“5,889 คัน” เป็นจำนวนของ “ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV)” ที่จดทะเบียนกับ กรมการขนส่งทางบก ตลอดทั้งปี 2564 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากยอดจดทะเบียน 2,999 คัน ในปี 2563 หรือหากย้อนไปดูในปี 2562 จะมียอดจดทะเบียน EV อยู่ที่ 1,572 คัน และในจำนวนนี้ “มอเตอร์ไซค์” หรือจักรยานยนต์ เป็นประเภทพาหนะที่มีสัดส่วนการจดทะเบียนพาหนะ EV มากที่สุด โดยมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าส่วนบุคคล ในปี 2564 ยอดจดทะเบียนอยู่ที่ 3,769 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ซึ่งอยู่ที่ 1,591 คัน และปี 2562 อยู่ที่ 791 คัน
ตัวเลขข้างต้นแม้จะดูไม่มากนักหากเทียบกับจำนวนรถยนต์จดทะเบียนทั้งหมดซึ่งอยู่ที่หลักล้านคันต่อปี แต่ก็สะท้อนภาพว่ามีผู้คนให้ความสนใจหันมาใช้ยานพาหนะพลังงานสะอาดชนิดนี้มากขึ้นเรื่อยๆ สอดคล้องกับกระแสโลกที่มุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งรวมถึง “พลังงานสะอาด” โดย EV นั้นไม่ก่อมลพิษทางอากาศอย่างเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) จึงตอบโจทย์ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
“ปตท.” ในฐานะองค์กรด้านพลังงาน ซึ่งมุ่งมั่นส่งเสริมการใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตลอดมา ตั้งแต่การริเริ่มจำหน่ายน้ำมันไร้สารตะกั่วเมื่อ 3 ทศวรรษก่อน และในปัจจุบันได้เปิดตัว “สวอพ แอนด์ โก (Swap & Go)” บริการสลับแบตเตอรี่แบบไม่ต้องรอชาร์จ รองรับการขยายตัวของผู้ใช้งานมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
Swap & Go มุ่งสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อแสวงหาผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และให้บริการที่เหมาะสมกับสังคมไทย โดยได้นำร่องการพัฒนาตู้แบตเตอรี่ ระบบการชาร์จไฟ ระบบบริหารจัดการทางไกล (Remote Monitoring & Control System) เพื่อดูแลและแก้ไขระบบการใช้งานได้แบบ Real-time
รวมทั้งจัดหามอเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถสลับแบตเตอรี่ได้ มาให้บริการในระบบ อีกทั้งยังมุ่งพัฒนามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานในอนาคต นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับบริษัทในกลุ่ม ปตท. ในการพัฒนาแบตเตอรี่ที่ผลิตในประเทศ ให้ได้มาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล เพื่อให้ใช้งานกับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้อีกด้วย
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ Swap & Go ได้ประกาศร่วมมือกับ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ “TTA” บริษัทชั้นนำด้านการลงทุนในเชิงกลยุทธ์ เพื่อพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ที่มีประสิทธิภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้แบรนด์ P80 Go ของบริษัท พี80 โก จำกัด (P80 Go) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ TTA ให้สามารถใช้งานสลับแบตเตอรี่ในระบบของ Swap & Go ได้
โดย TTA มีธุรกิจในเครือ คือ Skootar ซึ่งเป็นธุรกิจบริการเรียกเมสเซนเจอร์ออนไลน์ และร้าน Pizza Hut ดังนั้น ช่วงประมาณเดือนสิงหาคม 2565 บริษัท พี80 โกฯ จะนำมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นทดสอบมาให้ไรเดอร์ Pizza Hut และ Skootar ทดลองใช้ก่อนในเฟสแรก ซึ่งยังเป็นรุ่นที่ชาร์จแบตเตอรี่กับไฟฟ้าตามที่อยู่อาศัย และชาร์จที่ EV Charging Station ตามปั๊มน้ำมันก็ได้เช่นกัน ซึ่งมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ P80 Go มีกำลังการผลิตเบื้องต้นประมาณการไว้ที่ร้อยละ 10 – 20 ของตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าภายในประเทศ หรือ 1,000 – 2,000 คันต่อปี ช่วงราคาตั้งแต่ 50,000 - 120,000 บาท
ดังนั้นในอนาคต ผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ P80 Go จะได้รับความสะดวกอย่างยิ่ง เพราะสามารถสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่กับเครือข่ายตู้สลับแบตเตอรี่ (Battery Swapping Station) ของ Swap & Go ซึ่งมีจุดให้บริการครอบคลุมหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ อีกทั้งยังมีแผนขยายเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ TTA ยังร่วมมือกับ บริษัท สตรอม (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกยานยนต์ไฟฟ้าที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย ตลอดจนมีศักยภาพที่จะช่วยพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานให้กับแบรนด์ P80 Go เพื่อให้ P80 Go ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในอนาคต
นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA และ บริษัท พี80 โก จำกัด กล่าวว่า TTA ต้องการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ โดยเฉพาะผู้ประกอบอาชีพไรเดอร์ที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและสภาพเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงเป็นการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐบาลอีกแรงหนึ่งด้วย
“TTA มีนโยบายการทำธุรกิจที่ยั่งยืนและให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเรื่องการลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprints) ดังนั้น ธุรกิจรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของบริษัท พี80 โกฯ จึงสอดคล้องกับนโยบายของ TTA และจะช่วยลดผลกระทบต่อมลภาวะที่เกิดขึ้นได้ เช่น ฝุ่นจากการเผาไหม้ และมลภาวะทางเสียง เป็นต้น” นายเฉลิมชัย กล่าว
ด้าน น.ส.อาวีมาศ สิริแสงทักษิณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวอพ แอนด์ โก จำกัด กล่าวว่า Swap & Go มุ่งพัฒนารูปแบบธุรกิจการให้บริการสลับแบตเตอรี่ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นออกแบบกระบวนการใช้งานให้ง่าย สะดวก และทันสมัย ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Swap & Go เชื่อมต่อกับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่รองรับการใช้งาน เพื่อตรวจสอบปริมาณแบตเตอรี่ ค้นหาตำแหน่งสถานีสลับแบตฯ จองแบตฯ ใหม่ล่วงหน้า และมีระบบนำทางไปยังสถานี เมื่อไปถึงสถานีแล้ว สามารถสแกน QR code เพื่อสลับแบตฯ เดิมที่หมดกับแบตฯ ใหม่ที่พร้อมใช้งานในตู้ชาร์จด้วยตัวเองได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
“Swap & Go พร้อมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อแสวงหาผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และให้บริการที่เหมาะสมกับสังคมไทย ความร่วมมือกับ P80 GO นี้นับเป็นการพัฒนา EV Ecosystem เพื่อเตรียมความพร้อมในการเพิ่มจำนวนการใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในประเทศไทยผ่านการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ สู่เป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างยั่งยืน” น.ส.อาวีมาศ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี