รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง และอดีตรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ ม.รังสิตเปิดเผยว่า เศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวกระเตื้องขึ้นหลังสงกรานต์เงินสะพัดมากกว่าที่หลายสำนักวิจัยคาดการณ์ สะท้อนความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้น และผลบวกจากการเปิดประเทศ มีความต้องการซื้อบริการการท่องเที่ยวที่ถูกอั้นเอาไว้ (Pent Up Tourism Demand) จากกลุ่มที่มีกำลังซื้อชนชั้นกลางระดับบนขึ้นไป
ส่วนการที่กระทรวงการคลังมีนโยบายให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ช่วยค้ำประกันจ่ายหนี้คืน และจัดทำโครงการ “ซอฟต์โลนเป็นเรื่องที่ดีและเป็นการบรรเทาผลกระทบจากโควิดและสงครามยูเครนต่อภาคธุรกิจเอสเอ็มอี อย่างไรก็ตามมีความเป็นไปได้ที่เอสเอ็มอีจำนวนหนึ่งอาจไม่กลับมาฟื้นตัวและเป็นหนี้เสียถาวรหรือเลิกกิจการ ซึ่ง บสย. อาจต้องแบกรับภาระแทน เท่ากับเพิ่มหนี้สาธารณะขึ้นไปอีกอย่างน้อย 1-1.5 หมื่นล้านบาท
ขณะที่การขยายเพดานเงินกู้เป็น 70% ต่อจีดีพี มีความจำเป็น เพราะในความจริง เศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพมาหลายปีแล้ว และยังต้องกู้เงินมาชดเชยงบประมาณเพิ่มขึ้นทุกปี เราทำงบประมาณขาดดุลมาตลอดนับตั้งแต่ปี 2547 ไม่เคยสามารถทำงบประมาณสมดุลหรือเกินดุลได้เลย ทั้งที่เราเคยมีแผนยุทธศาสตร์ความยั่งยืนทางการคลังต้องทำงบประมาณสมดุลให้ได้ในปี 2561 งบประมาณปี 2565ที่พิจารณากันอยู่นั้นไม่เพียงพอต่อการบริหารประเทศและรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมอยู่แล้ว เป็นการจัดสรรงบในวงเงิน 3.1 ล้านล้านบาทซึ่งลดลงจากงบประมาณปีที่แล้ว 1.85 แสนล้านบาทหรือลดลง 5.6% เป็นการจัดงบประมาณที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์วิกฤตการณ์ การขาดดุลงบประมาณส่วนหนึ่งเป็นผลจากการไม่สามารถ
ขยายฐานภาษีทรัพย์สินได้
อย่างไรก็ตาม รศ.ดร.อนุสรณ์เป็นห่วงว่าความเสี่ยงของการที่ประเทศไทยจะถูกลดอันดับเครดิตหรือความน่าเชื่อถือนั้น มีความเป็นไปได้ในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า หากหนี้สาธารณะทะลุระดับ 70% ของจีดีพีและระบบเศรษฐกิจไทยโดยรวมไม่สามารถหารายได้มากพอที่ทำให้การชำระหนี้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น รวมทั้งไม่สามารถเพิ่มรายได้การจัดเก็บภาษี อย่างไรก็ตาม ฐานะทางการคลังของไทยยังพอไปได้เพราะเรายังมีหนี้ต่างประเทศในระดับต่ำมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี