หลังจากที่ค่ายใบพัดฟ้าขาว ได้ทำการเปิดตัวรุ่นใหม่หลายรุ่น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า BMW 520 d MSport ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่หลายคนหลงใหลและใฝ่ฝันที่จะเป็นเจ้าของ ไม่เพียงแต่รูปโฉมที่ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยว และสมรรถนะที่โดดเด่นของเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ยังมาพร้อมฟีเจอร์อำนวยความสะดวก และความปลอดภัยที่ล้ำสมัยมากขึ้น

BMW 520d M Sport มาพร้อมโลโก้สีสันใหม่ ที่โดดเด่นและสวยงามมากขึ้นกว่าเดิม ดีไซน์ภายนอกและภายในสไตล์สปอร์ตหรูหรา ไม่ว่าจะเป็น ชุดแต่งM Aerodynamics กระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ ไฟหน้า LED โคมไฟหน้าตกแต่งสีดำ พร้อมระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ ไฟท้าย LED ท่อไอเสียทรงสี่เหลี่ยมคางหมู และเพิ่มความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ด้วยชุดตกแต่งพิเศษ M Sport ล้ออัลลอย M น้ำหนักเบาลาย Double-spoke ขนาด 18 นิ้ว และช่วงล่างแบบ M Sport

การตกแต่งภายในห้องโดยสาร เน้นความหรูหรา สง่างาม ด้วยอะลูมิเนียมลาย Rhombicle Smoke Grey พร้อมแถบโครเมียม ปุ่มบริเวณคอนโซลกลาง
สีดำเงา พวงมาลัยหุ้มหนังมัลติฟังก์ชั่น M Sport พร้อมคอนโซลด้านบนบุด้วยหนังSensatec เบาะหนังแท้ Dakota ระบบ BMW Head-up Display และเพิ่มความหรูหรา ด้วยชุดไฟ Ambient Light ส่องสว่างภายนอกและภายในห้องโดยสาร

รวมทั้งมีระบบความบันเทิง และการสื่อสารต่างๆ มากมาย โดยทั้งหมดควบคุม ด้วยระบบปฏิบัติการล่าสุด ตลอดจนระบบ BMW Live Cockpit Professionalเทคโนโลยีเพื่อการเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด BMW Connected Drive ระบบ iDrive ที่สามารถควบคุมฟังก์ชั่นหลัก ด้วยท่าทางการเคลื่อนไหวของมือ โดยไม่ต้องมีการสัมผัสแต่อย่างใดแบบ Gesture Control และระบบเสียงคุณภาพจากลำโพง Harman Kardon รวมถึงกุญแจรีโมทระบบสัมผัส BMW Display Key ที่สามารถควบคุม สั่งการ และดูข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับรถได้ อาทิ น้ำมัน และระยะทางที่เหลือ สถานะล็อกประตู การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ผ้าเบรก และเปิดฝาท้าย เป็นต้น

ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 4 สูบ พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPowerTurbo ใหม่ล่าสุด กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบ  Steptronic พร้อม GearshiftPaddles ตามสเปกระบุไว้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 235 กม./ชม.

ช่วงการทดสอบ ผู้เขียนใช้เส้นทางกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ จ.บุรีรัมย์ ระยะทางโดยรวมกว่า 400 กม. บอกได้คำเดียวว่าสุดยอดมาก เทคโนโลยี BMW TwinPowerTurbo ให้ทั้งความแรง สมรรถนะที่โดดเด่นและความประหยัดสูงสุด ขับความเร็วเฉลี่ย130-140 กม./ชม ไปถึงสนามช้างฯ เซอร์กิตยังมีตัวเลขน้ำมันเหลือขับได้อีกกว่า 650 กม.เรียกได้ว่าเติมเต็มถังไปกลับ กรุงเทพฯไม่ต้องง้อน้ำมันกันเลยทีเดียว ในส่วนฟีเจอร์ต่างๆ ก็มีให้เล่นมากมาย รวมถึงสามารถปรับเลือกโหมด ในการขับขี่ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสเท่านั้น ซึ่งถ้าต้องการขับแบบประหยัด ก็เลือกโหมด ECO PRO ต้องการขับแบบชิลๆ กินลมชมวิว COMFORT แต่ถ้าจะเอาแบบสนุกขับมันส์ โหมด SPORT โดยระบบจะทำการเซตให้ตัวรถตอบสนองต่อการอัตราการเร่งและกำลังของเครื่องยนต์ รวมทั้งน้ำหนักของพวงมาลัย และการควบคุมระบบเสถียรภาพแบบไดนามิค พวงมาลัยแบบแพดเดิ้ลชิพ ให้ความแม่นยำสูง ในส่วนของช่วงล่างM Sport หนึบ เกาะถนนสุดยอด ให้ความมั่นใจทุกครั้งที่อยู่หลังพวงมาลัย

นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีการขับขี่ที่ล้ำสมัย ที่ช่วยให้การขับขี่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อาทิ ระบบควบคุมความเร็วคงที่ พร้อมฟังก์ชันช่วยลดความเร็ว ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน ระบบเตือนกันชนด้านหน้า พร้อมช่วยเบรก และระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ เป็นต้น

โดยสรุปแล้ว BMW 520dM Sport เป็นสปอร์ตซีดานที่น่าสนใจอีกหนึ่งรุ่น ด้วยสมรรถนะและเทคโนโลยีล้ำสมัย ที่ติดตั้งมาให้เพิ่มเติมแบบเต็มพิกัด เรียกได้ว่าเหนือกว่ารถในเซกเม้นท์เดียวกันอย่าง เห็นได้ชัด จะขับช้า หรือ เร็วระบบมีรองรับทุกไลฟ์สไตล์ สำหรับราคาจำหน่าย 3,539,000 บาท ถ้าชอบต้องไปลองขับก่อนตัดสินใจ!!

นิติ โมราวรรณ