นายจารุวัฒน์ สิงห์สมดี ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสบริหารบริษัทในเครือและโครงการลงทุน รักษาการผู้จัดการส่วนนโยบายความยั่งยืนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บริษัทโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ หรือGPSC เปิดเผยว่าGPSC ได้กำหนดแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมไฟฟ้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต มุ่งตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและกลยุทธ์ความยั่งยืน วางเป้าหมายที่จะก้าวสู่องค์กรความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปีค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์(Net-Zero GHG Emissions) ในปี ค.ศ. 2060 ร่วมกับกลุ่มปตท. และสอดรับกับนโยบายประเทศ ผ่าน 4 กลยุทธ์หลักหรือ 4S ที่จะขับเคลื่อนให้ GPSC ก้าวสู่การเป็นบริษัทฯชั้นนำด้านนวัตกรรมพลังงานเพื่อความยั่งยืนระดับโลก
กลยุทธ์ 4S ประกอบด้วย S1: Strengthen and Expand the Core การสร้างความแข็งแกร่ง พร้อมขยายการให้บริการในธุรกิจหลัก ที่เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต S2: Scale-up Green Energy การเพิ่มสัดส่วนการพัฒนาโครงการพลังงานสะอาด S3: S-Curve & Batteries การพัฒนานวัตกรรมพลังงานและธุรกิจแห่งอนาคต S4: Shift to Customer-centric Solutions บริการโซลูชั่นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ ทั้งในด้านการผลิตไฟฟ้าและสาธารณูปโภค โดยใช้นวัตกรรมพลังงานทั้งโรงไฟฟ้าหลักและโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก
“กลยุทธ์ 4S จะนำไปสู่โจทย์ Net-Zero โดยค่อยๆ ลดความเข้มข้นของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงซึ่งเราดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยกลยุทธ์ S1 เรามุ่งมั่นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าให้มากขึ้น และไม่ลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินใหม่ กลยุทธ์ S2 เรามุ่งเพิ่มสัดส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนให้ได้มากกว่า 50% ในปี ค.ศ. 2030 กลยุทธ์ S3 เรายังคงมองหานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น แบตเตอรี่ที่จะมาเพิ่มประสิทธิภาพของไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และสำหรับกลยุทธ์S4 เราให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า มุ่งเน้นการบริหารจัดการพลังงานแบบครบวงจร โดยเฉพาะการใช้นวัตกรรมพลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดกับลูกค้าแต่ละราย” นายจารุวัฒน์ กล่าว
แม้ว่าทิศทางการพัฒนาธุรกิจของ GPSC จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น แต่ด้วยประสิทธิภาพของการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ ยังคงต้องพึ่งพิงพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ดังนั้น จึงต้องมุ่งหาเทคโนโลยีใหม่ที่จะมาช่วยดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CO2และนำไปกักเก็บ หรือการนำคาร์บอนฯ ไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ (Carbon Capture Utilization and Storage: CCUS ) รวมถึงศึกษาความเป็นไปได้ในการนำก๊าซไฮโดรเจนเข้ามาเป็นส่วนผสมในตัวเชื้อเพลิง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ ลดการเกิดคาร์บอนฯ ขณะเดียวกันคาร์บอนฯที่สามารถลดได้ จะนำไปสู่การซื้อขายในตลาด (Carbon Credit) สิ่งเหล่านี้ GPSC กำลังเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Net-Zero
“ปัจจุบันโรงไฟฟ้าพลังงานหลักยังจำเป็นในการพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการใช้ในประเทศ แต่การมุ่งสู่ขยายพอร์ตพลังงานสะอาดจะช่วยเพิ่มการกระจายการใช้เชื้อเพลิงเพื่อให้สัดส่วนการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง เพราะวันนี้ยังไม่มีเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ Low Carbon ควบคู่กับเสถียรภาพในการจ่ายพลังงาน แต่ในฐานะบริษัทพลังงานจึงต้องพยายามหาเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ ทั้งการพัฒนาแบตเตอรี่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานหมุนเวียน การหาเทคโนโลยีดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นทางออกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในขณะนี้ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่โลกกำลังมุ่งสู่เทรนด์พลังงานสะอาด” นายจารุวัฒน์กล่าว
นอกเหนือนี้บริษัทฯยังให้ความสำคัญในเรื่องของ ESG (Environmental, Social and Governance) ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ มุ่งเน้นไปในเรื่อง Climate Change ที่จะช่วยแก้ปัญหา บรรเทาผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยมีการศึกษาเพื่อลงทุนโครงการใหม่ที่เป็น Green Energy เพื่อตอบโจทย์สังคมและเป้าหมายในอนาคต โดยร่วมกับสถาบันชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนเรื่องความยั่งยืนของบริษัทฯ อีกทางหนึ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี