วันนี้ (22 กุมภาพันธ์ 2565) ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เปิดตัว ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ ครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ภายใต้การพัฒนาโดยทีมฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ ให้เป็นที่สุดแห่งรถกระบะออฟโรด ที่ทรงพลังที่สุดในตระกูลเรนเจอร์ ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ทันสมัยมากขึ้น ควบคุมการทำงานของตัวถังที่แข็งแกร่ง และเหนือชั้นยิ่งขึ้น เป็นรถกระบะตระกูลเรนเจอร์ ที่อัดแน่นด้วยสมรรถนะขั้นสูงสุด เท่าที่ฟอร์ดเคยพัฒนา
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ ได้รับการออกแบบให้มีรูปลักษณ์ภายนอกดุดัน สมกับสมรรถนะที่ได้รับการยกระดับไปอีกขั้น ทั้งซุ้มล้อที่ใหญ่ขึ้น เพิ่มความกว้างของรถ ไฟหน้าใหม่รูปตัว C อันเป็นดีเอ็นเอของรถกระบะฟอร์ด ตัวอักษร F-O-R-D ขนาดใหญ่บนกระจังหน้า และกันชนที่เป็นอิสระจากกระจังหน้า ไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Day-time running lights) แบบแอลอีดี ไฟเลี้ยวแบบไดนามิก ไฟสูงแบบ ตัดแสงและการปรับระดับแสงแบบอัตโนมัติ ล้ออัลลอยใหม่ขนาด 17 นิ้ว มาพร้อมยางออลเทอร์เรน BFGoodrich® KO2® บันไดข้างดีไซน์ใหม่ ทำจากอลูมิเนียม ส่วนด้านหลังใช้ไฟท้ายแบบแอลอีดี กันชนหลังสีเทาเข้มมีบันไดเหยียบเพื่อขึ้นกระบะท้าย และชุดลากในตัวที่ติดตั้งในตำแหน่งสูงเพื่อเพิ่มมุมจาก โดยรายละเอียดของอุปกรณ์แตกต่างกันไปในแต่ละตลาด
การออกแบบภายใน ยังคงสื่อถึงพลังและความดุดันของการเป็นออฟโรดสมรรถนะสูง ห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยใช้เบาะที่นั่งแบบสปอร์ต ทั้งเบาะหน้าและหลัง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องบินรบ มอบทั้งความสบายและกระชับแม้รถวิ่งด้วยความเร็วบนทางโค้ง พร้อมการตกแต่งรายละเอียดด้วยสีส้ม ‘โค้ด ออเรนจ์’ บนแผงหน้าปัด การตัดขอบชิ้นส่วนหลักๆ ในห้องโดยสาร รวมถึงเบาะที่นั่งแบบสปอร์ต ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นอีกเมื่อเปิดไฟส่องสว่างสีอำพันอบอุ่น ภายในห้องโดยสาร พวงมาลัยหนังเกรดพรีเมียม พร้อมแถบบอกตำแหน่งองศาพวงมาลัยหรือ On- centre mark และแป้นแพดเดิลชิฟต์เคลือบแมกนีเซียม
ห้องโดยสารของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ ทำงานด้วยระบบดิจิทัลทั้งหมด ด้วยแผงหน้าปัดความชัดเจนสูงขนาด 12.4 นิ้ว และหน้าจอแบบสัมผัสตรงกลางขนาด 12 นิ้ว แสดงผลการเชื่อมต่อและระบบความบันเทิง ผ่านระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A® รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ระบบเสียง Bang & Olufsen® 8 ตำแหน่ง
ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร EcoBoost V6 เทอร์โบคู่ มอบกำลังสูงสุดถึง 397 PS ที่ 5,650 รอบต่อนาที และแรงบิด 583 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบต่อนาที ขณะที่เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร จะยังคงมีอยู่ในฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ ที่จะวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2566
เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร EcoBoost V6 เทอร์โบคู่ ใช้เสื้อสูบกราไฟต์ ที่มีขนาดกะทัดรัด เมื่อเทียบกับเสื้อสูบเหล็กหล่อทั่วไป จะมีความแข็งแรงมากกว่าถึง 75% และทนทานกว่าถึง 75% โดยทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมเอาชนะทุกเส้นทางหฤโหด ไม่ว่าจะเป็น กรวด ดินลูกรัง โคลน หรือ ทราย ขณะที่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะแบบตลอดเวลา ใช้ระบบเกียร์ไฟฟ้าใหม่ที่ปรับได้ 2 ระดับ และยังมาพร้อมระบบควบคุมเฟืองท้ายคู่หน้าและหลัง แบบ locking differentials
และด้วยระบบท่อไอเสียควบคุมไฟฟ้า สามารถปรับเสียงได้ถึง 4 โหมด โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกระดับความดังของท่อไอเสียได้ เพียงกดปุ่มบนพวงมาลัย หรือ เลือกโหมดการขับขี่ดังต่อไปนี้
โหมดเงียบ – ออกแบบมาเพื่อตั้งค่าให้ท่อไอเสียเงียบมากกว่าการอวดสมรรถนะ เหมาะสำหรับการสตาร์ทรถตอนเช้าตรู่ เพื่อลดเสียงรบกวนเพื่อนบ้านหรือผู้คนในชุมชน
โหมดปกติ – สำหรับใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ด้วยเสียงเครื่องยนต์ที่ไม่ดังเกินไปสำหรับการขับบนท้องถนน โดยจะเป็นค่าเริ่มต้นกับการขับขี่โหมดปกติ โหมดถนนลื่น โหมดโคลน และโหมดหิน
โหมดสปอร์ต – มอบเสียงดังกระหึ่มขึ้น เมื่อต้องการเพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจยิ่งขึ้น
โหมดบาฮา – โหมดเสียงที่อวดความแรงสูงสุดทั้งความดังและความทุ้ม เสมือนระบบต่อตรงออกแบบมาสำหรับการขับขี่ออฟโรดเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีระบบป้องกันการรอรอบ (Anti-Lag System - ALS) เป็นส่วนหนึ่งของโหมดบาฮา ในฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ จะรักษาการหมุนของเทอร์โบชาร์จเจอร์ ที่ความเร็วสูงต่อไปอีกถึง 3 วินาที หลังจากผู้ขับขี่ปล่อยคันเร่ง รถ จึงคืนความเร็วได้ทันใจ ขณะเร่งออกจากทางโค้ง หรือระหว่างการเปลี่ยนเกียร์
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ ใช้แชสซีอันเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจาก ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ โดยเพิ่มการประกอบและอุปกรณ์เสริมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เสาซี กระบะท้าย ล้ออะไหล่ ไปจนถึงโครงรถแบบพิเศษ ที่พร้อมรองรับแรงกระแทกจากกันชน ขายึดโช้ค และฐานยึดโช้คหลัง รวมทั้งการออกแบบช่วงล่างใหม่ทั้งหมด ด้วยปีกนกบนและล่างใหม่ ที่ทำจากอลูมิเนียมที่แข็งแรง แต่มีน้ำหนักเบา รวมถึงระบบกันสั่นสะเทือน ที่มีระยะยืดยุบสูง พร้อมวัตต์ลิงก์ด้านหลัง ที่พัฒนามาเพื่อให้เจ้าของรถขับขี่ด้วยความเร็วสูงบนถนนขรุขระได้อย่างมั่นใจ
องค์ประกอบสำคัญของรถ ที่ทำหน้าที่รองรับแรงกระแทก จากลูกกระโดด และหลุมบ่อ คือ ระบบกันสะเทือน FOX แบบไลฟ์ วาล์ว Internal Bypass ขนาด 2.5 นิ้ว ที่ควบคุมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยช่วย ลดการสะเทือนตามการเคลื่อนไหวของรถ นับว่าได้ว่าระบบกันสะเทือนนี้ล้ำสมัยที่สุด เท่าที่เคยใช้ในฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ นอกจากนี้ ฟอร์ดยังเลือกใช้น้ำมันหล่อลื่นผสม Teflon™ ที่ลดการเสียดสีลงได้ถึง 50% เมื่อเทียบกับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รุ่นก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ยังติดตั้งแผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถ ที่มีขนาดใหญ่เกือบ 2 เท่าของขนาดปกติ ที่ใช้กับฟอร์ด เรนเจอร์ อีกทั้งยังทำขึ้นจากเหล็กเหล็กที่มีความแข็งแรงหนา 2.3 มิลลิเมตร เมื่อประกอบเข้ากับแผ่นปิดใต้เครื่องยนต์ และชุดเกียร์ จึงช่วยปกป้องชิ้นส่วนสำคัญ อาทิ หม้อน้ำ ระบบบังคับเลี้ยว คานด้านหน้า อ่างน้ำมันเครื่อง และชุดเฟืองได้ดีเยี่ยม
ในส่วนของตะขอลากจูงคู่หน้าและหลัง ทำให้รถพร้อมลุยในเส้นทางออฟโรด ทุกสถานการณ์ ให้ผู้ขับขี่เลือกใช้ตะขอใดตะขอหนึ่งเป็นจุดยึดสายลากจูงได้ ในกรณีที่ตะขออีกด้านเข้าถึงได้ยาก ขณะเดียวกันก็เพิ่มความสมดุลด้วยการใช้สายลากจูงสองเส้นเพื่อดึงรถขึ้นจากหลุมทรายลึกหรือหล่มโคลนได้
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ มีโหมดการขับขี่ให้เลือก ได้แก่
โหมดการขับขี่ทางเรียบ
โหมดปกติ – ออกแบบมาเพื่อความสบาย ประหยัดเชื้อเพลิง และขับขี่สะดวก
โหมดสปอร์ต – ออกแบบมาให้ตอบสนองไวขึ้น
โหมดทางลื่น- ออกแบบมาให้ผู้ขับมีความมั่นใจในการขับขี่บนถนนลื่นหรือพื้นถนนที่ไม่สม่ำเสมอ
โหมดการขับขี่ออฟโรด
โหมดหิน – มอบการยึดเกาะและการทรงตัวที่เหนือชั้นบนพื้นผิวที่ลื่นไถลได้ง่าย
โหมดทราย – สำหรับใช้ขับบนพื้นทรายหรือหิมะ เพิ่มประสิทธิภาพการส่งกำลังและเปลี่ยนเกียร์
โหมดโคลน – เพิ่มศักยภาพในการยึดเกาะขณะออกตัว และรักษาการทรงตัวของรถ
โหมดบาฮา – การขับขี่ด้วยความเร็วสูงเต็มสมรรถนะ โดยปรับทุกระบบให้พร้อมสำหรับการลุย
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบควบคุมความเร็วสำหรับการขับขี่ออฟโรด (Trail Control™) ทำหน้าที่เสมือนระบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ สำหรับการขับขี่ออฟโรด ผู้ขับขี่สามารถเลือกความเร็ว (ไม่เกิน 32 กิโลเมตร/ชั่วโมง) รถจะควบคุมการเร่งความเร็วและการเบรก ผู้ขับขี่เพียงแค่บังคับควบคุมพวงมาลัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี