นายวิชิต พยุหนาวีชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล จำกัด (SCAP) เปิดเผยถึงแนวโน้มการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 ว่า บริษัทได้มีการประเมินในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 จะมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง และมั่นใจว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 2565 ที่ระดับประมาณ 11,000ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังได้ตั้งเป้าหมายในการรักษาระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) รวมทั้งหมดไว้ไม่เกิน 2%
ในขณะที่ความคืบหน้าในการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท เงินทุน ศรีสวัสดิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ BFIT และบริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล จำกัด โดย BFIT อยู่ในระหว่างการยื่นขอคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินทุน และทำการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ภายใต้การกำกับจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทั้งนี้บริษัทคาดการณ์ว่ากระบวนการควบรวมกิจการจะแล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2565 นี้
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก 2565 ที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งในส่งของรายได้และกำไรสุทธิ เนื่องจากบริษัทสามารถทำผลงานเทียบเท่ากับปี 2564 ภายในระยะเวลาเพียงครึ่งปีเท่านั้น ดังนั้น ในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 บริษัทมองว่ายังเป็นโอกาสที่ดีของธุรกิจจากแนวโน้มการฟื้นตัวของภาพรวมภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ดีขึ้น หรือแม้แต่การคลี่คลายของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เด่นชัดมากขึ้น ดังนั้น ภาพรวมธุรกิจยังคงเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
นายวิชิตกล่าวว่า ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2 ปี 2565 บริษัทและและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 174.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.07% จากช่วงเดียวกันของปี 2564 ขณะที่รายได้อยู่ที่ 892.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 198.61% จากช่วงเดียวกันของปี 2564 โดยปัจจัยสนับสนุนการเติบโตมาจากความต้องการรถจักรยานยนต์ใหม่ในพื้นที่ศักยภาพที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทได้จับมือร่วมกับดีลเลอร์พันธมิตรทั่วประเทศ จึงช่วยสนับสนุนให้เกิดการปล่อยสินเชื่อได้มากยิ่งขึ้น ขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคล พบความต้องการเพิ่มขึ้นหลังจากภาครัฐผ่อนปรนมาตรการโควิด-19 ส่งผลให้ลูกค้าประเมินความสามารถในการผ่อนชำระได้ จึงทำให้มีการขอสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ส่วนผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกปี 2565 (ม.ค.-มิ.ย.) บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 310.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 140.79% จากช่วงเดียวกันของปี 2564 โดยกำไรสุทธิดังกล่าวเกือบเทียบเท่ากับกำไรสุทธิทั้งปี 2564 และมีรายได้อยู่ที่ 1,415.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 187.23% จากช่วงเดียวกันของปี 2564 โดยรายได้ครึ่งปีแรก 2565 ทุบสถิติรายได้ทั้งปี 2564 เช่นเดียวกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี