เปิดตัวเลข6เดือนแตะ2ล้านคน
นักท่องเที่ยวเข้าไทย
โกยรายได้สะสม1.14แสนล้าน
เราเที่ยวด้วยกันเฟส4เริ่ม8ก.ค.
นายกฯพอใจสถานการณ์ดีขึ้น
ทั้งภาคอุตสาหกรรมขยายตัว
“นายกฯประยุทธ์” ยินดีภาพรวมท่องเที่ยวปีนี้ มกราคม-มิถุนายน ต่างชาติเข้าไทยเกือบ 2 ล้านคนสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวสะสม 1.14 แสนล้านบาทขณะที่ท่องเที่ยวในประเทศไม่แพ้กันประชาชนรับสิทธิเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ส่วนขยาย เริ่มใช้สิทธิที่พัก 8 กรกฎาคมนี้
เมื่อวันที่ 2 ก.ค.65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม รับทราบสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของไทยประจำปี 2565 ตั้งแต่เดือนมกราคม – 28 มิถุนายน 2565 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาแล้วกว่า 1,978,023 คน สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวสะสมรวม 1.14 แสนล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวเที่ยว 5อันดับแรกที่เดินทางผ่านด่านทางอากาศ ได้แก่ อินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม และสหรัฐอเมริกา ส่วน 5 อันดับแรกที่เดินทางผ่านด่านทางบก ได้แก่ มาเลเซีย ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีน
ทั้งนี้หลังจากยกเลิก Thailand Pass เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ด่านชายแดนกลับมาคึกคักมากที่สุดในรอบ 2 ปี เช่น ด่านพรมแดนสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นด่านชายแดนไทย-มาเลเซียมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งมาเลเซียและสิงคโปร์ทยอยเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่องเฉพาะวันแรกมีนักท่องเที่ยวเข้ามา ราว 5,000 คน และตลอดทั้งเดือนนี้คาดว่าจะมีตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นราว 1 แสนคน ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ประมาณการนักท่องเที่ยวในช่วงเวลาสามเดือนต่อจากนี้ กรกฎาคม-กันยายน 2565 ไว้ที่ 2,700,000 คน และสามเดือนสุดท้ายของปี 2565 ไว้ที่ 4,500,000 คน ซึ่งประมาณการยอดรวมนักท่องเที่ยวปี 2565 จำนวน 9,325,500 คน และได้ประมาณการรายได้จากนักท่องเที่ยว (ตลอดปี 2565) ไว้ที่ 1.27 ล้านล้านบาท
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมในส่วนของการท่องเที่ยวในประเทศ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 ส่วนขยาย มีกระแสตอบรับดี ประชาชนให้ความสนใจทยอยลงทะเบียนรับสิทธิเพื่อใช้บริการส่วนลดโดยเฉพาะเดือนกรกฎาคมที่มีวันหยุดยาวติดต่อกัน ทั้งนี้ เริ่มจองโรงแรมและที่พักได้แล้วถึงวันที่ 23 ตุลาคม 2565 และเริ่มเข้าพักได้ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม – 31 ตุลาคม 2565 ในส่วนตั๋วเครื่องบินจะเปิดให้ลงทะเบียน โดยเป็นตั๋วที่จองและออกเดินทางตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม – 5 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งในส่วนของสถานประกอบการโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร สถานบริการท่องเที่ยว มีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการทุกราย ให้คงกำหนดราคาที่พักในราคาปกติและเป็นธรรม อย่าฉวยโอกาสที่มีโครงการสนับสนุนจากรัฐบาลในการปรับขึ้นราคาผู้ประกอบการ เพื่อร่วมกันเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภายในประเทศต่อไป
“นายกรัฐมนตรี กำชับให้ทุกหน่วยงาน ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะส่วนท้องถิ่น ใช้อำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยของนักเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนเร่งประชาสัมพันธ์ข้อมูลและกิจกรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลายทั่วประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และขอให้ร่วมกันเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภายในประเทศ” นายธนกรฯ กล่าว
ทั้งยังเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รายงานดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนพฤษภาคม 2565 พบว่าขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 7.46% โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารทะเลแช่เย็นที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 19.97% ส่งผลให้ภาพรวมดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมช่วง 5 เดือนแรกของปี 2565 ขยายตัว 0.57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิต 5 เดือนแรกอยู่ที่ระดับ 64.11 เป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศคลี่คลายลงและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมและการเปิดประเทศ ส่งผลให้การบริโภคในประเทศปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องรวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและการอ่อนค่าของเงินบาทช่วยสนับสนุนให้การส่งออกขยายตัว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังมีอุตสาหกรรมหลักที่ดัชนีผลผลิตส่งผลบวกในเดือน พ.ค. 2565 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียม ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 13.06% จากผลิตภัณฑ์น้ำมันดีเซล น้ำมันเครื่องบิน และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 เป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.29% จากผลิตภัณฑ์ Integrated Circuit และ PWB เป็นหลัก และเภสัชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ที่ใช้รักษาโรค ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 25.73% จากผลิตภัณฑ์ยาเม็ดและยาน้ำ เป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.24% จากผลิตภัณฑ์ยางแท่ง และเครื่องประดับเพชรพลอยแท้ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.93% จากผลิตภัณฑ์จี้ สร้อย และกำไล เป็นต้น
“หลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมต่างๆ โดยเฉพาะมาตรการเปิดประเทศ ส่งผลให้ประชาชนสามารถออกมาใช้ชีวิตประจำวันและบริโภคได้ตามปกติมากขึ้น ทำให้ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น รวมทั้งการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัว ภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น คาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มจะขยายตัวใน 1-2 เดือนข้างหน้า โดยนายกรัฐมนตรีขอให้กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม ติดตามและคอยประเมินผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ เพื่อร่วมกันจัดหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป” นายธนกร ย้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี