ต้องบอกว่าผลของความสำเร็จในการที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำ 21 เขตเศรษฐกิจ กลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (APEC) ทำให้สปอตไลท์โลกส่องตรงมาที่ไทยอีกครั้ง ด้วยซอฟต์ พาวเวอร์ ที่เรามี และนโยบายของรัฐบาลที่จะดึงชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง เข้ามาอาศัยระยะยาวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนนั้น ยิ่งทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำคัญของคนทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มมหาเศรษฐีและผู้รายได้สูงจากทั่วโลก
ดังนั้นเราจึงเห็นว่าตลอด 2-3 ปี มานี้เราจึงได้เห็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่หลายราย สร้างโครงการที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่ ขึ้นมามากมายหลายโครงการ เพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภคระดับบนทั้งไทยและต่างชาติ ซึ่งหนึ่งผู้เล่นในตลาดนี้ที่โดดเด่นก็คือ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์คอร์ปอเรชั่น (จำกัด) หรือ MQDC ผู้พัฒนาโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีที่พักอาศัยอยู่ในโครงการหลากหลายรูปแบบด้วยกัน
และล่าสุด บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์คอร์ปอเรชั่น (จำกัด) พร้อมแล้วที่จะเปิดวิลล่าหลังแรกของโครงการมัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า ในวันที่ 1 ธันวาคม 2565 นี้ ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงแนวคิดใหม่ในการออกแบบบ้าน ที่หลายวิลล่าถูกเชื่อมต่อถึงกัน เพื่อให้ครอบครัวขยายที่ประกอบไปด้วยสมาชิกหลายเจเนอเรชั่นสามารถอยู่ร่วมกันได้ โดยยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยการอยู่อาศัยในบ้านเดี่ยวของตัวเอง ซึ่งในโครงการมัลเบอร์รี่ โกรฟ วิลล่า ประกอบด้วย บ้านเดี่ยวที่ออกแบบโดย Foster + Partners โดยแต่ละวิลล่ามีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ประมาณ 1,000-1,700 ตารางเมตร ตั้งกระจายตัวอยู่บนที่ดินพื้นที่ 26 ไร่ ใน เดอะ ฟอเรสเทียส์โครงการมิกซ์ยูส ขนาด 398 ไร่ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการอสังหาริมทรัพย์ภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
นายชาคริต หัสสรังสี ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้เชี่ยวชาญในการดูแลโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นแบรนด์ระดับลักชัวรี่ต่างๆ ซึ่งรวมถึงโครงการซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ กล่าวว่า “นี่เป็นแนวคิดใหม่ที่น่าตื่นเต้น ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิถีชีวิตของครอบครัวคนไทยที่หลายเจเนอเรชั่นในครอบครัวเดียวกันมักจะปลูกบ้านอยู่ใกล้ๆ กัน แต่ด้วยความจำเป็นของวิถีชีวิตคนเมืองสมัยใหม่ ทำให้การใช้ชีวิตตามแบบที่เคยเป็นมา กลายเป็นเรื่องยากมากขึ้นเรื่อยๆ มัลเบอร์รี่ โกรฟ วิลล่า จึงมุ่งช่วยส่งเสริมให้ครอบครัวได้กลับมาอยู่ใกล้ชิดกันอีกครั้ง ซึ่งแนวคิดนี้ ได้รับความสนใจและการตอบรับเป็นอย่างดี และตอนนี้ทางโครงการพร้อมแล้วที่จะเชิญครอบครัวที่สนใจเข้าชมบ้านจริงได้ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ บ้านมัลเบอร์รี่ โกรฟ วิลล่า ออกแบบให้มี3 ขนาด ตั้งแต่ 4-6 ห้องนอน โดยแต่ละครอบครัวสามารถเลือกซื้อบ้านที่ต่างแบบกัน แล้วเชื่อมต่อกันเป็นคลัสเตอร์ของบ้านต่างขนาดกันไป ที่สามารถไปมาหาสู่ถึงกันได้ด้วยการเดินเพียงสั้นๆ จากบ้านสู่บ้าน ในขณะที่บ้านแต่ละหลังถูกออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัว แบ่งอาณาบริเวณของแต่ละบ้าน ด้วยแนวต้นไม้และฉากตามธรรมชาติอื่นๆ เพื่อให้มีความเป็นส่วนตัว โดยวิลล่าหลังใหญ่ที่สุดมีห้องรับประทานอาหารและพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ เพื่อให้ทั้งครอบครัวที่มีสมาชิกทุกเพศทุกวัย สามารถมารวมตัวทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยกันได้ในบ้านหลังเดียว โดยบางวิลล่าสามารถนั่งล้อมโต๊ะทานข้าวกันพร้อมกันได้ถึงยี่สิบคน หรือมากกว่านั้น
“การสร้างบ้านสไตล์คลัสเตอร์ที่บ้านมากกว่าหนึ่งหลังเชื่อมต่อถึงกัน แทนที่จะสร้างบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่มากๆ เพียงหนึ่งหลังแล้วให้ทุกคนอยู่ร่วมกันในนั้น ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อเปิดโอกาสให้คนในแต่ละเจเนอเรชั่นสามารถออกแบบเลย์เอาต์และการตกแต่งภายในบ้านของตัวเองให้สอดคล้องกับความต้องการ และสไตล์ที่แตกต่างกันตามแบบฉบับของตัวเองได้” นายชาคริตกล่าว
ด้านนายรุ่งโรจน์ จงศุจิพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “มัลเบอร์รี่ โกรฟ มีแนวคิดที่เปิดโอกาสให้สมาชิกในครอบครัวได้อยู่อาศัยใช้ชีวิตอยู่ในอาณาบริเวณที่ใกล้ชิดติดกับพ่อแม่ หรือลูกที่โตแล้ว หรือทั้งสองอย่าง ยังจะช่วยทำให้เจ้าของบ้านมี “โบนัสเวลา” เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของครอบครัวที่เพิ่มขึ้น โดยทุกเจเนอเรชั่นซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านที่ออกแบบเหมาะกับความต้องการของตัวเอง จะสามารถไปมาหาสู่กับสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัวได้โดยการเดินไปหาเพียงไม่กี่นาที ครอบครัวจะสามารถช่วยกันเลี้ยงเด็กๆ ได้ รวมทั้งช่วยกันดูแลพ่อแม่ที่อายุมากแล้วได้สะดวกสบายมากขึ้น และไม่จำกัดเวลาไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืนก็ตาม เป็นการประหยัดเวลาที่ต้องใช้ในการเดินทางไปมาหาสู่กันระหว่างบ้าน ซึ่งจะทำให้ครอบครัวมีเวลามากขึ้นสำหรับทำกิจกรรมร่วมกัน”
“วิลล่าขนาดใหญ่พิเศษของโครงการมัลเบอร์รี่โกรฟ วิลล่า มีเนื้อที่ใช้สอยประมาณ 1,700ตารางเมตร ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 310 ล้านบาท ส่วนวิลล่าขนาดใหญ่ที่มีเนื้อที่ใช้สอยประมาณ 1,200 ตารางเมตร ราคาขายประมาณ 220 ล้านบาทในขณะที่บ้านขนาดกลางเนื้อที่ใช้สอยประมาณ 1,000 ตารางเมตร ราคาขายประมาณ 185 ล้านบาทและ มัลเบอร์รี่ โกรฟ วิลล่า ตั้งอยู่ใกล้กับพื้นที่ส่วนลักชัวรี่อื่นๆ ภายในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์อาทิ ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ วิลล่า โครงการที่พักอาศัยซูเปอร์ลักชัวรี่ ซึ่งเป็นซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์แห่งแรกในประเทศไทย รวมทั้งโรงแรมซิกส์เซนส์ที่มีกำหนดจะเปิดให้บริการในปี 2567 ด้วย”
ขณะที่นายกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ผู้อำนวยการโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย MQDC กล่าวว่า “เราได้เห็นว่าโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ในเดอะ ฟอเรสเทียส์ ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ซึ่งรวมถึงโครงการมัลเบอร์รี่ โกรฟ วิลล่า ที่ทำยอดขายได้แล้วกว่า 5,500 ล้านบาท ในขณะที่โครงการซิกส์เซนส์เรสซิเดนซ์ ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และเรารู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากที่เห็นว่าหลายครอบครัวตั้งใจซื้อที่อยู่อาศัยโครงการต่างๆ ในเดอะ ฟอเรสเทียส์เพื่ออยู่จริง และการก่อสร้างโครงการก็กำลังคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว”
“ขณะนี้ที่อยู่อาศัยโครงการต่างๆ ทั้งหมดในเดอะ ฟอเรสเทียส์ มียอดขายรวมกันถึง 22,000 ล้านบาทแล้ว และเมื่อเร็วๆ นี้ ทาง MQDC ก็ได้รับอนุมัติสินเชื่อเพิ่มเติม สำหรับโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นจำนวนเงินกว่า 19,000 ล้านบาทจากธนาคาร 4 แห่ง หลังจากที่โครงการมีความคืบหน้าก้าวสำคัญๆ”
องค์ประกอบสำคัญที่โดดเด่นเป็นพิเศษอย่างหนึ่งของโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ได้แก่ ป่าขนาดใหญ่ พื้นที่ 30 ไร่บริเวณใจกลางโครงการ พร้อมทางเดินยกระดับที่ทอดยาวทะลุผืนป่ายาว 1.6 กิโลเมตร นอกจากโครงการที่พักอาศัยหลากหลายรูปแบบแล้ว เดอะ ฟอเรสเทียส์ ยังประกอบไปด้วยพื้นที่สำหรับกิจกรรมไลฟ์สไตล์และการพักผ่อนของครอบครัว ร้านค้าปลีก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม พื้นที่ Town Center สำหรับกิจกรรมชุมชนและกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ Family Center ตลาด สปอร์ตคอมเพล็กซ์ และพื้นที่เชิงธุรกิจสำหรับสำนักงาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี