“เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล” คาดไตรมาส 3 ปี 2565 ผลการดำเนินยังสามารถเติบโตต่อเนื่อง โดยยังมั่นใจพอร์ตสินเชื่อรวมจะขยายตัวได้ 30% ตามเป้าหมาย หรืออยู่ที่ระดับประมาณ 12,600 ล้านบาท ย้ำนโยบายใหม่ของ“สคบ.” ในการควบคุมอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อ ไม่กระทบการดำเนินงาน
นางสุธารทิพย์ พิสิฐบัณฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ HENG ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายใหญ่ของประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ “เฮงลิสซิ่ง” เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2565 คาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากความสามารถในการให้บริการสินเชื่อแก่ลูกค้าในท้องถิ่น ที่มีความต้องการแหล่งเงินทุนเพิ่มขึ้น ภายหลังจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศอยู่ในทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับการมุ่งเน้นควบคุมคุณภาพลูกหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยพิจารณาสินเชื่อและการจัดเก็บหนี้ จึงคาดว่าหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPLs จะมีทิศทางลดลงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้บริษัทยังได้เตรียมความพร้อมเพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถการแข่งขันด้านการให้บริการสินเชื่อแก่ลูกค้า โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า พร้อมมุ่งบริหารต้นทุนทางการเงินให้มีประสิทธิภาพ เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงจากภาวะดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งบริษัทได้รับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากสถาบันการเงิน ทำให้ต้นทุนการเงินลดลง ช่วยส่งเสริมขีดความสามารถการให้บริการสินเชื่อแก่ลูกค้าในท้องถิ่นได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นผลดีต่อภาพรวมการดำเนินงานของบริษัทในปี 2565 ที่คาดว่าจะสามารถขยายพอร์ตสินเชื่อรวมให้เติบโต 30% หรืออยู่ที่ระดับ 12,600 ล้านบาท ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2565 นี้จะนำเทคโนโลยีด้านไอทีมาเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการสินเชื่อและเพิ่มช่องทางการเข้าถึงลูกค้า หลังได้ลงทุนพัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทรัพยากรเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อรองรับการขยายตัวโดยพัฒนาซอฟต์แวร์พิสูจน์ยืนยันตัวตน หรือ KYC ช่วยพิจารณาสินเชื่อที่เหมาะสม รวดเร็ว ด้วยต้นทุนให้บริการที่ลดลง พร้อมเพิ่มความสามารถควบคุมและบริหารจัดการคุณภาพลูกหนี้ ทำให้ NPLs เหลือ 3.1% จาก ณ สิ้นปี 2564 อยู่ที่ 3.4% นอกจากนี้จะนำฐานข้อมูล (Big Data) มาวิเคราะห์วางแผนต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ให้มีความหลากหลายและเหมาะสมกับพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมาย สร้างโอกาสให้ประชาชนในแต่ละท้องถิ่นเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่โปร่งใสและเป็นธรรม
ส่วนกรณีนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ที่ต้องการควบคุมอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อ โดยคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในไตรมาสแรกของปี 2566 หลังจากที่คณะกรรมการว่าด้วยสัญญาและคณะกรรมการ สคบ. เสนอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเตรียมประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งได้มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อต่อปีสำหรับรถยนต์ใหม่ไม่เกิน 10% ส่วนรถยนต์มือสองกำหนดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 15% และรถจักรยานยนต์กำหนดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 23%
ทั้งนี้บริษัทประเมินว่า หากประกาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้แล้ว ก็จะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่บริษัทเรียกเก็บจากลูกค้าใกล้เคียงและต่ำกว่าเพดานโดยเฉลี่ยอยู่แล้ว บริษัทจึงมั่นใจว่าจะบริหารจัดการต้นทุนให้สอดคล้องกับแนวทางดังกล่าวของ สคบ.ได้ เพื่อผลักดันการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อให้ขยายตัวตามแผนที่บริษัทได้วางเอาไว้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี