจากธุรกิจหลัก โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายอาเซียนและdigital platform ภายใต้กลยุทธ์ Forward23+

“ในปีนี้ ซีไอเอ็มบี ไทย พร้อมที่จะก้าวเป็น “ธนาคารอาเซียนขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล” อยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์ Forward23+ โดยธนาคารจะกระจายความเสี่ยงของเงินฝาก บริหารจัดการความเสี่ยงเข้มข้น เพิ่มทักษะของคนทำงาน เพิ่มมูลค่าให้คนด้วยทักษะดิจิทัล และต้องทำธุรกิจบนพื้นฐานแห่งความยั่งยืน”นายพอล วอง ซี คิน กล่าว

ในส่วนของยุทธศาสตร์สร้างการเติบโต ธนาคารจะขับเคลื่อนผ่าน 3 ธุรกิจ ได้แก่1.ธุรกิจรายย่อย – ดิจิทัลและการใช้ฐานข้อมูลจะมีบทบาทหลักที่ช่วยขยายการเข้าถึงและขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้น นอกจากนี้ ธนาคารปักธงจะเป็นผู้นำตลาดธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง รวมถึงธนาคารจะขยับการปล่อยสินเชื่อรายย่อยเข้าสู่ดิจิทัลมากขึ้น สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยสินเชื่อรีไฟแนนซ์ และสินเชื่อส่วนบุคคล ขณะที่สินเชื่อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ จะประสานพลังการทำงานระหว่างกัน สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรและคู่ค้า ตลอดจนใช้ประโยชน์จากดิจิทัลมากขึ้น

2.ธุรกิจรายใหญ่ ซึ่งธนาคารจะเดินหน้าสนับสนุนลูกค้ารายใหญ่ ด้วยการเพิ่มคุณค่าให้บริการทางการเงิน ในระยะยาว อย่างยั่งยืน และ 3.ธุรกิจบริหารเงิน ธนาคารจะรักษาสถานะผู้นำตลาดของการเป็นผู้ออกผลิตภัณฑ์และผู้จัดจำหน่าย ปีนี้ นอกจากนี้ ธนาคารจะเพิ่มเติมรายได้ใหม่ๆ อาทิ รายได้อัตราแลกเปลี่ยนจากการชำระเงินและการโอนเงินข้ามพรมแดน และบริการคัสโตเดียน