เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้จัดพิธีมอบรางวัล “โครงการซีพีเพื่อความยั่งยืน 2022” เพื่อยกย่องเชิดชูผู้บริหารและพนักงานเครือซีพีทั่วโลกที่ได้ทำโครงการต้นแบบด้านความยั่งยืน ช่วยแก้ปัญหาและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม ชุมชนและกลุ่มคนเปราะบางให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของเครือซีพี โดยมอบรางวัลให้แก่บุคคลต้นแบบที่ดำเนินโครงการด้านความยั่งยืนจาก 10 ประเทศทั่วโลกรวมทั้งสิ้น 122 โครงการ ประกอบด้วย โครงการที่ได้รับคัดเลือกในปี 2020 จำนวน 59 โครงการและโครงการที่ได้รับคัดเลือกในปี 2022 จำนวน 63 โครงการ โดยมีนายศุภชัย เจียรวนนท์ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นผู้มอบประกาศนียบัตรซีพีเพื่อความยั่งยืน พร้อมกันนี้ซีอีโอ เครือซีพีได้ยกย่องผู้บริหารและพนักงานกว่า 300 คนที่ได้รับรางวัลซีพีเพื่อความยั่งยืนว่าเป็นบุคคลต้นแบบและเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนของเครือซีพี นอกจากนี้ซีอีโอเครือซีพียังประกาศให้ทุกกลุ่มรวมพลังนำองค์กรก้าวสู่เป้าหมายเพื่อความยั่งยืน โดยนอกจากเป้าหมายความยั่งยืนด้านการเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี 2050 แล้วนั้น ซีอีโอเครือซีพีได้มุ่งเน้นให้ทุกกลุ่มธุรกิจในเครือรวมพลังพัฒนาด้านการศึกษา เพื่อเป็นการสร้างคนรุ่นใหม่มาเป็นพลังขับเคลื่อนความยั่งยืนให้กับประเทศไทยและโลกใบนี้
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้บริหารและพนักงานเครือซีพีที่ได้รับรางวัลซีพีเพื่อความยั่งยืน และยกย่องให้เป็นฮีโร่หรือคนต้นแบบในการขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนของเครือซีพี ทั้งนี้ได้กล่าวตอกย้ำด้วยว่าเครือซีพีดำเนินธุรกิจใน 21 ประเทศทั่วโลกภายใต้หลักปรัชญา 3 ประโยชน์มาตลอดกว่าหนึ่งศตวรรษ และมีเป้าหมายความยั่งยืนสู่ปี 2030 ภายใต้ 3 เสาหลักคือ Heart : เศรษฐกิจ - Health : สังคม – Home : สิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายสู่การเป็นบริษัทแถวหน้าของโลกในด้านการความยั่งยืน ซึ่งมีความท้าทายคือการนำการเครือซีพีและทุกกลุ่มธุรกิจสู่การเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี 2050 นอกเหนือจากนี้ซีอีโอ เครือซีพีได้ประกาศให้ทุกกลุ่มธุรกิจรวมพลังขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนเน้นหนักไปที่การพัฒนาด้านการศึกษา เพราะการศึกษาจะสร้างเด็กให้เป็นคนรุ่นใหม่ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงและทำให้การขับเคลื่อนสู่เป้าหมายความยั่งยืนสำเร็จทั้งในระดับประเทศและระดับโลก
“ในปี 2023-2035 โลกจะเผชิญกับความท้าทายที่เป็นเมกะเทรนด์ทั้งหมด 6 ด้าน ประกอบด้วย 1.ความเหลื่อมล้ำ 2. การเปลี่ยนสู่ดิจิทัลและพลังงาน 3.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 4.ภาวะเงินเฟ้อรุนแรง5. โลก 2 ขั้วอำนาจ และ 6.การเผชิญในเรื่องสุขภาพและโรคระบาดใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อโลก ดังนั้นการทำธุรกิจของเครือซีพีจะต้องคำนึงถึงความยั่งยืนให้เป็นเนื้อเดียวกับธุรกิจในทุกมิติทั้งสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม จึงต้องได้รับความร่วมมือจากผู้บริหาร พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนความยั่งยืน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงทางบวกและจะนำพาองค์กรติดท็อป20 องค์กรด้านความยั่งยืนของโลกให้ได้”
นายศุภชัย กล่าวอีกว่าในชีวิตคนเรามักให้ความสำคัญกับความมั่นคงของชีวิตและความฝันของเราเสมอ แต่เรามักจะลืมไปว่า สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตที่ทำให้เกิดความมั่นคงและพลังที่จะช่วยทำความฝันอันยิ่งใหญ่ของเราให้สำเร็จได้จริง คือ รักแท้ (ความเห็นอกเห็นใจ) รักแท้ทำให้เราเห็นและยอมรับในความแตกต่าง เชื่อมเราเข้ากับความเป็นจริงและทุกสิ่งทุกอย่างได้ ซึ่งรวมไปถึงตัวตนที่แท้จริงของเรา และช่วยให้เราสนุกไปกับชีวิตที่แสนงดงามนี้ไปด้วยกัน ทั้งนี้ขอชื่นชมผู้บริหารและพนักงานซีพีที่ได้รับรางวัลโครงการซีพีเพื่อความยั่งยืนในครั้งนี้ ทุกคนถือเป็นฮีโร่เป็นต้นแบบของชาวซีพี ขอให้ตั้งมั่นในเป้าหมายในการขับเคลื่อนงานด้านความยั่งยืน ในขณะเดียวกันต้องสนับสนุนการศึกษา สร้างวัฒนธรรมที่ดีให้กับคนรุ่นใหม่ เพราะพวกเขาคืออนาคตสร้างการเปลี่ยนแปลงทางบวกให้กับโลกของเราในทุกมิติ”นายศุภชัย กล่าวปิดท้ายเพื่อสร้างแรงบันดาลให้แก่ฮีโร่ด้านความยั่งยืนของเครือฯ
ในช่วงวิกฤตโควิด-19 เครือซีพีได้รวมพลังกลุ่มธุรกิจในเครือทั้งในประเทศและต่างประเทศทำโครงการช่วยเหลือคนในสังคมตามนโยบายของท่านประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์ ที่มีความตั้งใจและเร่งให้ทุกกลุ่มธุรกิจในเครือฯระดมสรรพกำลังให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้คนในสังคมให้ผ่านพ้นวิกฤตในช่วงที่ผ่านมา ประกอบด้วย โครงการโรงงานหน้ากากอนามัยฟรี เพื่อบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาล และประชาชนทั่วไป โครงการครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19 และโครงการซีพีปันปลูกฟ้าทะลายโจร นับเป็นการสะท้อนต้นแบบความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงของผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ รวมพลังทำความดีพร้อมสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติ สังคมก่อนองค์กรตามปรัชญา “3 ประโยชน์” ของเครือซีพี
สำหรับการมอบรางวัลโครงการซีพียั่งยืนในครั้งนี้เป็นการมอบรางวัลแก่โครงการซีพียั่งยืนที่ได้รับคัดเลือกในปี 2020 และปี 2022 โดยปี 2020 มีจำนวนโครงการที่ได้รับรางวัลรวม 59 โครงการ ประกอบด้วย โครงการที่ดำเนินการโดยกลุ่มธุรกิจในประเทศไทย 39 โครงการ ได้แก่ เครือเจริญโภคภัณฑ์ 6 โครงการ อาทิ ส่งเสริมการอนุรักษ์และอาชีพประมงพื้นบ้านปลาตะกรับ โครงการสร้างป่าสร้างรายได้บ้านสบขุ่น (สบขุ่นโมเดล) ซีพีเอฟ 10 โครงการ อาทิ ซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต : โรงเรียนบ้านใหม่สำโรงน้ำดื่มชุมชน ซีพีออลล์ 12 โครงการ อาทิ CP ALL x Art Story ศูนย์กระจายพันธุ์ไม้หายากของชุมชน กลุ่มทรู 6 โครงการ อาทิ การพัฒนาระบบดิจิทัล เพื่อกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ชุมชน UniversalDesign QR-Code แม็คโคร 2 โครงการ ได้แก่ ลำไยปันสุข คืนสุขสู่ชุมชน และพัฒนาเกษตรกรชาวเขา เพื่อชีวิตที่ดีกว่า พีซีจี 1 โครงการ ได้แก่ แม็กซ์วินเพื่อสังคมม้าอันยั่งยืน ซีพีแลนด์ 1 โครงการ ได้แก่ Care the Whale กำจัดขยะให้หายไป ซีพีพี 1 โครงการ ได้แก่ ธรรมชาติปลอดภัยแม่แจ่ม โครงการที่ดำเนินการโดยกลุ่มธุรกิจในต่างประเทศอีก 20 โครงการ ได้แก่ เวียดนาม 4 โครงการ อาทิ โภชนาการพอเพียง ปลูกป่าเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ลาว 1 โครงการ ได้แก่ Give Blood Give Life กัมพูชา 1 โครงการ ได้แก่ สร้างห้องน้ำให้น้อง ฟิลิปปินส์ 1 โครงการ ได้แก่ Fish Culture Project อินเดีย 1 โครงการ ได้แก่ Increase the fisher women income by drying their fishes using solar dryer tunnel สหรัฐอเมริกา 1 โครงการ ได้แก่ ศูนย์บริการเพื่อสุขภาพ
ในส่วนของโครงการซีพียั่งยืนที่ได้รับคัดเลือกในปี 2022 มีจำนวนทั้งสิ้น 63 โครงการ ประกอบด้วย โครงการที่ดำเนินการโดยกลุ่มธุรกิจในประเทศไทย 39 โครงการ ได้แก่ เครือเจริญโภคภัณฑ์ 11 โครงการ อาทิ น้ำพางโมเดล “บทพิสูจน์ความยั่งยืนจากความร่วมมือภาคประชาชน” อ.แม่จริม จ.น่าน ศูนย์ฝึกอาชีพเยาวชนเกษตร จังหวัดเพชรบุรี เลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน ซีพีเอฟ 12 โครงการ อาทิ ฟาร์มพอเพียง ซีพีเอฟอิ่มสุขปลูกอนาคตโรงเรียนท่าจีนอุดมศึกษา ซีพี ออลล์ 3 โครงการ อาทิ PIM ส่งรอยยิ้มสู่ยอดดอย เครือข่ายสร้างสุขสู่ปลายด้ามขวาน กลุ่มทรู 7 โครงการ อาทิ รู้เร็ว รักษาเร็ว เข้าถึงโอกาสพัฒนาคุณภาพชีวิต StS screening tools ผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ICT Talent แม็คโคร 3 โครงการ อาทิ Makro รักษ์โลก-ขวดเปล่า ไม่ให้สูญเปล่า โลตัส 2 โครงการ ได้แก่ ถุงคืนชีพ สร้างอาชีพ Boxes to Beds ส่วนกลุ่มธุรกิจในต่างประเทศรวม 24 โครงการ ได้แก่ โครงการจากเขตประเทศจีน 14 โครงการ อาทิ มอบความรักแก่เด็กออทิสติก เขตกุ้ยหลินพัฒนาพื้นที่เลี้ยงหมูแก้ปัญหาความยากจนเขตกว่านซู่ เวียดนาม 4 โครงการ อาทิ จากอาหารแห่งความห่วงไปสู่ธนาคารอาหารเวียดนาม ชมรมครอบครัว CPV มาเลเซีย 2 โครงการ ได้แก่ Food Waste Reduction Program และSchool Adoption Program ลาว 2 โครงการ ได้แก่ เลี้ยงไก่เพื่ออาหารกลางวันโรงเรียนเด็กกำพร้า แขวงหลวงพระบาง และ แลกเปลี่ยนเรียนรู้สู่มหาวิทยาลัย กัมพูชา 1 โครงการ ได้แก่ พลังงานสะอาดเพื่อสิ่งแวดล้อม และเมียนมา 1 โครงการ ได้แก่ Your Health Is Our Heart
อนันตเดช พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี