นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยยอดการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ทั่วประเทศประจำเดือนกันยายน 2565 และไตรมาส 3/65 ว่า ธุรกิจตั้งใหม่ เดือนกันยายน 2565 จำนวน 7,219 รายมูลค่าทุนจดทะเบียน 19,827.45 ล้านบาท ธุรกิจตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 593 ราย คิดเป็น 8% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 513 รายคิดเป็น 7% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 295 ราย คิดเป็น4% ตามลำดับ

ขณะที่ธุรกิจจัดตั้งใหม่ไตรมาส 3/65ทั่วประเทศ 20,495 ราย เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2565 จำนวน 17,954 ราย เพิ่มขึ้น2,541 ราย คิดเป็น 14% และเมื่อเทียบกับ
ไตรมาส 3/2564 จำนวน 17,034 รายเพิ่มขึ้น 3,461 ราย คิดเป็น 20% คิดเป็นมูลค่าทุน 73,332.21 ล้านบาท ธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 1,763 ราย คิดเป็น 9% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 1,345 ราย คิดเป็น6% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 900 รายคิดเป็น 4% ตามลำดับ

ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนกันยายน 2565 มี 1,946 ราย มีมูลค่าทุนจดทะเบียน 10,081.49 ล้านบาท ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก
ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 154 รายคิดเป็น 8% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์96 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 59 รายคิดเป็น 3% ตามลำดับขณะที่ธุรกิจเลิกประกอบกิจการไตรมาส 3/65มี 5,430 ราย มีมูลค่าทุนจดทะเบียน 29,733.53 ล้านบาท สอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 486 รายคิดเป็น 9% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์266 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 173 ราย คิดเป็น 3% ทำให้ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนกันยายน 2565 ทั่วประเทศ 846,954 ราย มูลค่าทุน 20.46 ล้านล้านบาท

การจดทะเบียนธุรกิจ เป็นไปตามภาพรวมของเศรษฐกิจ ได้รับแรงสนับสนุนสำคัญจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและบริการ จากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 และมาตรการด้านต่างๆ สะท้อนได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศในเดือนกันยายนกว่า 1.3 ล้านคนรวมทั้งการจัดกิจกรรมขนาดใหญ่หลายกิจกรรมที่ได้รับการตอบรับเข้าร่วมจากประชาชนจำนวนมาก

ขณะเดียวกัน ต้นทุนด้านพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น (น้ำมันเชื้อเพลิง ค่ากระแสไฟฟ้า และก๊าซหุงต้ม) และราคาต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อราคาต้นทุนของ
ผู้ประกอบการ อีกทั้ง น้ำท่วมในบางพื้นที่ และค่าขนส่งสาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อผู้บริโภคจากปัจจัยดังกล่าว ประกอบกับสถิติการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ของนิติบุคคล 3 ปีย้อนหลัง (ปี 2562-2564) ที่จะมีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 3 สูงที่สุดในแต่ละปีและลดลงในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี กรมจึงคาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ตลอดทั้งปี 2565 อยู่ระหว่าง 68,000-72,000 ราย