โฆษกรัฐบาล แจงโครงการ “คนละครึ่งเฟส 4” นายกฯพอใจ ดันยอดหมุนเวียนเศรษฐกิจกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท รบ.มุ่งเติมเงินให้ปชช.ใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าจำเป็น เน้นสร้างความยั่งยืนศก.
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้ามาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ของรัฐ ในรอบปีใหม่นี้ 2565 ประกอบด้วย
โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่2และโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ที่รัฐบาลเพิ่มวงเงินสนับสนุนในการช่วยลดภาระการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันของประชาชน กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ล่าสุด ข้อมูล ณ วันที่ 17กุมภาพันธ์65 มีผู้ใช้สิทธิสะสมรวม 37.65ล้านคน ยอดใช้จ่าย สะสม รวม 35,781.37ล้านบาท แบ่งเป็น 1.โครงการคนละครึ่ง ระยะที่4 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 24.22ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 33,108.8 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 16,785.2ล้านบาทและรัฐร่วมจ่ายสะสม 16,323.6 ล้านบาท 2.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 12.40 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 2,467.72ล้านบาทและ 3.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 1.03ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 204.85 ล้านบาท
โฆษกประจำสำนักนายกฯกล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนที่มีสิทธิเดิมยืนยันและใช้จ่ายเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 65 และผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4 ใหม่สำเร็จแล้ว เริ่มใช้จ่ายเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทั้ง 2กลุ่มสามารถเริ่มใช้จ่ายได้จนถึงวันที่ 30เมษายน2565 สำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่3 แต่ยังไม่ได้กดยืนยันสิทธิ์ยังสามารถกดยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่4 ผ่านแอปพลิเคชัน“เป๋าตัง”โดยจะต้องเริ่มใช้สิทธิโครงการฯ ระยะที่4 ภายในวันที่ 28กุมภาพันธ์ 2565เวลา22.59น.หากพ้นกำหนดดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิ
‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ย้ำความสำเร็จของโครงการคนละครึ่งในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่2 เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17-18กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่าถูกออกแบบมาเพื่อเติมเงินให้ประชาชนที่กำลังเดือดร้อนในขณะนี้ ได้มีทุนเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นต่อการยังชีพในแต่ละวันโดยผ่านร้านค้ารายย่อยที่ลงทะเบียนไว้ สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยได้จริง เศรษฐกิจในระบบกลับมาหนุนเวียนตามกลไก ปัญหาต่างๆ ค่อยๆ คลี่คลาย อย่างไรก็ตาม มาตรการของรัฐบาลนี้ เน้นการสร้างเสถียรภาพ ความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ ความมั่นคงและสร้างสมดุลที่ดี ระหว่างสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ให้เศรษฐกิจเติบโตแข็งแรง ขอให้มั่นใจ รัฐบาลเข้าใจสถานการณ์ ตั้งใจแก้ปัญหาให้ดีที่สุด” นายธนกร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี